วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2566

“สรพันธ์ คุณากรวงศ์” ยินดี ยุบสภาฯ พวกโปรย้ายค่ายได้รับโอกาส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณเคเค-สรพันธ์ คุณากรวงศ์ โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้ 

.

วันนี้ #ยุบสภา ถือเป็นการเริ่มต้น การเตรียมตัวหาเสียงอย่างเป็นทางการ อย่างเต็มรูปแบบครับ

.

ผมขอแสดงความยินดี กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ได้รับโอกาส เเละผู้ที่ได้รับเลือกและได้รับโอกาส ให้เป็นผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคการเมือง และยินดีกับ ผู้ที่ได้โปรโมชั่น #โปรย้ายค่าย ทุกท่านครับ

ในวันที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติ พี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ ที่ผ่านมา พวกท่านก็พิสูจน์ให้เห็นเป็นประจักษ์ ถึงความแข็งขัน ความเสียสละ 

.

#แลนด์สไลด์เพื่อไทย มาร่วมเปลี่ยนประเทศใหม่ไปกับ #พรรคเพื่อไทย กันครับ ให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน

#เลือกเพื่อไทยทั้ง2ใบทั้งคนทั้งพรรค

#แลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน

“มนตรี บุญจรัส” รณรงค์วันป่าไม้สากล สร้างความตระหนักรู้ ปัญหาสิ่งแวดล้อม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี บุญจรัส กรรมการบริหารพรรคประชาชาติ และรองโฆษกพรรคประชาชาติ ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม / กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย เผยแพร่ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้ 

วันนี้ (21 มีนาคม) เป็น วันป่าไม้สากล

ในปี 2566 นี้ องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดประเด็นหลักของวันป่าไม้สากล คือ “Forests and health.” หรือ ป่าไม้และสุขภาพ โดยสุขภาพที่สดใสสร้างได้ด้วยป่า ที่สมบูรณ์ เช่น ทำให้น้ำบริสุทธิ์ ทำให้อากาศบริสุทธิ์ ป่าไม้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการเก็บกักคาร์บอน ป่าไม้ยังให้ยารักษาโรคที่ช่วยชีวิต และปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทุกคนต้องดูแลป่าไม้ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่สดใสสร้างได้ด้วยป่าที่สมบูรณ์
.
สาเหตุของการทำลายป่าส่วนใหญ่เกิดจากมนุษย์แทบทั้งสิ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของมนุษย์เองทั้งต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิต.
.
เราทุกคน ต้องช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของป่าทุกประเภทและต้นไม้ที่อยู่นอกป่า เพื่อประโยชน์ ของคนรุ่นปัจจุบัน และอนาคตได้ใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคป่าไม้ต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับป่าและต้นไม้ ครับ

วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566

“อนงค์ ล่อใจ” นำทัพเพื่อไทยภาคใต้ เคลียร์ผู้สมัครสุราษฎร์ฯ-นครศรีฯ ไม่มีใครลาออก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอนงค์ ล่อใจ อดีตประธานสโมสรฟุตบอลสุราษฎร์ธานี เอฟซี ในฐานะ ผู้รับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย จากพรรคเพื่อไทย ให้ดูแลพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยแพร่ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


ดิฉันในฐานะที่ได้รับมอบหมาย จากพรรคเพื่อไทย ให้ดูแลพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และ จังหวัดสุราษฎร์ ว่าที่ผู้สมัครลงตัวเป็นที่เรียบร้อย มีพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ยังมีบางเขตไม่เรียบร้อยเพราะเป็นเขตที่ซ้ำซ้อน ทางพรรคเพื่อไทยได้รับทราบปัญหาและทุกอย่างจะลงตัว ในเร็วเร็วนี้ค่ะ และดิฉันขอยืนยันว่า เวลานี้ยังไม่มีใครลาออก

"เศรษฐา" หอบ "เจ ชนาธิป" เดินหารองเท้า กลางสยาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Srettha Thavisin มีเนื้อหาระบุว่า

วันนี้ผมมีโอกาสได้พบกับเจสั้น ๆ ที่สยามครับ เจเพิ่งบินกลับมาจากการแข่งขัน ซึ่งได้เล่นตำแหน่งตัวจ่าย เบอร์ 10 เป็นตำแหน่งที่เจชอบที่สุด

หลังจากนี้เจจะเดินทางไปแข่งขันที่ตะวันออกกลางต่อ ผมขอเป็นกำลังใจให้เจ แล้วก็ฝากทุกคนเชียร์และเป็นกำลังใจให้ตัวแทนทีมชาติของเรากันด้วยครับ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เพจ "เพื่อไทย กรุงเทพ" ก็ได้เผยแพร่ภาพ และข้อความในลักษณะเดียวกัน ด้วยเช่นกัน โดยเป็นภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน และ เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอล เดินที่ย่านการค้าสยาม และมีภาพลองรองเท้าในร้านค้า

ที่มา ภาพจากเพจ "เพื่อไทย กรุงเทพ"

วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2566

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นำทัพ พลังประชารัฐ ปราศรัยใหญ่ นำสามัคคีสู่ประเทศ-หมดเวลาทะเลาะกัน


ผู้สื่อข่าวรายงานจากลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า พรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ภายใต้ชื่อ “พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐนำโดย พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ..กทมพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นายอุตตม สาวนายน ประธานจัดทำนโยบาย นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สลับกันขึ้นปราศรัย


พล..ประวิตร กล่าวปราศรัยว่า ก่อนอื่นขอสวัสดีพี่น้อง ชาวกรุงเทพมหานคร และพี่น้องชาวไทยที่รักทุกคน ผมรู้สึกดีใจ และอบอุ่นที่ได้มาอยู่ท่ามกลางพี่น้องทุกท่านในวันนี้ ซึ่งเป็นการปราศรัยในกรุงเทพฯครั้งแรก ของผม วันนี้ผมมาพร้อมกับผู้บริหารและสมาชิก พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ..กทม.ทั้ง 33 คน เพื่อยืนยันให้พี่น้องมั่นใจว่าพวกเราพร้อมแล้วที่จะทำงานรับใช้กรุงเทพมหานคร


พล..ประวิตร กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐตระหนักดีว่า กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์รวม เป็นหน้าตา และศักดิ์ศรีของประเทศ เราต้องช่วยกันดูแล รักษา ให้สะอาด สวยงาม ปลอดภัย น่าอยู่ น่าอาศัย น่าที่จะมาท่องเที่ยว ผมและพรรคพลังประชารัฐ จะมุ่งมั่น ทำงาน ร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อพัฒนา และแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง ที่เป็นประโยชน์ กับ คนกรุงเทพฯ ปัญหาต่าง  ทั้งในเรื่อง การจราจร ติดขัด ปัญหา ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม มลพิษ PM 2.5 การขาด พื้นที่สีเขียวน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย ระบบขนส่งมวลชน ปัญหายาเสพติด และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย






พรรคพลังประชารัฐจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว พร้อมกับนำนโยบายที่เป็นประโยชน์มามอบให้กับ พี่น้องประชาชน ทั้งในเรื่อง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การลดราคา น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ดูแลคนไทย ทุกช่วงวัย ทั้งเบี้ยผู้สูงอายุ แม่ และเด็ก ดูแลผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส อย่างเท่าเทียมเพื่อลดช่องว่าง ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมในสังคม



ขอให้ พี่น้องประชาชนให้โอกาส พรรคพลังประชารัฐพวกเราอาสาที่จะนำความรัก ความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติของเรา หมดเวลาที่เราคนไทยจะมาทะเลาะกันเองแล้ว พวกเราคนไทย ต้องจับมือกันนำพาประเทศ ก้าวไปข้างหน้าเพื่อความสุขของคนไทยทุกคน” พล..ประวิตรกล่าว











พรรคประชาชาติ ส่ง “ดร.ขดดะรี บินเซ็น” ร่วมเวทีดีเบต พาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยหลังเลือกตั้ง 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องริมน้ำ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ว่า เมื่อเวลา 15.00น. ที่ผ่านมา ดร.ขดดะรี บินเซ็น ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะผู้แทนของพรรคประชาชาติ พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายมนตรี บุญจรัส กรรมการบริหารพรรรรคประชาชาติ และรองโฆษก พรรคประชาชาติ, นายไชยพล เดชตระกูล, นางสาวธนัญญรัชช์ เศรษฐาธิรัชฎ์, นายพลรักษ์ รักษาพล คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคประชาชาติ, นายพิทยบรรณ ว่องปรีชา รวมทั้ง นายมุมิน เจ๊ะแว นักศึกษาคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายฟุรกอน ตาซา กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่พรรคประชาชาติ เดินทางมาร่วมเวทีแสดงความเห็นของพรรคการเมืองต่อข้อเสนอพาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตย จัดโดย ไอลอว์และเครือข่ายจับตาการเลือกตั้ง Vote62 ซึ่งมีพรรคการเมืองต่าง ๆ ส่งผู้แทนเข้ามาร่วมประชันวิสัยทัศน์ด้วย อาทิ นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า, นายศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย, นายวิรัตน์ วรศสิริน รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นางสาวพลอยนภัส โจววณิชย์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีการถ่ายทอดสัญญาณสด ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์และอินเตอร์เน็ท รวมทั้งผ่านทางเว็บสำนักข่าวออนไลน์ประชาไทด้วย 


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ไอลอว์ ในฐานะผู้จัดกิจกรรมเวทีสาธารณะ “พาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยหลังเลือกตั้ง 2566” เปิดเผยว่า “เมื่อย่างเข้าเดือนมีนาคม ประเด็นทางการเมืองที่ทุกคนจับตาคงหนีไม่พ้นการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤษภาคม แม้การเลือกตั้งในปี 2566 จะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ตัดสินใจทางการเมือง เลือกผู้แทนที่จะเข้าไปทำหน้าที่ออกกฎหมาย และบริหารประเทศอีกครั้ง แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นการเลือกตั้งภายใต้กติกาที่คสช. ผู้ทำรัฐประหารในปี 2557 เป็นผู้กำหนด เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับพวกพ้องของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ ส.ว.ที่คสช.แต่งตั้งทั้งหมด มีสิทธิร่วมเลือกนายกร่วมกับส.ส.ที่ประชาชนเลือกมา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้นำคสช.ได้อยู่อำนาจต่อหลังการเลือกตั้งในปี 2562 และเพื่อให้ประเทศกลับเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ไอลอว์มี 3 ข้อเสนอ ที่จะทำให้ประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย ได้แก่ 1.) การให้บุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. 2.) การให้พรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดมีโอกาสเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน และ 3.) การให้ส.ว.เคารพเสียงส่วนใหญ่ด้วยการยกมือสนับสนุนพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในการจัดตั้งรัฐบาล ในโอกาสนี้ไอลอว์จึงขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม พาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยหลังเลือกตั้ง 2566 

ดร.ขดดะรี บินเซ็น ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะผู้แทนของพรรคประชาชาติ แสดงความเห็นด้วยกับทั้งสามข้อเสนอ โดยข้อที่หนึ่ง นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. สร้างนายกฯ ที่ยึดโยงกับประชาชนที่เป็นรูปธรรมผ่านการเลือกตั้ง และสร้างหลักประกันว่านายกฯ ในฐานะ ส.ส.คนหนึ่งจะต้องรับผิดชอบต่อการตรวจสอบของสภาที่มาจากประชาชน เห็นว่าควรที่จะต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ส่วนข้อที่สอง พรรคที่ได้ส.ส.มากที่สุดควรได้รับสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน โดยหากการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเสียงข้างมากประสบความล้มเหลวจึงจะเป็นโอกาสของพรรคการเมืองอันดับรองลงมาในการจัดตั้งรัฐบาลต่อ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า พรรคที่ได้ส.ส.มากที่สุดเขาได้รับการไว้วางใจจากประชาชน ประชาชนเป็นคนเลือก แม้พรรคประชาชาติไม่มีโอกาสอยู่แล้วในการเสนอชื่อนายกฯ แต่ก็เข้าใจดีในข้อกฎหมาย และข้อสาม คือ เห็นด้วยที่ ส.ว.ต้องเคารพเจตจำนงเสียงข้างมาก ที่แสดงออกผ่านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ด้วยการยกมือสนับสนุนพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในการจัดตั้งรัฐบาล

สำหรับกิจกรรมวันนี้ มีการจัดขึ้นตลอดทั้งวัน ประกอบด้วยกิจกรรม เดินหน้า Protect Our Vote ต้องทำมากกว่าเข้าคูหา, เปิดตัวคู่มือเลือกตั้ง 66 "เรียนรู้อดีต กาเพื่ออนาคต”, การเปิดตัวฐานข้อมูลนักการเมืองที่เป็นผู้สมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้ง 66 โดย นายสันติชัย อาภรณ์ศรี จาก Rocket Media Lab , เสวนาถอดบทเรียนจากการรวมคะแนนและรายงานผลของ กกต. เมื่อปี 2562 โดย นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์, งานนำเสนอเทคโนโลยีของประชาชน เว็บไซต์ Vote62 สำหรับการรายงานคะแนนกันเอง โดย นายฉัตรชัย ทุติยานนท์ จาก Opendream นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองใช้เว็บไซต์ Vote62 ถ่ายภาพกระดานนับคะแนนและส่งข้อมูลทางหน้าเว็บไซต์ด้วย



วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566

"คีรี กาญจนพาสน์" ยืนยันบีทีเอส ไม่เคยฮั้วประมูล

(วันที่ 14 มีนาคม 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ฝึกอบรมรถไฟฟ้าบีทีเอส สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ ว่า เมื่อเวลา 13.00น. ที่ผ่านมา นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวชี้แจงประเด็นกรณี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหา โดยผู้บริหารบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการทำสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายกำหนด และทุกการกระทำมีเหตุและผลที่สามารถชี้แจงได้ทั้งนี้ ประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นยังถือเป็นเพียงขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาจากทาง ป.ป.ช. และบริษัทฯ ยังไม่ได้ถูกฟ้องดำเนินคดีแต่อย่างใด ดังนั้นบริษัทฯ ยังมีสิทธิในการคัดค้านและแก้ข้อกล่าวหาตามกระบวนการของกฎหมาย โดยบริษัทฯ ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.ในการดำเนินการกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ดี สัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โดยในปี 2550 กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการที่ กทม.หรือบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จะว่าจ้างเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัย ในคำวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องเสร็จที่ 222/2550 แล้ว โดยสรุปว่า การจ้างเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขายไม่ใช่การร่วมลงทุนหรือให้สิทธิสัมปทานภายใต้กฎหมายร่วมทุน

ขณะที่การทำสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายได้เคยผ่านการสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในปี 2555 แล้ว โดยภายหลังจากการสิ้นสุดการสอบสวนในปี 2556 กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานอัยการสูงสุดได้เห็นควรไม่ฟ้อง BTSC

“ไม่มีรัฐบาลไหนในโลกที่ติดหนี้เอกชนกว่าห้าหมื่นล้านบาท แล้วนิ่ง” - นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าว


นายคีรีกล่าวว่า การกระทำของรัฐบาลถือเป็นการกลั่นแกล้ง ตนยอมไม่ได้ อะไรที่ไม่ถูกต้อง ตนจะสู้ เพราะประวัติการทำงานไม่มีมลทิน เป็นที่น่าสังเกตว่าการจ้างบีทีเอส เดินรถส่วนต่อขยายผ่าน 4 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มาจากการเลือกตั้ง ทำไมไม่มีปัญหา อีกทั้งการทำสัญญายังมีการทำตั้งแต่ปี 2555 แต่เพิ่งจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาในปี 2566 ซึ่งเป็นเวลากว่า 11 ปี 

“เชื่อว่าเป็นการช่วย กทม. ในการเดินรถ เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครมาเดินรถแม้แต่รายเดียว ซึ่งส่วนต่อขยายฝั่งธน 2 กม. สร้างเสร็จแล้วมา 8 ปี แต่กลับไม่มีการเดินรถ ทั้งนี้ยืนยันว่าการรับจ้างให้กับ กทม. ที่ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานไปเอง กลับกลายเป็นปัญหามาก ตั้งแต่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ มารับตำแหน่ง และไม่ยอมจ่ายหนี้ 5 หมื่นล้านบาท แม้ศาลปกครองกลางตัดสินให้ กทม. และเคที จ่ายเงินหนี้ดังกล่าว โดยไม่คำนึงถึงบริษัทที่ควักเงินจ่าย เพื่อให้บริการประชาชน ส่วนที่มีสิทธิอุทธรณ์ก็อุทธรณ์ไป แต่ส่วนที่ไม่มีปัญหา ก็ต้องจ่าย”

นายคีรีกล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเริ่มมาจากที่บริษัทได้เข้าร่วมประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งมีการเปลี่ยนร่างทีโออาร์ และรมว.คมนาคม แย้งมาตลอด แต่สิ่งที่ต้องการวันนี้คือต้องการเงิน 5 หมื่นล้านบาทคืนมา ใครจะทำให้บีทีเอสอ่อนแอ เจอผิดคนแล้ว ยืนยันว่าจะไม่หยุดเดินรถแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ กทม. หรือผู้นำประเทศ บีทีเอสยังไหวอยู่ แม้พนักงานจะไปเรียกร้องก็ตาม

“ผมไม่เอาผู้โดยสารเป็นตัวประกัน ท่านไม่ต้องห่วง” นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าว