วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดกิจกรรมกำลังใจไร้กำแพง ให้ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี พบหน้าครอบครัว

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดกิจกรรมกำลังใจไร้กำแพง ให้ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ได้พบหน้าครอบครัว ทั้งพ่อแม่ลูก และสามีภรรยา ทางด้าน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในฐานะ ตัวแทนผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี กล่าวขอบคุณ-ชื่นชมนโยบาย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แยกผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ต้องขังเด็ดขาดออกจากกัน

(3 มิถุนายน 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเปิดกิจกรรม “กำลังใจไร้กำแพง” โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นางสาววลัยลักษณ์ ชุ่มชื่น ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง นำคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มกิจกรรม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้นำคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ลงนามถวายพระพร ต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 และเยี่ยมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วย

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เดินทางมาเผยแพร่ภาพข่าวกิจกรรมในวันนี้ว่า กิจกรรม “กำลังใจไร้กำแพง” เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ได้พบหน้าครอบครัว ทั้งพ่อแม่ลูก และสามีภรรยาในทางกฎหมาย ที่ต่างคนมาจากคนละเรือนจำหรือคนละแดน การจัดกิจกรรมนี้ไม่ได้จัดเฉพาะที่ทัณฑสถานหรือเรือนจำนี้เพียงแห่งเดียว แต่ยังจัดที่ทัณฑสถานหรือเรือนจำอื่นด้วย เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เขาต้องกลับไปอยู่กับครอบครัว กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่กระบวนการทำลายชีวิต แต่เป็นกระบวนการสร้างชีวิตสร้างสังคมที่ดีขึ้น โดยใช้พลังของครอบครัว เนื่องจากเป็นพลังของความรัก เป็นพลังของจิตวิญญาณ เราจึงจัดให้ครอบครัวได้มาพบกัน โดยหลังจากนี้เราจะจัดกิจกรรมแบบนี้อีกหลายแห่ง



“สิ่งที่สำคัญก็คือ เรือนจำต่าง ๆ มีผู้ก้าวพลาดเข้ามา ซึ่งเขาก็ต้องออกไป อย่างน้อยเขาก็ต้องเตรียมตัวออกไปสู่สังคม กรมราชทัณฑ์จะเป็นสถานที่ฟื้นฟู อย่างน้อยเวลาเขาได้ออกไปที่ไหนก็จะต้องนึกว่ากลับเข้าสู่สังคมแล้วจะอยู่อย่างไร หลายคนมองว่าการปล่อยตัวชั่วคราวสำคัญ เพราะบางคนจะมีความลำบากในการต่อสู้คดี เรามีระบบที่มีหลักประกันว่าเขาไม่หนี เรือนจำจะได้ลดความแออัด ซึ่งวันนี้ เราก็ได้มาเห็นอะไรหลายๆ อย่างครับ” - พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ พร้อมหน้าครอบครัว ทั้งพ่อแม่ลูก และสามีภรรยาในทางกฎหมาย ที่ต่างคนมาจากคนละเรือนจำหรือคนละแดน มาพบปะกัน กว่า 400 คน นอกจากนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในฐานะ ตัวแทนผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี กล่าวขอบคุณ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่จัดกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ด้วย 

โดย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในฐานะ ตัวแทนผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ยังได้กล่าวชื่นชม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีนโยบายนำร่องให้ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และ ทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นไปตามนโยบายแยกผู้ต้องราชทัณฑ์ ด้วยการแยกเรือนจำศูนย์ระหว่างพิจารณาคดี เพื่อเป็นศูนย์แยกการควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ต้องขังเด็ดขาดออกจากกัน นอกจากนี้ นายษิทรา ในฐานะ ตัวแทนผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ที่ร่วมกิจกรรมในวันนี้ ได้นำเรียนต่อ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอให้ทัณฑสถานและเรือนจำทั่วประเทศอำนวยความสะดวกผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในเรื่องเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการต่อสู้คดีในชั้นศาลด้วย โดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้สอบถามความเป็นอยู่ และร่วมสนทนา แลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีที่ร่วมกิจกรรมฯ ในวันนี้ และมอบเครื่องอุปโภค-บริโภคให้ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ที่ร่วมกิจกรรมในวันนี้ ทั้ง 400 คนด้วย ก่อนจะเดินทางกลับในเวลา 13.30 น. เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจอื่นต่อไป




วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ดร.วสุวีร์ สอดส่อง ผู้แทน รมว.ยุติธรรม ร่วมฉลองวันยุโรป

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ว่า ดร.วสุวีร์ สอดส่อง ในฐานะผู้แทน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวาระเฉลิมฉลองวันยุโรป ที่จัดขึ้นในหัวข้อ การค้าและประเพณี โดยมี คุณซารา เรโซอากลี รองหัวหน้าคณะผู้แทนฯ ในฐานะรักษาการหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยให้การต้อนรับ และมีผู้ร่วมงานเลี้ยงจากหลากหลายวงการอาชีพ อาทิ นักการทูต นักธุรกิจ ข้าราชการ รวมทั้งผู้แทนทางการทูตของประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยเข้าร่วมงาน รวมจำนวนกว่า 500 คน

ทั้งนี้ การเฉลิมฉลองยุโรป ตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันที่สหภาพยุโรปจะรำลึกถึง สันติภาพ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความหลากหลาย และความสามัคคี มาร่วมเฉลิมฉลองแสดงความยินดี พบปะสังสรรค์ และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน

สำหรับการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสภาพยุโรป กับราชอาณาจักรไทย เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2505 ต่อมาในปี พ.ศ. 2522 คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย 


ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพยุโรป และประเทศไทย ตั้งอยู่บนความร่วมมือหลายด้าน อาทิ ด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาที่ยั่งยืน การจัดการกับปัญหา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรม และสิทธิมนุษยชน โดยไทยและสภาพยุโรปได้ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างการด้วยการลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วน และความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง และได้หารือประเด็นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะประเด็นค่านิยมสากลที่สหภาพยุโรปยึดถือ อาทิ สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และหลักนิติธรรม ซึ่งกระทรวงยุติธรรม มีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นกับสหภาพยุโรป ในการส่งเสริมประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน โดยสภาพยุโรปให้ความสนใจและมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นต่อแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย อย่างแข็งขัน และชื่นชมไทยที่มีความก้าวหน้าในประเด็นสิทธิมนุษยชน








วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2568

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำเรือนจำกลางบางขวาง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จัดกิจกรรมงานวันเด็ก 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 บริเวณเรือนจำกลางบางขวาง ถนนนนทบุรี 1 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พร้อมกับพบปะกับน้อง ๆ เยาวชน และสนทนาพูดคุย แลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ปกครองที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็ก 2568 ด้วย โดยมี นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง, นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี, ดร.พงษ์อภินันท์ จันกลิ่น เลขานุการกรมราชทัณฑ์ และ ดร.วริศรา ศิริสุทธิเดชา  ผูัอำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย ร่วมให้การต้อนรับ 

สำหรับกิจกรรม ในวันนี้ ประกอบด้วยการเล่นเกม ตอบปัญหาเกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กิจกรรมเต้นเข้าจังหวะ เหยียบลูกโป่ง ฯลฯ โดยบรรยากาศภายในเรือนจำกลางบางขวาง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เป็นไปอย่างคึกคัก มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันออกบูธพร้อมแจกขนม ของกินและของเล่นแก่เด็กๆ ที่เข้าร่วมงานจำนวนมาก โดย ผู้ปกครองต่างนำน้อง ๆ เยาวชนขอถ่ายรูปคู่กับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ด้วย 

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ขอขอบคุณเรือนจำกลางบางขวางเป็นอย่างยิ่ง ที่จัดกิจกรรมการเยี่ยมญาติและกิจกรรมงานวันเด็ก 2568 ในวันนี้ สำหรับในประเทศไทย ถ้าพูดถึงเรือนจำกลางบางขวาง ส่วนใหญ่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เรือนจำกลางบางขวางจะเป็นโทษหนักหรือนักโทษประหารชีวิต แต่ในการจัดให้เยี่ยมญาติในวันนี้  เรามองว่ามนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีคุณค่าและมีความสำคัญ การก้าวพลาดไปอยู่ในราชทัณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับผู้ที่กระทำผิด แต่ก็มีสิทธิ์มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กฎหมายอนุญาตให้ได้รับการเยี่ยมเยียนจากญาติและบุคคลทั่วไป วันนี้ถือเป็นกิจกรรมที่คนข้างในไม่คิดว่าจะมี แต่เรามีลูกหลานมาเยี่ยมญาติเนื่องในวันเด็ก 2568 ซึ่งผมอยากให้พวกเราให้กำลังใจ 


"เราต้องการอนาคตที่ดี เราต้องส่งเสริมเด็กและเยาวชน อยากให้มีความคิดว่า เด็กทุกคนไม่ใช่หน้าที่เฉพาะของพ่อแม่เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของคนทุกคนทั้งในชุมชน และสังคมด้วย ที่เราต้องร่วมกันดูแล ให้คุณค่าแก่เด็กและเยาวชน เพราะเขาก็คือ ผู้ที่จะมาสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศ และในวันนี้ ผมขอให้น้อง ๆ เยาวชนมีความสุขสมหวังตลอดไปครับ" พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้เดินเยี่ยมร้านหับเผย โดยกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง และร่วมรับประทานอาหารคุกแอนด์คอฟ @บางขวาง สนานาร่วมกับญาติผู้ต้องราชทัณฑ์ และพูดคุยกับประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ด้วย ก่อนเดินทางกลับในเวลา 14.45 น.



















พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ เรือนจำพิเศษธนบุรี มรดกศิลป์แผ่นดิน-สืบสานภูมิปัญญาไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ เรือนจำพิเศษธนบุรี โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายอำนวย เปรมกิจพรพัฒนา ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษธนบุรี เข้าร่วมพิธี

โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นางสาวกรวรรณ อาธารมาศ ผู้พิพากษาศาลฎีกาช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชัน นางจันทร์กระพ้อ ต่อสุวรรณ สินธวถาวร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงธนบุรี นายสุวิพันธ์ สุระประเสริฐ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงบางบอน นางสาวพัสสรณ์สิริ ประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก (วิทยาลัยในวัง) พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธีฯ ด้วย ณ เรือนจำพิเศษธนบุรี

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า การเปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ในวันนี้ เป็นการน้อมนำพระราชปณิธานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเป็นแนวทางในการดำเนินงานนำศิลปะ เพื่อกล่อมเกลา แก้ไข และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ก้าวพลาด อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงยุติธรรมในการให้โอกาสกับผู้ที่อยู่หลังกำแพงที่จะได้รับการศึกษา การอบรมฝึกอาชีพ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมศักยภาพของผู้ก้าวพลาดในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง ยกระดับศักยภาพของผู้กระทำผิด และเป็นการป้องกันการกลับมากระทำผิดซ้ำอย่างยั่งยืนต่อไป




“เรือนจำพิเศษธนบุรี เราเรียกว่าเป็นเรือนจำวิชาชีพ ผู้ต้องราชทัณฑ์เมื่อเข้ามาเราจะจำแนกเพื่อพัฒนาพฤตินิสัย ซึ่งเราเน้นการสร้างอาชีพให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ เรือนจำแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ มีผู้ต้องราชทัณฑ์กว่า 4,000 คน เราต่อยอดเรื่องช่างสิบหมู่ ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ที่มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนวันนี้เราได้เปิดเป็นโรงเรียนช่างสิบหมู่ นอกจากเรื่องการพัฒนาอาชีพแล้ว เรายังแสดงให้เห็นว่า เรือนจำเป็นโรงเรียน เราได้มีการเรียนการสอน ซึ่งจะมีการพัฒนาในระยะยาว เราเชื่อว่าจะเกิดความยั่งยืนโดยเฉพาะเรื่องศิลปวัฒนธรรมเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ดีที่มีคุณค่า นอกจากที่เราชื่นชม-ภูมิใจแล้ว เราต้องเผยแพร่ด้วย ซึ่งโรงเรียนช่างสิบหมู่ตอนนี้ตั้งอยู่ในราชทัณฑ์ ชี้ให้สังคมเห็นว่าราชทัณฑ์ก็เป็นโรงเรียนและได้รับการพัฒนาจากทุกภาคส่วน“ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

โอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมชมการแสดงความสามารถของผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษธนบุรี จำนวน 2 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 การแสดงโขนประยุกต์ ชื่อการแสดง "นาคบาศ" และชุดที่ 2 การแสดงศิลปะประกอบดนตรี ชื่อการแสดง "ศาสตร์-สะบัด" จากนั้น ได้เยี่ยมชมพื้นที่การเรียนภาคทฤษฎีจากวีดิทัศน์ และอาจารย์ผู้สอน รวมทั้งการจัดแสดงผลงานฝีมือผู้ต้องขัง พื้นที่การเรียนจิตรกรรมสีน้ำมัน (การเขียนภาพสีน้ำมัน) ช่างปั้น (ประติมากรรม) พื้นฐานการเขียนลายไทย ช่างหุ่น งานหัตถศิลป์ งานหัวโขน งานหุ่นกระบอก งานหุ่นละคร ช่างเขียนจิตรกรรมไทยวาดเส้น การเขียนภาพสีน้ำ ช่างบุดุน ช่างรัก ช่างหล่อ ช่างกลึง ช่างแกะ ช่างสลัก การวาดเส้น การเขียนภาพสีน้ำ และเยี่ยมชมมุม "สืบสาน งานศิลป์" จากพี่สู่น้อง





ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม โดยเรือนจำพิเศษธนบุรี กรมราชทัณฑ์ ได้พัฒนาการฝึกวิชาชีพช่างสิบหมู่ในทุกมิติ จึงมีความพร้อมที่จะต่อยอดจากศูนย์ฝึกอบรมอาชีพด้านช่างสิบหมู่ขึ้นเป็น “โรงเรียนช่างสิบหมู่” เพื่อดำเนินการตามแผนและนโยบายของกรมราชทัณฑ์ที่จะส่งเสริมและพัฒนาการฝึกวิชาชีพช่างสิบหมู่ให้มีมาตรฐานในระดับสากล และเปิดโอกาสให้ผู้ก้าวพลาดได้รับการพัฒนาพฤตินิสัยที่มีความหลากหลาย และคงไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมของไทย









วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่เร่งฟื้นฟูจังหวัดชายแดนใต้ ระดมกำลังผู้ต้องราชทัณฑ์ทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน-ซ่อมรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากอุทกภัย ย้ำรัฐบาลดูแลเต็มที่


ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า เมื่อช่วงเข้าที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ เดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อเดินทางต่อไปยังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ถนนสุริยะประดิษฐ์ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และแผนการแก้ไขปัญหา พร้อมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในโครงการร่วมแรงซ่อมรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากอุทกภัย โดยความร่วมมือระหว่าง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม, มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) รวมทั้งยังมีบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย เปิดโอกาสให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ได้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วย 

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยในหลายจังหวัดของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในขณะนี้ปริมาณน้ำในหลายพื้นที่ลดลงสู่สภาวะปกติ แต่ปัญหาสำคัญคือการฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน โดยเฉพาะการทำความสะอาดอาคารบ้านเรือนและร้านค้าในเขตเศรษฐกิจ ซึ่งได้สั่งการให้เรือนจำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นำผู้ต้องราชทัณฑ์ออกช่วยเหลือทำความสะอาดพื้นที่สาธารณประโยชน์ ทั้งถนน ตลาดสด โรงเรียนและวัดในพื้นที่ รวมถึงการเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ในที่พักพิง และครัวประกอบอาหารของเขตเทศบาลนครยะลา

”รัฐบาลตระหนักถึงความลำบากของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการยื่นเอกสารเยียวยาน้ำท่วมให้มีความรวดเร็วและง่ายดาย โดยจะลดขั้นตอนที่พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้การเยียวยาทั่วถึงและโปร่งใส“ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ยังได้เดินทางต่อไปยังตลาดเทศบาลตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย บริเวณตลาดเทศบาลตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส และ เดินทางต่อไปยังบ้านชะมูแว ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อมอบอุปกรณ์การซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ และบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหายจากอุทกภัยด้วย โดยตั้งเป็นศูนย์ซ่อมฯ บริเวณ อบต. ปะลุกาสาเมาะ สำหรับเครื่องมือช่าง ละสิ่งของที่ได้รับการสนับสนุน ประกอบด้วย น้ำมันเครื่อง บล็อกถอดหัวเทียน กระดาษทราย ฯลฯ เป็นต้น 

จากนั้น ในช่วงบ่าย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ออกจากจังหวัดนราธิวาส ไปยังเรือนจำกลางปัตตานี จังหวัดปัตตานี เข้าตรวจเยี่ยมบ้านพักของข้าราชการที่เรือนจำกลางปัตตานี และมอบถุงยังชีพให้กับผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา และผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี เพื่อนำไปส่งมอบให้กับประชาชนต่อไป

รวมทั้ง ยังได้เดินทางต่อไปยังบริเวณมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัย กว่า 500 คน โดยมี นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม รวมทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ ร่วมให้การต้อนรับ ประกอบด้วย นายซูการ์โน มะทา สส. จังหวัดยะลา, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส, นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ สส.ปัตตานี, นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส สส.ปัตตานี, นายสุไลมาน บือแนปีแน สส.จังหวัดยะลา และ รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ร่วมกันให้การต้อนรับ 

ก่อนเดินทางไปยังห้องรับรองสนามบินบ่อทอง จังหวัดปัตตานี เพื่อประชุมกับสมาคมประมงจังหวัดปัตตานี และออกเดินทางจาก จังหวัดปัตตานี ในเวลา 17.00 น. ไปท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานครต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ รวม 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา 4 อำเภอ จังหวัดปัตตานี 4 อำเภอ จังหวัดนราธิวาส 3 อำเภอ จังหวัดนครศรีธรรมราช 7 อำเภอ จังหวัดพัทลุง 5 อำเภอ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ปริมาณฝนจะลดลง ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะกลับมามีฝนตกหนักถึงหนักมากอีกครั้งในช่วงวันที่ 13–16 ธันวาคม นี้ บริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส นครศรีธรรมราช พัทลุง และสตูล จากนั้นแนวโน้มฝนจะลดลงตามลำดับ ซึ่งจะต้องมีการติดตามประเมินสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับแผนช่วยเหลือประชาชนให้เหมาะสมต่อไป