วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ผู้ค้าแผงลอยรวมตัวค้าน กทม. จัดระเบียบ “ข้าวสาร-รามบุตรี”


เมื่อเวลา 9.00 . วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 กลุ่มผู้ค้าแผงลอยถนนข้าวสาร ได้รวมตัวเดินขบวนไปยังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อเรียกร้องให้มีการระงับคำสั่งให้ผู้ค้าบริเวณถนนข้าวสารไปขายบนพื้นผิวจราจร 


โดยนางสาวญาดา พรเพชรรัมภา แกนนำกลุ่มผู้ค้าแผงลอยฯ กล่าวว่า ในวันนี้เราได้รวมตัวมายื่นหนังสือเพื่อให้ทางกรุงเทพฯ ระงับคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ทางกรุงเทพฯ บังคับใช้โดยไม่มีการหารือกับผู้ค้าบริเวณถนนข้าวสาร และรับไม่ได้กับข้อเสนอที่ให้ขายเฉพาะช่วงเย็น เนื่องจากถนนข้าวสารและถนนรามบุตรีมีการค้าขายตลอดทั้งวัน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ค้ารอบเช้า เพราะไม่สามารถขายได้ ทั้งยังส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวในช่วงกลางวัน


นางสาวญาดา กล่าวเพิ่มเติมว่าที่สำคัญกลุ่มผู้ค้าแผงลอยฯ รับไม่ได้ กรณีกรุงเทพฯ ให้ผู้ค้าแผงลอยฯ มาจับสลากเพื่อหา 260 ราย ที่จะได้สิทธิ์ขายของเนื่องจากผู้ค้าแผงลอยฯ มีจำนวนมากกว่า 400 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางด้านนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ยืนยันจะดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวต่อไป โดยเตรียมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ และเดินสายไฟให้ผู้ค้าสามารถใช้ไฟฟ้าได้สะดวกยิ่งขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ค้าฯ แสดงความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ค้า โดยทางผู้ค้ายืนยันจะค้าขายต่อไป แม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ และเตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป




วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

“พานทองแท้” เผย “ทักษิณ” วิเคราะห์พลังดูดพ่ายเลือกตั้งปีหน้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


Talk of The Town ของคอการเมืองในช่วง 3-4 วันนี้ คงหนีไม่พ้นกรณีที่นาย นคร มาฉิม อดีตส..ประชาธิปัตย์หลายสมัย ที่ได้โพสต์ข้อความแฉถึงเบื้องหลังในการที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ทางการเมืองต่อพรรคฯทางฝั่งอดีตนายกทักษิณฯแบบยับเยิน จนต้องไปสมคบคิดกับกลุ่มนายทุน ขุนศึก และเครือข่ายต่างๆ เพื่อขจัดอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่มาจากขั้วตรงข้ามให้หมดสิ้นครับ 

ที่ผ่านมากลุ่มสมคบคิดทั้งหลาย ได้ขจัดอดีตนายกฯ จนพ้นทางไปแล้วถึง 4 คน ทักษิณ-สมัคร-สมชาย-ยิ่งลักษณ์ อันเป็นเหตุให้คุณพ่อผมและอาปู ไม่สามารถอยู่ในเมืองไทยได้ และกลุ่มดังกล่าวยังวางแผนที่จะแช่แข็งประเทศไทยไปอีก 5-20 ปี จนกว่าจะสามารถจัดการอำนาจในการปกครองบริหารประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ ตามข่าวที่แพร่หลายไปทั่วนั้น 

เนื่องจากข่าวการเมืองในช่วงนี้ มีแต่เรื่องการดูด .. ไปเข้ากับขั้วการเมืองที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ ดังนั้นการโพสต์ของนายนครฯ ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการต่อต้านอำนาจเผด็จการ อย่างสันติวิธีครับ นายนครฯได้ยืนยันให้เห็นว่า ท่ามกลางข่าวกระแสดูดอย่างรุนแรง โดยมีผลประโยชน์และอำนาจรัฐเป็นเครื่องมือนั้น ยังมีคนที่ไม่หวั่นไหวพร้อมจะยืนอยู่บนหลักการแห่งความถูกต้อง โดยคนเหล่านั้นมีศูนย์กลางที่ยึดมั่นอยู่ที่พี่น้องประชาชนเท่านั้น!! จึงไม่หวั่นไหวต่อการดูดใดๆทั้งสิ้น 

เท่าที่ผมได้ยินมา เครื่องมือที่ใช้ดูดในปัจจุบันนั้น ประกอบด้วยปัจจัยอันทรงพลัง ทางด้านมืด 3 ด้านด้วยกัน ซึ่งผมไม่รู้ว่า 3 พลังดูดที่ว่านี้ ไปเกี่ยวพันอะไร กับคำว่า “3 มิตรหรือเปล่านะครับ โดยพลังที่ว่านั้นได้แก่ 

1. การใช้พลังเงิน ซึ่งไม่มีใครตอบได้ว่า ใครหาเงินเหล่านี้มา? หามาจากไหน? และหามาด้วยวิธีใด? กล่าวคือ ไม่มีที่มาของเงิน ไม่มีนายทุน และที่มาของแหล่งเงินทุน แต่เงินเหล่านี้มีจำนวนมหาศาล และได้ถูกนำมาใช้ทุ่มซื้อตัว ..บางประเภท จนปลิวลอยไปตามแรงดูด ให้ไหลไปตกรวมกัน จุดที่เจ้าของเงินต้องการได้ดังใจ 

การใช้เงินอันทรงพลังนี้ อีกทางหนึ่งยังได้มาจากการนำเงินงบประมาณมาถลุงในโครงการของรัฐที่ตั้งชื่อให้คล้ายกับชื่อพรรคตั้งใหม่พรรคหนึ่ง นำเงินที่ได้จากภาษีอากรมาใช้หาเสียงควบคู่ไปด้วยกัน ระหว่างรัฐกับพรรคการเมือง เงินไม่พอก็ตั้งเรื่องหาช่องทางขูดรีดภาษีเพิ่มขึ้นไปอีก เท่ากับเป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนในลักษณะอัฐยาย-ซื้อเสียงยายในขณะที่พรรคฯการเมืองอื่น คุยกันเรื่องการเมืองยังแทบจะทำไม่ได้ กระบวนการแข่งขันแบบนี้ แมนโคตรๆ

2. การใช้พลังองค์กรอิสระ ในการข่มขู่อดีต .. ว่าจะตรวจสอบทุกเรื่องที่สามารถจะหามาเอาผิดได้ ถ้าไม่ยอมย้ายพรรคฯไปอยู่ด้วย ทั้งส..ที่โดนดูด และอดีตนักการเมืองที่ถูกใช้ให้เดินสายดูด ต่างก็โดนชนักปักหลัง บังคับให้ต้องไปอยู่ฝั่งเดียวกัน จึงจะรอดคดีที่โดนตรวจสอบได้ 

3. การใช้พลังของข้าราชการในแต่ละกรมกอง เฉพาะที่สวามิภักดิ์ต่อเผด็จการฯ ใช้อำนาจทางด้านการปกครอง การออกใบอนุญาต การให้คุณให้โทษทางด้านต่างๆ ที่อำนาจรัฐพึงกระทำได้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ออกเดินสายต่อรอง ถ้ามาอยู่พรรคฯนี้จะได้การช่วยเหลือต่างๆ ช่วยกันดูดอดีต .. อย่างไม่อายฟ้าดิน 

ทั้ง 3 พลังดูดที่ว่านี้ ต่างจากตอนที่คุณพ่อผมตั้งพรรคไทยรักไทยโดยสิ้นเชิงครับ ตอนนั้นคุณพ่อผมคิดนโยบายใหม่ๆ และมีวิธีการบริหารที่ชนะใจประชาชน จนเกิดกระแสที่ประชาชนต้องการพรรคการเมืองที่ คิดใหม่ ทำใหม่ จึงทำให้ ..ยินดีที่จะย้ายพรรคฯ เพราะกระแสพรรคฯจะช่วยให้ .. ชนะเลือกตั้งได้ง่ายขึ้น เงินทองที่นำมาใช้ในการทำพรรคการเมืองก็มีที่มาที่ไป และใช้ในการลงพื้นที่เพื่อนำนโยบายไปนำเสนอต่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ใช้เงินเพื่อซื้อตัวอดีต .. มาเพื่อให้หาคะแนนให้ปาร์ตี้ลิสต์ แต่ตัวผู้สมัครเองกลับสอบตก จากการมาสังกัดพรรคการเมืองที่ประชาชนไม่ต้องการ!!

ทั้ง 3 ข้อของพลังดูดนี้ คือที่มาของคำพูดของคุณพ่อผมที่ว่า  เข้าใจอดีตส..ที่ถูกดูดไป ว่าเขามีเหตุจำเป็น แต่ในขณะเดียวกันก็บอกว่า ถึงแม้จะดูดไป แต่ Majority หรือเสียงส่วนใหญ่ของประเทศก็ยังอยู่ที่เดิม และจะมีคะแนนเสียงเทมามากขึ้นกว่าเดิมแบบ Land Slide !! 

ว่าแต่ว่า พ่อเล่นพูดตรงๆแบบนี้ ถ้า "เขา" รู้ว่าพรรคฯที่อุตส่าห์ตั้งชื่อกันมา ให้เหมือนชื่อโครงการของภาครัฐ จะแพ้หมดรูปขนาดนี้ 

ต้นปีหน้าเขาจะกล้าจัดให้มีการเลือกตั้งเหรอครัช..!!

คึกคัก! ชาวกัมพูชาเปิดคูหาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ


ชาวกัมพูชาจำนวนมาก เดินทางมาลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ในวันนี้ (29 กรกฎาคม 2561) ตามกำหนด "วันเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาชุดที่ 6" โดยมีพรรคการเมืองลงทะเบียนสมัครรับเลือกตั้งจำนวน 20 พรรค เพื่อชิงชัยที่นั่งในรัฐสภาจำนวน 125 ที่นั่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ก็ได้เดินทางมาลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งด้วยเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ได้ชูนโยบายหาเสียงเรื่องหลักประกันการมีสันติภาพ เศรษฐกิจเติบโตและการขึ้นเงินเดือนสำหรับแรงงานภาคการผลิตสิ่งทอในทุกปี นอกจากนี้ยังระบุว่าพรรคประชาชนกัมพูชาว่ามีบทบาทสำคัญในการยุติการปกครองของเขมรแดง ขณะที่ พลเอก สมเด็จพิชัยเสนา เตีย บัญ และบุคคลในรัฐบาล ก็ได้เดินทางมาลงคะแนนเสียงในครั้งนี้ด้วย / ภาพ : ดุล เฉิน
















วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

"ยิ่งลักษณ์" ร่วมใส่เสื้อเหลือง ที่อังกฤษ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "แซนด์-ชยิกา วงศ์นภาจันทร์" บุตรสาว นางเยาวเรศ ชินวัตร  ได้โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์พร้อมภาพถ่าย ระบุว่า "แวะมาเจอคนที่คิดถึงที่สุดโดยบังเอิญ​ค่ะ​" โดยเป็นภาพถ่ายคู่กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สวมใส่เสื้อสีเหลือง เป็นรูปเสื้อลายฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ขณะที่ "เดียร์-ขัตติยา สวัสดิผล" อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็ได้โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในลักษณะเดียวกัน โดยมีพิกัดอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า "อากาศดีค่ะ"

ถวายรางวัลศิลปาธร องค์สิริวัณณวรี การออกแบบแฟชั่นฯ


พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงงานในฐานะดีไซน์เนอร์ของแบรนด์ Sirivannavari รางวัลศิลปินดีเด่นศิลปาธร สาขาศิลปะการออกแบบจัดแสดงในนิทรรศการเทิดพระเกียรติองค์ศิลปินศิลปาธรและเชิดชูเกียรติศิลปินศิลปาธร ประจำปี 2561 


โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม ปีนี้ได้เห็นชอบผลการพิจารณาตัดสินรางวัล “ศิลปาธร” ภายใต้มติเห็นชอบของคณะกรรมการตัดสินรางวัล “ศิลปาธร” ให้แก่ศิลปินร่วมสมัยดีเด่น 7 สาขา ได้แก่ สาขาศิลปะการออกแบบ (แฟชั่นและเครื่องประดับ) พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์, ​สาขาทัศนศิลป์ (ภัณฑารักษ์) อรรฆย์ ฟองสมุทร, สาขาสถาปัตยกรรม ทวิตีย์ วัชราภัย เทพาคำ, สาขาวรรณศิลป์ อุทิศ เหมะมูล, สาขาดนตรี ผศ.ดร.นรอรรถ จันทร์กล่ำ, สาขาศิลปะการแสดง ธีระวัฒน์ มุลวิไล, สาขาภาพยนตร์และสื่อเคลื่อนไหว โสฬส สุขุม ทั้งนี้ นิทรรศการเทิดพระเกียรติองค์ศิลปินศิลปาธรและเชิดชูเกียรติศิลปินศิลปาธร ประจำปี 2561 ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน เปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 9 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. / รายงาน-ภาพข่าว: พลรักษ์ รักษาพล










ประชาชนร่วมงานเฉลิมพระเกียรติ "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" : พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม


งานเฉลิมพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 10 - วันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา 11 ริ้วขบวน “พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม”  อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 5 ยุคให้พุทธศาสนิกชนกราบสักการะ 23-28 กรกฎาคม นี้ ณ สนามหลวง



หลายหน่วยงานร่วมดำเนินการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 28 กรกฎาคม 2561 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 28 กรกฎาคม 2561 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่ยาวนานถึง 1,400 ปี และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชของไทยทุกพระองค์ ตลอดจนเทิดทูนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก และทรงปกครองประเทศและดูแลพสกนิกรชาวไทยด้วยหลักทศพิธราชธรรม


กิจกรรมหลักที่จัดขึ้นใช้ชื่อว่า “พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม” โดยมีริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม ตั้งแต่สมัยทวารวดีถึงรัตนโกสินทร์ ประกอบด้วย 11 ริ้วขบวน ได้แก่ 1.ธรรมจักรยาตรา เป็นรถขบวนอัญเชิญธงธรรมจักร ธงฉัพพรรณรังสี และรถขบวนจำลองวงล้อธรรมจักร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา 2. เทียนพรรษาเสริมศาสน์ ขบวนจำลองแห่เทียนพรรษาที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงามเป็นประเพณีตั้งแต่โบราณกาลในวันเข้าพรรษา 3. บรมนาถทวารวดี เป็นรถขบวนจำลองโบราณสถานวัดคูบัว จ.ราชบุรี พระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาทศิลปะแบบทวารวดี ใบเสมาที่บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ 4. เสริมศรีโคตรบูร เป็นรถขบวนจำลองพระธาตุพนม จ.นครพนม หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย 5. เจิดจำรูญศรีวิชัย เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พระพุทธรูปปางมารวิชัยนาคปรก แบบศิลปะศีวิชัย 6. ไตรภพลพบุรี เป็นรถขบวนจำลองพระปรางค์สามยอด จ.ลพบุรี และพระพุทธรูปทรงเครื่องปางนาคปรก 7. ธรรมวิถีล้านนา เป็นรถขบวนจำลองพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง และประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์  จ.เชียงใหม่ 8. เชิดบูชาสุโขทัย เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ วัดมหาธาตุ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และประดิษฐานพระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก 9. เกษมสมัยอยุธยา เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์พระศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปทรงเครื่อง วัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา 10. ธรรมารัตนโกสินทร์ เป็นรถขบวนจำลองพระศรีศากยะทศพลญาณจากพุทธมณฑล พระศรีรัตนเจดีย์ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ 11. แผ่นดินศาสนูปถัมภก โดยริ้วขบวนจะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสำคัญทั้งหมด 5 ยุค ได้แก่ ทวารวดี ล้านนา สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ซึ่งขบวนเฉลิมพระเกียรติฯมีข้าราชการ ศิลปินดารา ทหารกองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ ตำรวจและพสกนิกร เข้าร่วมขบวน


ทั้งนี้ แต่ละริ้วขบวนมีการแสดงฟ้อนรำและระบำของแต่ละยุคที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้น โดยริ้วขบวนเคลื่อนจากบริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ผ่านถนนราชดำเนินไปยังท้องสนามหลวง เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแต่ละยุคไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการบูชาและเวียนเทียนเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และชมนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุแต่ละยุค ตั้งแต่วันที่ 23-28 กรกฎาคม 2561 เวลา 08.00-20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

นอกจากนี้ มีกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระบรมธาตุเจดีย์หรือพระพุทธรูปสำคัญของแต่ละจังหวัด วันที่ 15-28 กรกฎาคม 2561 ณ ส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด พิธีเจริญพระพุทธมนต์หล่อเทียนพรรษา 10 ต้น วันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และพิธีปล่อยขบวนรถแห่เทียนพรรษา 10 ต้น วันที่ 25 กรกฎาคม 2561 เพื่อนำไปถวายยังพระอารามหลวง 10 วัด ได้แก่ 1. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 2. วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม 3. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม 4. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 5. วัดบุรณศิริมาตยาราม 6. วัดบวรนิเวศวิหาร 7. วัดสุทัศนเทพวราราม  8. วัดชนะสงคราม 9. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ 10. วัดปรินายก


รวมทั้ง กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม อาทิ ประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ตอบปัญหาธรรมะ การสวดสาธิตโอ้เอ้วิหารราย การแสดงธรรม ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น วันที่ 23-27 กรกฎาคม 2561 ณ ท้องสนามหลวง และกิจกรรมธรรมะสู่คนทั้งมวลโดยปฏิบัติธรรม รักษาศีล เจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล วันที่ 22-28 กรกฎาคม 2561 ณ วัดในส่วนภูมิภาค 30 จังหวัด รวมทั้งมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ วันที่ 23 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.09 น. ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และพิธีสวดมหามงคล 5 ศาสนาถวายพระพร ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เวลา 07.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งจัดงานอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาอาเซียนใน 16 จังหวัดตามแนวชายแดนของไทยที่มีพื้นที่ติดกับกลุ่มประเทศอาเซียน


ขณะเดียวกันมีกิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม อาทิ วันที่ 24 กรกฎาคม 2561 คอนเสิร์ตชุมนุมนักร้องประสานเสียงนานาชาติ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วันที่ 24-26 กรกฎาคม 2561 การแสดงเฉลิมพระเกียรติ “ใต้ร่มพระมหากรุณา มหาวชิราลงกรณ” ณ โรงละครแห่งชาติ โดยวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 การแสดงรำถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร “พัทธวิสัย” มหกรรมกลอง การละเล่นของหลวง “ระเบง”และการแสดงโขน ชุดน้อมพลีกาย ถวายภักดี วันที่ 25 กรกฎาคม การแสดงรำถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร “พัทธวิสัย” การบรรเลง-ขับร้องดนตรีสากล การแสดงบัลเล่ต์มโนราห์ การละเล่นของหลวง “โมงครุ่ม กุลาตีไม้”และการแสดงโขน ชุดศึกวิรุญจำบัง และวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 การแสดงหุ่นละครเล็กเฉลิมพระเกียรติฯ วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 การแสดงดนตรีไทยเฉลิมพระเกียรติฯ ณ เวทีกลางแจ้ง และหอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS จะบันทึกเทปการแสดงดนตรีไทยเฉลิมพระเกียรติ ฯ ในวันดังกล่าว และจะนำไปออกอากาศในวันที่ 4 สิงหาคม 2561 เวลา 12.05-16.00 น. นอกจากนี้ วันที่ 25 กรกฎาคม 2561 มีกิจกรรมเสวนาวิชาการหัวข้อ “ใต้ร่มพระมหากรุณา มหาวชิราลงกรณ” ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป อีกทั้งจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และส่วนภูมิภาคจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่จ.อุบลราชธานี อุดรธานี ชลบุรี สงขลาและเชียงใหม่