วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2566

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานพิธีฌาปนกิจ "น้องหนุงหนิง" เหยื่อเหตุยิงสยามพารากอน

(19 ตุลาคม 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้บริหาร และข้าราชการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจ น.ส.เพ็ญพิวรรณ มิตรธรรมพิทักษ์ หรือ น้องหนุงหนิง ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์รุนแรงในศูนย์การค้าสยามพารากอน โดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้มอบเงินเยียวยาแก่ นางเพ็ญศรี มิตรธรรมพิทักษ์ อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นมารดา น.ส.เพ็ญพิวรรณ มิตรธรรมพิทักษ์ หรือ น้องหนุงหนิง รวมทั้ง เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจ ร่วมกับแบมแบม วง I GOT7 โดยมี คุณแม่จุ๋ม กชกร  มารดา คุณแบมแบม เดินทางมาเป็นผู้แทน ร่วมฟังสวดพระธรรมเทศนา ก่อนจะประชุมเพลิง ณ วัดบางไผ่ พระอารามหลวง ศาลา 2 (ศาลาฤทธิ์ดี) อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี



พันตำรวจเอก  ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้มาร่วมไว้อาลัยในงานศพของน้องหนุงหนิง ที่ครั้งแรกได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่สยามพารากอน และมาร่วมงานฌาปนกิจศพในวันนี้ ทางรัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเศรษฐา ทวีสิน มอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมมาเป็นตัวแทน ซึ่งทางรัฐบาลก็แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และในส่วนที่เราจะต้องดูแลก็คือคุณแม่ เนื่องจากครอบครัวนี้มีลูกคนเดียวแม่อยู่กับลูกตลอด พอลูกเสียชีวิต และคุณแม่ก็อายุ 70 กว่าปี ก็ไม่มีใครดูแลคุณแม่ สิ่งที่ทางรัฐบาลทำก็คือเรื่องการตามกฎหมาย น้องหนุงหนิงถือว่าเป็นผู้เสียหาย เป็นเหยื่อจากการกระทำผิด ในช่วงแรกถ้าบาดเจ็บกฎหมายกำหนดเพดานว่า ถ้าผู้บาดเจ็บจะช่วยเหลือได้ 50,000 บาท และถ้าเสียชีวิตก็จะได้ 200,000 บาท ส่วนการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดก็ได้ดำเนินการตามกระบวนการกฏหมาย กระบวนการยุติธรรม ตอนนี้ผู้กระทำความผิดยังถูกอำนาจศาลยังไม่ให้ประกัน ตนก็ได้เข้าไปดูแลเรื่องการช่วยเหลืออาการบาดเจ็บ ก็ต้องจ่ายเงินในการเยียวยา สิ่งที่เป็นไปได้ก็อยากจะดูแลให้มากที่สุด ส่วนการดูแลจากรัฐบาลที่ยังมีกองทุนอีกต่างหาก ในกรณีนี้ก็จะมีกองทุน ก็จะมีห้างเอกชนที่เขาเกิดเหตุก็จะมาช่วยเหลือ แต่ว่าคุณแม่ต้องมาอยู่กับญาติ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น และเมื่อมีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น ก็จะมีการป้องกันและระวังในอนาคต เอาเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียน ว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้า ซึ่งไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว หลายๆประเทศก็จะเกิด เพราะเราไม่รู้ว่าภาวะปกติของคนที่มีภาวะทางจิตใจ แล้วมาทำกับคนที่ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกัน ถ้าดูจากวิถีชีวิตน้องหนุงหนิงก็ทำงาน เลิก 16.00 น. ออกไปกินข้าว และชีวิตเขาก็ผูกอยู่กับคุณแม่



"ผู้เสียชีวิตตอนแรกเข้าเกณฑ์ผู้บาดเจ็บ ทางกระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือเยียวยา 50,000 บาท หลังจากนั้นมาเสียชีวิตก็จะได้เพิ่มอีก 200,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมาย ส่วนตัวเด็กชายที่ก่อเหตุนั้น หลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว จึงต้องอยู่ในความดูแลของทางกรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งได้ส่งเด็กชายไปตรวจสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลสถาบันราชนครินทร์และปัจจุบัน ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ถือเป็นข้อมูลของคนไข้ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนขั้นตอนต่อไปนั้นทางแพทย์ที่ดูแลรักษาจะเป็นผู้วินิจฉัยต่อไปว่าเด็กชายคนดังกล่าว มีอาการป่วยทางจิตหรือต้องเข้ารับการรักษาอย่างไร ใช้เวลาแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จำเป็นต้องรอและเคารพความเห็นของแพทย์" พันตำรวจเอก  ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว














วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมแม่ทัพภาคที่2-ป.ป.ส.-ดีเอสไอ บูรณาการทุกหน่วยงาน ร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ

(18 ตุลาคม 2566) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมประชุมและหารือข้อราชการระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและ พล.ท. อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 ในการดำเนินการร่วมกันเรื่องการดำเนินการของ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ อาคารกระทรวงยุติธรรม



พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หารือและแลกเปลี่ยนกรอบแนวคิด สภาพปัญหา และแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล โดยปัญหาเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยที่ต้องแก้ไขปัญหาให้ลดน้อยลงและหมดไป ปัญหายาเสพติดนั้นมีหลายมิติ หากทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันจะเป็นจุดเริ่มต้นในการขจัดปัญหานี้ออกไปจากสังคมไทย

“ตั้งเป้าปัญหาการนำเข้ายาเสพติดให้เป็นศูนย์” พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว




พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังกล่าวด้วยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมย้ำทุกหน่วยงานต้องร่วมมือแก้ไขปัญหา บังคับใช้กฎหมายยาเสพติดอย่างจริงจัง และมีประสิทธิภาพ 


ที่ประชุมยังได้หารือถึงการแก้ปัญหาร่วมกัน 3 ข้อ คือ 1.) นโยบายแก้ปัญหายาเสพติดที่เข้มแข็ง 2.) การตั้งงบประมาณที่สอดคล้องกัน และ 3.) การประสานงานที่เข้มแข็ง โดยมีเป้าหมายคือ สกัดกั้นยาเสพติดในรูปแบบมิติใหม่ ที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร ท้องถิ่น และประชาชน เข้าร่วมด้วยกัน โดยภายใน 1 ปี ต้องให้เห็นผลจากการกำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน








วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2566

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร่วมงานวันพบปะมุสลีมะห์ ส่งเสริมบทบาทสตรีเข้มแข็ง

(วันที่ 16 กันยายน 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานจากปัตตานี บาซาร์ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันพบปะมุสลีมะห์ ครั้งที่ 16  ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพครอบครัวมุสลิมจังหวัดปัตตานี หัวข้อ ครอบครัวของฉัน สวรรค์ของฉัน กับความท้าทายในโลกยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวและชุมชน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีในการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อการขับเคลื่อนสู่สังคมแห่งสันติ ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต บนพื้นฐานคุณธรรมจริยธรรม กับความท้าทาย ในโลกยุคดิจิทัลในโอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบโล่ ให้กับ สตรีผู้นำ ตัวอย่าง ครอบครัวตัวอย่าง รวมถึง องค์กรตัวอย่างในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย โดยมี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นางสุวรรณา สาแม นายกสมาคมสตรี นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี  รศ.ดร.อิสมาอีล ลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก 


พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว ตอนหนึ่งว่า รู้สึกยินดีอย่างเป็นอย่างยิ่ง และเป็นเกียรติ ที่ได้มีโอกาสมาเป็นประธานในการเปิดกิจกรรม วันพบปะมุสลีมะห์ครั้งที่ 16 ปี 2566 แสดงให้เห็นว่า เราจัดกิจกรรมนี้มา 16 ปี ซึ่งเหตุการณ์ความไม่สงบมีมานานกว่านั้นต้องรับตั้งแต่ 4 มกราคม 2547 ปีนี้ครบ 20 ปี เพื่อจะเป็นสถานที่สร้างกำลังใจในการเป็นกำแพงจากปัญหาความไม่สงบ เราต้องยอมรับว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้มีครอบครัวเราถูกโจมตีครอบครัวด้วยความขัดแย้ง ความไม่สงบและความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน จากทุกคนที่อยู่ดียินดีมีสุขเป็นครอบครัวที่เด็กสลายและล่มสลายหรือครอบครัวเปราะบาง ทำให้ชีวิตของคนที่มีความอยู่ดีมีสุขไปสู่ชีวิตเราบ้างลูกต้องขาพ่อแม่ภรรยาต้องขาดสามีสามีต้องขาดลูก คือ สิ่งที่เป็นผลกระทบ



การที่นายก อบจ. ได้จัดกิจกรรมการพบปะมุสลีมะห์ เพื่อต้องการให้สังคมนี้ได้รับ และยอมรับถึงครอบครัวเข้มแข็ง การมีพื้นที่สร้างพลังด้วยวิธีพบปะทางศาสนามีศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว ในทางกฎหมายบอกว่าบุคคลจะเสมอกันด้วยกฎหมายชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกันแต่ในทางปฏิบัติทางสังคมผู้ชายจะมากกว่าผู้หญิง ในสัดส่วนผู้หญิง ที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด มี 3 คนในประเทศไทยในพื้นที่ชายแดนใต้คือผู้ว่าจังหวัดปัตตานีในส่วนราชการมีปลัดกระทรวงหญิง 2 คนในจำนวนส.ส 500 คนมีสสผู้หญิง 97 คนคือ 20% ซึ่งในหลักสากลควรจะมี 26% เป็นสัดส่วนที่แสดงให้เห็นว่า ปัตตานีมีผู้ว่าราชการหญิงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ในการพบปะ มีครูปอเนาะ อยากทำปอเนาะสีขาวร่วมแก้ปัญหา ยาเสพติดไม่กลัวทหาร ตำรวจ กฎอัยการศึก หรือ พ.ร.บ. ฉุกเฉิน แต่กลัวโต๊ะครู กลัวแม่ ความเป็นแม่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกอย่างในหัวใจของลูกแม่จะยิ่งใหญ่ความสำเร็จของครอบครัวส่วนใหญ่เกิดมาจากแม่ สังคมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับผลกระทบจากมือที่มองไม่เห็น เราไม่รู้ว่าใครมาทำร้ายมาเอาชีวิตของคนที่เรารัก มาทำให้ครอบครัวแตกสลาย

ในนามพรรคประชาชาติผมเป็นหนึ่ง ที่เป็นหนี้บุญคุณ ผมเป็นรัฐมนตรียุติธรรมได้ เพราะที่พี่น้องที่นี่เลือกผมที่เสมอว่าผมต้องอยู่รับใช้พี่น้องประชาชนถ้ากระทรวงยุติธรรมให้ความยุติธรรมกับพี่น้องคนไทยไม่ได้ ผมต้องพิจารณาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับสิทธิเสรีภาพ ซึ่งคงจะทำคนเดียวไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยต้องร่วมมือกัน และถึงเวลาที่สตรีต้องลุกขึ้น ต้องมีความเป็นธรรมในทุก ๆ เรื่อง มีความเชื่อมั่นกับนายกอบจ. และผู้ว่าราชการจังหวัด 


ขอชื่นชมและขอบคุณคณะผู้จัดงานทุกท่าน ที่เสียสละเวลาจัด กิจกรรม ให้รู้ล่วงไปสำเร็จในทุกประการครับ



วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้ากระทรวงวันแรก ใช้หลักนิติธรรม เร่งแก้ปัญหาประชาชน

"พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" รมว.ยุติธรรม เข้ากระทรวงวันแรก มอบนโยบาย ให้หลักนิติธรรม เร่งแก้ปัญหาประชาชน


วันที่ 14 กันยายน 2566 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงยุติธรรม ศาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ศาลตายาย และพระพุทธยุติธรรมโลกนาถ เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอย่างเป็นทางการ โดยมี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางอรัญญา ทองน้ำตะโก รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และคณะผู้บริหารส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ และร่วมแสดงความยินดีในการดำรงตำแหน่งใหม่ ณ อาคารกระทรวงยุติธรรม


ขณะที่ช่วงบ่าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และ นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมแถลงหลังมอบนโยบายให้หน่วยงานในกระทรวงฯ โดย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้มาประชุมหารือร่วมผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงยุติธรรม พร้อมมอบนโยบายตามข้อสั่งการของรัฐบาล คือ รื้อฟื้นและฟื้นฟูหลักนิติธรรม  โดยมีแผนในห้วง 100 วัน จะนำความยุติธรรมให้ประชาชนและต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยตนจะลงกำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ เพราะกระทรวงฯ มีเครื่องมือช่วยปกป้องสิทธิเสรีภาพและประชาชน ต้องยึดหลักกฎหมายเป็นใหญ่ในกระบวนการยุติธรรม ส่วนนโยบายเร่งด่วนตามข้อสั่งการของรัฐบาล เช่น ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ลูกหนี้ SME อยากให้มีการฟื้นฟูลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน ต้องแก้ปัญหาจากโครงสร้าง ไม่ใช่กู้เงินใหม่มาแก้ปัญหาหนี้เก่า ซึ่งมันจะไม่จบ ขณะที่คนไทยหนี้ครัวเรือนมี 80-90% ของ GDP ถือเป็นเรื่องท้าทาย รวมทั้งอยากให้ผลักดันแก้ปัญหาหนี้ของSME และประชาชนทั่วไปเท่าเทียมกรณีล้มละลายเหมือนบริษัทนิติบุคคล


ทั้งนี้ มอบหมายให้ทุกกรมได้ไประดมความคิด อีกทั้งยังมีแผนการดำเนินงานใน 100 วันแรก เพื่อความยุติธรรมของประชาชน เพื่อที่ในช่วง 3 เดือนแรกจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ซึ่งทุกหน่วยงานก็ได้มีการเสนอแนะ และจะต้องลงไปดูอย่างจริงจัง และที่สำคัญกระทรวงยุติธรรมมีเครื่องมือที่จะปกป้องคุ้มครองประชาชน เราจะทำให้ระบบความยุติธรรมอยู่เหนืออิทธิพลให้ได้ กฎหมายบริหารยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้มีการพาผู้นำองค์กรต่างๆมาพูดคุยกัน เพื่อประสานเชื่อมต่อข้อมูลกัน และดูปัญหาเรื่องอาชญากรรมที่มีผลต่อประชาชนเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา


อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายดีแค่ไหนแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มาประชุมร่วมกัน ติดตามความคืบหน้าระหว่างกัน ก็ไม่สามารถติดตามคนร้ายได้ทัน ดังนั้น จึงต้องเร่งสร้างงานกระบวนการยุติธรรม สร้างความเชื่อมั่น อย่างดีเอสไอจะเข้าไปถ่วงดุลและสนับสนุนหน่วยงานในท้องที่ จะไม่ปล่อยให้องค์กรหนึ่งองค์กรใดสร้างความหดหู่ ความไม่เป็นธรรมต่อประชาชน เราจะทำกฎหมายเป็นใหญ่

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นอกจากนี้ให้ความสำคัญเรื่องการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในกรณีผู้ด้อยโอกาสที่ไร้สัญชาติมีอยู่ปีละเกือบ 1 ล้านคน ที่ยังไม่ได้สัญชาติ จะเป็นปัญหามากสำหรับผู้ที่ต้องเรียนหนังสือ เรื่องที่ผ่านมา DSI และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ช่วยในการตรวจให้พิสูจน์ได้รับสัญชาติได้แค่หลักพันถึงหลักหมื่น คนต่อปีเท่านั้น ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ในรอบ 50 ปี เราได้มีประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นกฎหมายที่ยกระดับการแก้ปัญหายาเสพติดได้มาก ซึ่งถ้าเราแก้ไขตามกฎหมายนี้ได้ทั้งหมด ที่มีทั้งเรื่องการป้องกันและปราบปราม การฟื้นฟู และการติดตามยึดอายัดทรัพย์สิน โดยเฉพาะผู้ค้ายาเสพติดที่อยู่เบื้องหลัง เราจะดำเนินการไปในส่วนของเรื่องการเงินด้วย อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูรักษาผู้ใช้ยาเสพติด ก็ต้องทำให้ได้ที่ว่า ผู้เสพคือผู้ป่วย อีกทั้งในขณะนี้จำนวนผู้เสพยาเสพติดที่อยู่ในการควบคุมของกรมคุมประพฤติมี 200,000 คน แต่ที่อยู่นอกการคุมประพฤติตามข้อมูลพบกว่า1.9ล้านคน ซึ่งจะต้องหาวิธีแก้ปัญหาไม่ให้ยาเสพติดเป็นความเดือดร้อนต่อประชาชนคนอื่นๆ

เมื่อถามว่าจะมีการแก้ปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพลอย่างไรบ้าง ? พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการเงิน เป็นการทุจริตคอรัปชั่นประเภทหนึ่ง ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างจะมีกรมบัญชีกลางที่ดูแลตรงนี้ และเราคงจะจับมือกับกรมบัญชีกลางเพื่อให้ดำเนินการจริงจัง อาจจะต้องใช้มาตรการทางภาษีและเรื่องการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ หากมีความสงสัยว่ามีการฮั้วประมูลหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่ราคาที่ประมูลโครงการได้ไปมักจะมีราคาที่ใกล้เคียงกับราคากลาง และเป็นการประมูลที่ได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งหลังจากนี้ปลัดกระทรวงยุติธรรมจะต้องเข้าไปดูเพื่อให้เกิดความชัดเจน เกิดผลอย่างจริงจัง เพื่อคอยสนับสนุนค้ำยันและทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ทำผิดก็ต้องได้รับผิด ซึ่งจะไม่ทำเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครปฐมแต่จะต้องทำทั้งหมด ตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลที่ได้มีการจะฟื้นฟูหลักนิติธรรมให้เข้มแข็ง หลักนิติธรรมจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือของข้าราชการภายในกระทรวงยุติธรรมทั้งหมด ให้ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม และประชาชนจะยอมรับคนที่ทำงานความตรงไปตรงมาเอง

“สำหรับการฮั้วประมูลของกำนันนกนั้น ดีเอสไอดำเนินการอยู่แล้ว แต่ปลัดกระทรวงยุติธรรมคงเข้าไปดูแล และจะต้องทำให้สังคมเห็นถึงความตรงไปตรงมา อย่าถือเพียงแค่เป็นการเสียชีวิตของตำรวจ หรือจบที่เรื่องกำนันนก แต่ให้ขยายการตรวจสอบไปทั่วประเทศ จะต้องป้องกัน การคอรัปชั่นจากการฮั้วประมูล ซึ่งถ้าทำได้ งบประมาณของประเทศจะถูกใช้ไปกับประชาชน ซึ่งดีเอสไอจะทำเรื่องนี้ให้ครบ หากภายหลังพบว่าใครอื่นมีพฤติกรรมในลักษณะนี้ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบเช่นเดียวกัน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว