วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"สุดารัตน์" เผย เพื่อไทยจัดสัมมนาการสื่อสาร โน้มน้าวประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


พัฒนาศักยภาพของ #ทีมเพื่อไทย ก้าวสู่ #เพื่อไทยยุคใหม่ ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

ในเดือนหน้า พรรคเพื่อไทยจะแถลงต่อประชาชน ถึงแผนการปฏิรูปพรรคสู่ #เพื่อไทยยุคใหม่ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้เป็นพรรคการเมืองที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ทันสมัยยิ่งกว่าเดิม และตอบโจทย์ปากท้องของประชาชนยิ่งกว่าเดิม

เพื่อจะไปถึงจุดนั้น วันนี้ทีมเพื่อไทยได้ร่วมกับสถาบันรีพับลิกันสากล จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้คนสองรุ่นคือรุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ ได้มีโอกาสสร้างความเข้าใจระหว่างกัน อาศัยโอกาสนี้กำหนดยุทธศาสตร์ทางการเมือง และวางกลยุทธ์การสื่อสารสู่เพื่อไทยยุคใหม่

การจัดสัมมนาครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในพรรค เพื่อให้บุคลากรของพรรคเพื่อไทย สามารถปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ ของโลกยุคดิจิตอล

ดิฉันได้เข้าร่วมกิจกรรมและร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน เปี่ยมพลัง ชวนคิด ชวนลงมือปฏิบัติ ดิฉันเชื่อว่ากิจกรรมนี้จะช่วยให้พวกเราได้เก็บเกี่ยวความรู้ประสบการณ์ตรงของนักการเมืองรุ่นใหญ่ในแง่มุมต่างๆ ทั้งในสภา และรัฐบาล ขณะที่นักการเมืองอาวุโสก็จะได้รับทราบมุมมองและความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะที่อยู่ในความสนใจของคนรุ่นใหม่ไปด้วย

หากนักการเมืองไม่ว่าจากพรรคใดแวะเวียนมาอ่านโพสต์นี้ มีข้อคิดน่าสนใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การสื่อสาร ที่พวกเราได้เรียนรู้ระหว่างการแลกเปลี่ยนกับวิทยากร อยากถือโอกาสเล่าให้ฟังค่ะ

-การสื่อสารในระบบรัฐสภาต้องมุ่งเน้นเรื่องของข้อมูลที่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนเสียศรัทธาต่อระบอบรัฐภา

-การสื่อสารของนักการเมืองทั้งในสภา และนอกสภา จำเป็นต้องมีข้อความที่เข้าใจง่าย ไม่เช่นนั้นจะเสียโอกาสในการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน

-พรรคการเมืองที่แข็งแกร่ง จะต้องทำงานทั้งในสภาและนอกสภา นำเนื้อหาที่มีการอภิปรายในสภา ไปสร้างความเข้าใจนอกสภา โน้มน้าวประชาชนทั้งที่เห็นเหมือนเรา และเห็นต่างจากเรา เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนโยบายสาธารณะ ขณะเดียวกันก็ต้องรับรู้ปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชนให้ไว เพื่อใช้เวทีสภาในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน

-ส.ส.รุ่นใหม่ต้องลงพื้นที่ให้มาก เพื่อเก็บเกี่ยว เรียนรู้ความต้องการของพี่น้องประชาชน ส.ส.รุ่นใหม่ต้องมีการฝึกฝนในเรื่องต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และต้องออกแรงให้มากเพื่อที่จะสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน สร้างพลังทางการเมืองให้เกิดขึ้นจริง

ในช่วงสุดท้ายของวันนี้ ดิฉันชอบข้อสังเกตหนึ่งมาก เป็นข้อสังเกตในเรื่อง “จุดยืนทางการเมือง” วิทยากรบอกว่า วันนี้ “ฝ่ายค้านถือว่าเป็นฝ่ายค้านที่แข็งแรงที่สุดของไทย” สิ่งที่ทั้ง 7 พรรคฝ่ายค้านต้องรักษาต่อไปไว้ให้มั่นคงคือ “ไม่ว่าอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน จุดยืนที่ต้องรักษาไว้ให้มั่นคง คือ ประชาชน - ผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และหาทางเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นไป”

สอดรับกับใจกลางของ #เพื่อไทยยุคใหม่ ที่ไม่ว่าจะเป็น #เพื่อไทยยุคไหน ก็มี #หัวใจคือประชาชน อยู่เสมอ เราจะรักษา ปกป้อง จุดยืนของเราไว้ให้มั่นคงค่ะ

"อนุสรณ์" เผย "สุดารัตน์" เตรียมลงพื้นที่ภาคอีสาน


นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กำหนดการการลงพื้นที่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยสัญจร ครั้งที่ 1 ในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคมนี้ นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่จะไป 5 จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย จ.ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ โดยเป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งหนัก ซึ่งเกษตรกรแจ้งว่าข้าวยืนต้นตายได้รับผลกระทบร้อยละ 80 ทั้งนี้ มองว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ไม่ว่าจะเรื่องการขายน้ำ หรือการห้ามชาวนาทำนา พร้อมฝากไปยังคณะรัฐมนตรีว่าการดำเนินกิจกรรมของพรรคครั้งนี้ เน้นการทำงานเพื่อประชาชน อย่างสร้างสรรค์ ขออย่าวิตกมองเป็นเรื่องการเมือง

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"ชัชชาติ" ห่วงปัญหาคุณภาพชีวิตคนกรุงฯ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


เมื่อวันเสาร์ ผมขอให้น้องๆกลุ่ม City Run ช่วยพาไปวิ่งดูเส้นทางริมคลองแสนแสบ สวนลุม-ตลาดน้ำขวัญเรียมที่มีนบุรี จากสวนลุม วิ่งออกถนนวิทยุ เข้าสุขุมวิท เลี้ยวเข้าอโศก ถึงคลองแสนแสบแล้ววิ่งบนทางเดินเลียบคลองยาวไปจนถึงตลาดน้ำขวัญเรียมที่มีนบุรี รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 25 กม เป็นทางเดินเลียบคลองเกือบ 20 กม ออกตีห้า วิ่งไป พักไป ถ่ายรูป กินขนม ถึงตลาดน้ำแปดโมงกว่าๆครับ

การวิ่งแบบนี้ ทำให้เราได้สัมผัสกับปัญหาต่างๆในเมืองได้เป็นอย่างดี ทางเดินเท้าที่บางช่วงเดินดี บางช่วงเดินยาก ความสะอาดที่ดีในบางจุดและบางจุดต้องปรับปรุง ทางเดินริมคลองที่ยังมีขาดบ้างเป็นช่วงๆ บางช่วงมีการดูแลที่ดี บางช่วงก็สกปรก รกรุงรัง คุณภาพน้ำในคลองที่ดูดีขึ้นเมื่อออกไปแถบชานเมือง การได้พูดคุยกับชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าริมคลอง รวมไปถึงได้เห็นงานศิลปะบนกำแพง (Graffiti) ที่มีเป็นระยะตลอดทาง

ผมเชื่อว่าคลองยังเป็นตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตที่ดีตัวหนึ่งของเมือง การดูแลคุณภาพน้ำ การเก็บขยะ การระบายน้ำ การเพิ่มทางเลือกในการเดินทาง การเดินเรือที่มีคุณภาพ การทำทางเดินเลียบคลองให้ต่อเนื่อง สะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเราดีขึ้นครับ

#BetterBangkok

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"พานทองแท้" ยัน ไม่เกี่ยวคดีทุจริตกรุงไทย ท้าอุตตม สาบานหน้าวัดพระแก้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้




ผมขอใช้สิทธิ์พาดพิงบนพื้นที่เฟสบุ๊คนี้ ถามเรื่องการอนุมัติเงินกู้กรุงไทย ที่นายอุตตมฯ รมว.คลัง ได้แก้ตัวในสภาฯ จากการที่ฝ่ายค้านได้ถามถึงความชอบธรรมในการปล่อยกู้ และนายอุตตมฯได้พยายามโยงมาถึงคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยหนึ่งในนั้นมีคดีที่ผมตกเป็นจำเลยอยู่ด้วย ดังนี้ครับ

1. นายอุตตมฯได้ชี้แจงในสภาว่า ไม่เห็นด้วยกับการปล่อยกู้กรุงไทยตั้งแต่แรก แต่ในคำให้การของตน ไม่เคยมีหลักฐานยืนยันว่า นายอุตตมฯได้เคยคัดค้านไม่ให้ปล่อยเงินกู้โครงการนี้เลย มิหนำซ้ำยังปรากฏหลักฐานว่านายอุตตมฯได้ลงนามอนุมัติเงินกู้ในครั้งนี้ด้วย
คำถาม: 
เมื่อไม่เห็นด้วย แล้วนายอุตตมฯ จะเซ็นชื่อลงนาม ทำให้ประเทศชาติเสียหายร่วมหมื่นล้าน ไปหาอะไร? ไหนหล่ะหลักฐานที่อ้างว่าไม่เห็นด้วย นายอุตตมฯนำมาโชว์ให้สังคมได้เห็นได้หรือไม่? หรือว่าเป็นเพียงลมปากเพื่อแก้ตัวเท่านั้น?

2. ข้อเท็จจริงคือ หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 แบงค์ต่างๆเริ่มจะมีมาตรการป้องกันการปล่อยเงินกู้ที่รัดกุมขึ้น โดยแบงค์กรุงไทยได้มีกฏเกณฑ์ว่า การปล่อยเงินกู้ในโครงการขนาดใหญ่ บอร์ดบริหารทั้ง 5 คน จะต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ หากมีเพียงคนเดียวคัดค้าน ต่อให้อีก 4 คนลงนามโดยพร้อมเพรียงกัน แบงค์ก็จะปล่อยเงินกู้ไม่ได้ ประเทศชาติก็จะไม่เสียหายแม้แต่บาทเดียว
คำถาม: 
มีใครเอาปืน เอารถถัง ไปจ่อคอบังคับให้นายอุตตมฯเซ็นชื่องั้นหรือ? ตามจรรยาบรรณหรือธรรมมาภิบาลที่ดีของคณะกรรมการบริษัทฯนั้น เมื่อไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติโครงการ ควรจะปฏิบัติอย่างไร? นายอุตตมฯช่วยตอบสังคม ว่าการลงนามให้รัฐเสียหายร่วมหมื่นล้านครั้งนี้ เป็น Good Governance ของตนหรือไม่?

3. คนที่เป็นบอร์ดอนุมัติเงินหมื่นล้าน ซึ่งไม่ถึง 1% ของเงินหลวงในแต่ละปี ยังรักษาผลประโยชน์ของชาติไม่ได้ มีความเหมาะสมหรือไม่ที่จะให้มาดำรงตำแหน่ง รมว.คลังของประเทศ ที่ต้องรับผิดชอบเงินปีละหลายล้านๆบาท

4. ในสำนวนคดี มีคำว่า “บิ๊กบอส” เข้ามาเกี่ยวข้อง และมีความพยายามโยงมาว่า บิ๊กบอสหมายถึง คุณพ่อผมบ้าง คุณแม่ผมบ้าง ซึ่งในคำพิพากษาที่ออกมา ศาลมิได้รับไว้พิจารณา มีเพียงความเห็นของคนๆเดียวเท่านั้น ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับจากเสียงส่วนใหญ่ รับฟังเป็นข้อเท็จจริงไม่ได้

ถ้าบิ๊กบอสหมายถึงหัวหน้าใหญ่ หรือประธานใหญ่ ลองมามองต่างมุม และลิสต์รายชื่อของ ประธานขององค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องกันดูบ้างว่า.....

> ประธานแบงค์กรุงไทย ขณะนั้นคือใคร?
> ประธานแบงค์กรุงเทพ (ที่ได้รับเงินจากเงินกู้นี้เยอะสุดถึง 4 พันกว่าล้าน) ขณะนั้นคือใคร?
> ประธานบริษัทกฤษดานคร ขณะนั้นคือใคร?
> รัฐมนตรีคลัง ขณะนั้นคือใคร?

ถ้าบิ๊กบอสมีตัวตนจริง ใครที่สมควรจะเป็นบิ๊กบอส กันแน่..?? เพราะรายชื่อระดับบิ๊กขององค์กรที่เกี่ยวข้อง อยู่ในแวดวงเดียวกันทั้งหมด

5. นายอุตตมฯพยายามเชื่อมโยงว่า เงินกู้ครั้งนี้มีการรับผลประโยชน์ โดยกำลังมีการพิจารณาคดีอยู่ ซึ่งผมคือหนึ่งในผู้ที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ พยายามพาดพิงมาทั้งๆที่ตัวผมนั้น ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับนายอุตตมฯเลย ผมพยายามอยู่เงียบๆและสู้คดีไปตามกระบวนการฯแค่นั้น

ผมได้สอบถามคุณพ่อผมไปว่า ครอบครัวเราได้ทำอะไรให้นายอุตตมฯ ต้องขุ่นข้องหมองใจหรือไม่ คุณพ่อผมตอบว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกันเลย ตำแหน่งต่างๆที่นายอุตตมฯได้ไปนั้น ก็มาจากอาสมคิดฯ ซึ่งเป็นรองนายกฯ เป็นรัฐมนตรีคลังเป็นผู้แต่งตั้งทั้งนั้น มิหนำซ้ำตอนที่จะขอเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีคลัง อาสมคิดก็ได้มาขอตำแหน่งจากพ่อ เพื่อให้ ครม.ได้อนุมัติ ซึ่งพ่อก็ได้ให้ไป

6. สุดท้ายนี้ จากการพูดในสภาของนายอุตตมฯ อาจพยายามโยนว่ามีการรับผลประโยชน์ และพยายามกระทบมายังผู้ที่ถูกดำเนินคดีอยู่

ซึ่งสำหรับตัวผมนั้น ตั้งแต่มีการตั้งเรื่องคดีนี้ ผมได้พูดคุยกับทุกคนในครอบครัวมาโดยตลอด ขอยืนยันว่าไม่มีใครในครอบครัวผม เข้าไปเกี่ยวข้องหรือรับผลตอบแทนจากการอนุมัติของบอร์ดทั้ง 5 คนนี้เลย

แต่ในส่วนของนายอุตตมฯ ที่ในอนาคตจะต้องรับผิดชอบงบประมาณจำนวนมหาศาลของประเทศ จำนวนหลายล้านๆบาท สังคมย่อมมีความเคลือบแคลงใจ และไม่สบายใจต่อพฤติกรรมที่ผ่านมา

ดังนั้น หลังจากนายอุตตมฯได้ตอบคำถามต่อสังคม ตามที่ผมได้ถามมานี้จนกระจ่างแล้ว

ผมขอท้า นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีคลังคนปัจจุบัน ที่มิอาจปฏิเสธความด่างพร้อยของตนในอดีต ให้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนเองไม่เคยได้รับผลตอบแทนจากการอนุมัติเงินกู้กรุงไทยนี้ ด้วยการไปสาบานต่อองค์พระแก้วมรกตด้วยกันว่า

“หากนายพานทองแท้ หรือนายอุตตม เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ประเทศชาติเสียหายจากคดีเงินกู้กรุงไทยนี้ หรือได้รับประโยชน์ใดๆ หรือได้ปฏิบัติใดๆที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติฯครั้งนี้ อย่างไม่มีธรรมาภิบาลที่ดี ขอให้มันผู้นั้นและครอบครัว จงประสบกับภัยพิบัติชั่วลูกชั่วหลานสืบไป”

สะดวกวันไหน นัดผ่านสื่อมาได้เลยครับ

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"ชัชชาติ" เยี่ยมผู้ประสบเหตุ เพลิงไหม้คลองเตย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางมาให้กําลังใจพนักงานดับเพลิงและประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ที่ซอยภูมิจิตร ถนนพระราม 4 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร





 "พานทองแท้" เผยประชาชนอบอุ่น มี "ดร.ทักษิณ" เป็นผู้นำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


ไม่ใช่แค่ครอบครัวเราที่รู้สึกอบอุ่น มั่นใจ และภูมิใจเวลาที่มีพ่อเป็นผู้นำ โอ๊คเชื่อว่าคนอีกหลายล้านคนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

วันเกิดปีนี้และปีต่อๆไป โอ๊คขอให้พ่อมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับทุกคนตลอดไปครับ

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"ยิ่งลักษณ์" ห่วงชาวนา ประสบปัญหาภัยแล้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

วันก่อนได้อ่านข่าว ทราบว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนในภาคอีสานและหลายพื้นที่ของประเทศไทย กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้พืชผลทางการเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศประสบปัญหาฝืดเคือง ทำให้พี่น้องชาวนา ชาวไร่ และประชาชนอีกมากมายต้องเผชิญกับความลำบากยากเข็ญ

ดิฉันรู้สึกเห็นใจ และอยากเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคน ที่ต้องต่อสู้อดทนกับสถานการณ์ในห้วงเวลานี้ รวมถึงเป็นห่วงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่กำลังจะตามมา ดิฉันขอให้ทุกคนมีกำลังใจ อย่าเพิ่งท้อถอย และขอให้อดทนเพื่อจะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปให้ได้นะคะ

หมายเหตุ - ภาพจากแฟ้ม TV24

"เพื่อไทย" สอนรัฐบาล ตอบให้ชัด ที่มางบประมาณ

"เพื่อไทย" จี้รัฐบาลอย่าเสนอนโยบายกว้างๆ เพื่อเลี่ยงตอบเรื่องที่มาของเงิน ชี้ประชาชนมีสิทธิรู้ว่างบประมาณถูกใช้คุ้มค่าหรือไม่?


ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า สถานการณ์การคลังของไทยมีภาวะขาดดุลงบประมาณเรื้อรัง มีรายรับของประเทศน้อยกว่ารายจ่าย ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงมากจนยากต่อการใช้มาตรการการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเมื่อมาตรการหารายได้ของรัฐบาลไม่ชัดเจน แนวทางเดียวก็คือต้องควบคุมรายจ่าย โดยใช้เงินกับนโยบายที่ให้ผลตอบแทนได้สูงกว่าต้นทุน

การใช้เงินกับงบประมาณต่างๆ ต่อจากนี้ ต้องไตร่ตรองให้มากๆ เพราะทุกครั้งที่ใช้งบประมาณกับโครงการที่ให้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่าจะเป็นการซ้ำเติมภาวะขาดดุลและก่อหนี้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

การอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลจึงควรค่าต่อการให้ความสำคัญ แต่เน้นย้ำว่ารัฐบาลต้องไม่นำเสนอนโยบายกว้างๆ ใช้คำสวยหรูแต่จับต้องไม่ได้ว่าจะทำอะไร ทำเท่าไหร่ ทำยังไง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบเรื่องแหล่งที่มาของเงินและความคุ้มค่าของโครงการ ประชาชนต้องการเห็นการเสนอนโยบายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม รัฐบาลต้องตรงไปตรงมากับประชาชน โดยต้องตอบและชี้แจงให้ประชาชนถึงข้อเท็จจริง ไม่พยายามหลีกเลี่ยง เพราะเงินทุกบาทที่รัฐบาลใช้คือเงินภาษีของประชาชน ซึ่งพวกเขามีสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้รู้ว่าเงินของพวกเขาถูกเอาไปใช้อย่างไร คุ้มค่าหรือไม่?

นอกจากนั้น อะไรที่สัญญากับประชาชนไว้ก็ต้องทำ แต่หากสัญญาแล้วทำไม่ได้ก็ต้องออกมายอมรับกับประชาชน

7 พรรคฝ่ายค้านทำงานเชิงรุก สะท้อนปัญหาภัยแล้งรุนแรง


คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนลงพื้นที่ 6 จุดทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดขอนแก่นที่เขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์คณะกรรมการฯได้ติดตามสภาพปัญหาภัยแล้งและรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขนำโดยนายอนุสรณ์เอี่ยมสะอาดโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานและโฆษกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะกรรมการฯ ร้อยตำรวจเอกนิติภูมิธณัฐมิ่งรุจิราลัยรองหัวหน้าพรรคประชาชาตินายสุพจน์อาวาสโฆษกพรรคประชาชาติ


นางสาวเกศปรียาแก้วแสนเมืองโฆษกพรรคเพื่อชาติและนายธิติพงศ์หมื่นล้านโฆษกพรรคพลังปวงชนไทยร่วมกันลงพื้นที่


ที่เขื่อนลำปาวคณะกรรมการฯได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชลประทานที่6  ทราบว่าระดับน้ำในเขื่อนลำปาวอยู่ที่ร้อยละ24 ของปริมาตรการเก็บกักซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษและสามารถใช้น้ำได้เพียงการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น

นายอนุสรณ์เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ที่เขื่อนลำปาวว่าคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนลงพื้นที่สัมผัสความทุกข์ร้อนของประชาชนมาติดตามว่ารัฐบาลมีความจริงใจมากน้อยเพียงใดที่จะแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร


การลงพื้นที่พบประชาชนสะท้อนปัญหาว่าถ้าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยซึ่งมีแผนบริหารจัดการน้ำที่ดีแต่ไม่มีโอกาสได้ทำจึงทำให้เกิดสถานการณ์ที่วิกฤตขึ้น"ในยามนี้จึงมีคนตั้งคำถามและมักได้รับคำตอบจากรัฐบาลว่าถ้าจะแล้งก็แล้งถ้าจะท่วมก็ท่วมไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้คำถามคือประชาชนจะมีรัฐบาลไปเพื่ออะไร"

ดังนั้นรัฐบาลต้องพิสูจน์ความจริงใจ1 ต้องตั้งวอร์รูมแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างจริงจังและทำให้เกิดผลโดยเร่งด่วน2 รัฐบาลจะต้องเร่งประกาศพื้นที่เขตภัยพิบัติภัยแล้ง3ต้องจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบและ4 จะต้องมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการพร้อมวางแผนระยะยาวไม่ให้ประชาชนต้องมาลุ้นกับสถานการณ์น้ำต่างๆ


นายอนุสรณ์ย้ำว่าปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลาย10ปีส่วนหนึ่งเกิดจากปรากฎการณ์ความชื้นจากขั้วโลกเหนือไม่ลงมาทำให้มวลอากาศเย็นไม่ลงประเทศจีนซึ่งมาจากการเคลื่อนตัวของบรรยากาศโลกมีการเปลี่ยนแปลงจนส่งผลกระทบโดยรอบ


"แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหรือแม้แต่ข้ออ้างยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยรอไม่ได้" วันที่25-26 กรกฎาคม2562 ที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายก็อย่าติดยึดแต่การแก้ปัญหาทางการเมืองจนลืมแก้ปัญหาบ้านเมือง7 พรรคฝ่ายค้านลงพื้นที่เพื่อรับฟังและสะท้อนปัญหาเป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่ภายใต้หลักคิดฝ่ายค้านเพื่อประชาชนเพื่อยกระดับการทำงานสภาซึ่งพิสูจน์ได้ตั้งแต่การอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านในช่วงแถลงนโยบายรัฐบาล


ด้านนายสุพจน์ยืนยันว่าพรรคประชาชาติจะสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อสะท้อนไปยังรัฐสภาปัญหาความแห้งแล้งของภาคอีสานซึ่งถือเป็นปัญหาซ้ำซากแต่ขาดผู้ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจหากรัฐบาลหรือกระทรวงเกษตรฯกระทรวงทรัพฯจะต้องหามาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวโดยเฉพาะในระยะยาวต้องมีมาตรการเสริมอื่นๆเข้ามาอย่างเป็นรูปธรรม


นางสาวเกศปรียาระบุว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านมีความตั้งใจในการลงพื้นที่ซึ่งถือเป็นการทำงานเชิงรุก

โดยสังเกตว่าภัยแล้งเป็นวิกฤตสำคัญแต่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้5 ปีที่ผ่านมาภัยแล้งจึงเป็นวิกฤตที่สำคัญและไม่สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ได้ซึ่งสะท้อนให้เห็นการบริหารที่ล้มเหลว


ขณะที่นายศักดิ์ศิริอยู่สุขผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่6 เปิดเผยว่าระดับน้ำในเขื่อนลำปาวยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษและไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับการทำการเกษตรโดยในช่วงเวลานี้ต้องบริหารจัดการเพื่อรักษาระบบนิเวศและชายเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้นทั้งนี้คาดการณ์ว่าในอีก1-2 เดือนข้างหน้าจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้นและวิกฤตจะคลี่คลาย







วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"สุดารัตน์" สอนประยุทธ์ เป็นนายกฯต้องไม่กลัวอภิปราย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้



อาการกลัวเป็นเอามาก ตั้งแต่ออกมาประกาศว่าฝ่ายค้านไม่ควรอภิปรายคุณสมบัตินายก ไปจนถึง ฟอร์มทีม องครักษ์พิทักษ์นายกฯ ไว้ถึง 60 คน คำถามก็คือ ถ้าไม่ด่างพร้อย จะกลัวอะไรกันหนักหนา ?

วันก่อน ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องวินิจฉัย คุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ว่าสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ปมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่

ตลกร้ายสำหรับคนไทย ที่มีนายกฯที่ไม่สามารถบอกสถานะตัวเองได้ เวลาได้ประโยชน์ก็บอกว่า ตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
เวลาเสียประโยชน์ ก็บอกว่า ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างเรื่องเหมืองทองอัครา

ที่บอกว่าดิ้นกันใหญ่ ก็เพราะมีองครักษ์พิทักษ์นายกบางคนบอกว่า เมื่อศาลมีมติรับวินิจฉัยในเรื่องนี้แล้ว 7 พรรคฝ่ายค้านก็ไม่ควรถือเอาประเด็นนี้ เป็นเรื่องถกเถียงในวันแถลงนโยบายรัฐบาล

ดิฉันขอยืนยันว่าฝ่ายค้านอภิปรายคุณสมบัตินายกฯ และรมต. ได้ และจะอภิปรายด้วย องค์รักษ์พิทักษ์นายกฯ ทั้งหลาย เตรียมตัวได้เลยค่ะ

ทำไมคุณสมบัตินายกฯและรัฐมนตรีจึงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านโยบายที่จะแถลงต่อสภา

เพราะวันนี้ประชาชนทั้งประเทศเปรียบเหมือนผู้โดยสาร นั่งอยู่บนรถบัสคันหนึ่ง สิ่งที่เราคาดหวังก็คือ คนขับรถให้กับเราต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย มีความสามารถเพียงพอ ที่จะนำพาประชาชนหรือผู้โดยสารทั้งคันรถไปสู่เป้าหมายได้โดยสวัสดิภาพ และอยู่รอดปลอดภัย

ในแง่นี้ คุณสมบัติของคนขับรถจึงสำคัญ!! เพราะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารทั้งคันรถ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและคุณภาพของคนขับรถ

ไม่ใช่อยู่ๆ ก็เอาปืนมาขู่คนขับที่มาตามกฎหมายให้ลงจากรถ และไปเอาคนขับซาเล้ง ที่ไม่มีใบอนุญาตขึ้นมาขับรถบัสแทน

และถ้านายกรัฐมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรีใหม่ทั้งคณะ ไม่มีคุณสมบัติด่างพร้อย และมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฏหมาย ไม่ต้องกลัวการอภิปราย และไม่จำเป็นต้องมี องครักษ์พิทักษ์นายกฯใดใด

แต่บางคนอาจจะชินกับการ ทำเรื่อง ผิดกฏหมาย ให้ถูกกฎหมาย ด้วยการตีความกฎหมายแบบศรีธนนชัย

ดิฉันอยากเห็นชายชาติทหารยืนตอบคำถามของ 7 พรรคฝ่ายค้านอย่างองอาจด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอคอยการช่วยเหลือจากบรรดาลิ่วล้อ องครักษ์พิทักษ์นายกฯ ที่ตระเตรียมไว้หลายสิบคน เพราะถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมาย ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว!!

"เพื่อไทย" เปิดตัวเพื่อไทยพลัส เก็บขยะวัดเทพลีลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ 23 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00น. พรรคเพื่อไทย นำโดยหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค พร้อมคนรุ่นใหม่พรรค จะเปิดตัวกลุ่มเพื่อไทยพลัส พร้อมแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย ก่อนจะเดินทางไปวัดเทพลีลา เพื่อเก็บขยะ



ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ส่งข้อความหาสื่อมวลชนดังนี้

แจ้งข่าว
วันอังคารที่ 23 ก.ค. 62
เวลา 10.00น.
หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค พร้อมคนรุ่นใหม่พรรค แถลงข่าวเปิดตัวกลุ่มเพื่อไทยพลัส พร้อมแถลงข่าวกิจกรรม "คืนคลองสวยหลังบ้าน" ณ ที่ทำการพรรคพท.

**หลังแถลง กลุ่มเพื่อไทยพลัส ไปลงเรือคลองแสนแสบที่ท่าเรือประสานมิตร -ไปวัดเทพลีลา เพื่อรณรงค์และเก็บขยะ

หมายเหตุ - ขอบคุณภาพกิจกรรม เพื่อไทยพลัส จาก Facebook วันนิวัติ สมบูรณ์

"ชัชชาติ" เยี่ยมแมวสถานีรถไฟลาดกระบัง ผ่าตัดมะเร็งเต้านม

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


เดือนที่แล้ว พี่บัณฑิต ทองนวล เสมียนสถานีรถไฟลาดกระบัง โทรมาบอกว่าเจ้าหลงไม่สบาย ต้องผ่าตัด ผมรีบไปเยี่ยมที่คลีนิคแถวเคหะ ร่มเกล้า ปรากฎว่าหลงเป็นมะเร็งที่เต้านม ต้องผ่าตัดใหญ่

หลงเป็นแมวที่พี่บัณฑิตเลี้ยงไว้และพามาทำงาน ช่วยดูแลห้องขายตั๋วที่สถานีรถไฟลาดกระบัง ผมเจอครั้งแรกวันที่ 24 มค 2557 และเจออีกหลายครั้งเวลาไปตรวจงาน ช่วงหลังถ้าผ่านไปแถวนั้นก็จะแวะไปเยี่ยม ล่าสุดที่เจอ ไปเยี่ยมหลงที่บ้านเคหะร่มเกล้าเพราะ หลงแก่แล้ว มาที่สถานีไม่ไหวแล้ว (พี่บัณฑิตบอกว่าหลงอายุจะ 17 ปีแล้ว)

การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี หลงแข็งแรงดี ขอบคุณคุณหมอและเจ้าหน้าที่ที่สถานพยาบาลสัตว์มายด์เพ็ทส์ เคหะร่มเกล้าที่ช่วยดูแลหลงเป็นอย่างดีมากๆครับ




"อนุสรณ์" ติง "ประยุทธ์" ปล่อยพลังประชารัฐสัมมนา รุกที่อุทยานฯ


นายอนุสรณ์​ เอี่ยมสะอาด​ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐจัดสัมมนาในรีสอร์ท 88 การ์มองเต้วังน้ำเขียว​ ซึ่งมีความน่าสงสัยในเรื่องคดีบุกรุกพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติว่า “ในขณะที่รัฐบาลกำลังจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาซึ่งควรประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กลับทำในสิ่งที่น่าผิดหวัง ทั้งที่น่าจะมีโรงแรมหรือรีสอร์ทประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมายจำนวนมาก แต่กลับไปเลือกเอารีสอร์ทที่กำลังมีปัญหาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯถึง 34 รายการและพบสิ่งปลูกสร้างอีก18 รายการ เคยถูกจับกุมมาแล้วถึง 2 ครั้งทางกรมอุทยานฯกำลังสั่งให้รื้อถอนและอัยการกำลังทำสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาล”

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า “พรรคพลังประชารัฐเคยตกเป็นข่าวว่าใช้พลังดูด เพื่อให้นักการเมืองจากพรรคอื่นย้ายพรรค ซึ่งพบว่าประมาณ 100 คนมีคดีความที่อาจจะนำไปสู่การถูกศาลพิพากษาให้จำคุกหรือถูกปรับ แต่เมื่อเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐมีบางรายรอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีเพราะส่งฟ้องศาลไม่ทันจนถูกสังคมวิจารณ์ว่าเป็นโปรย้ายค่ายหรือไม่? กรณีรีสอร์ทที่อาจบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติถูกใช้เป็นสถานที่จัดสัมมนาครั้งนี้ ขอให้จับตาดูต่อไปว่าสุดท้ายจะกลายเป็นรีสอร์ทที่ไม่ได้กระทำผิดกฏหมายใดๆเลยหรือไม่?”

“อีก 2 วันพรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายนโยบายของรัฐบาลในรัฐสภา จะซักถามว่ารัฐบาลจะปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงได้จริงหรือไม่ กรณีจัดสัมมนาที่รีสอร์ทแห่งนี้ ถือเป็นอีกเรื่องที่จะทำให้ประชาชนเกิดคำถามและอาจไม่เชื่อถือในสิ่งที่รัฐบาลกำลังจะแถลงว่าจะทำได้จริงตามที่ได้ประกาศไว้ได้หรือไม่ เพราะถือเป็นพฤติการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ" นายอนุสรณ์ กล่าว

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"ปลอดประสพ" รอ "ประยุทธ์" ตื่น-เตือนปีนี้แล้งหนักมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


แล้งขนาดนี้จะรอดอย่างไร ฟังผมบ้าง
.
ในที่สุดนายกฯประยุทธ์ก็จำนน ต้องยอมประกาศว่าตอนนี้เกิดภัยแล้ง ทั้งๆที่เกิดมานานแล้วและเกิดติดต่อเป็นปีที่สามแล้ว เหตุผลที่ต้องอำมาตลอดก็เพราะคุยว่าการบริหารจัดการน้ำประสบผลสำเร็จ ขายหน้าไหมและเชื่อขนมกินได้ยังจะต้องโดนขย่มอีกอ่วมในสภาฯ
.
แนวทางแก้ไขของคุณประยุทธ์คือ บอกทหารให้ลงไปช่วย ก็มันไม่มีน้ำจะช่วยอย่างไรเล่า ชุดทหารที่ลงไปก็นึกสนุก (คือสนุกมา 5 ปีชักติดใจ) ออกไปขู่ไล่จับเกษตรกรที่เขาแอบสูบน้ำเข้านาเพื่อรักษาชีวิตรอด
.
รัฐมนตรีช่วยเกษตรก็ชวนกันไปดูเขื่อนว่ามันแห้งอย่างไร ไม่ต้องไปหรอกครับ ทุกเขื่อนมีระบบ CCTV ดูได้ซูมได้พวกคุณนี้เชยจริง (หาเสียงละมั่ง)
.
รัฐมนตรีอีกคนก็ไปกว้านพะเยาบอกราษฎรว่าอย่าห่วง รับรองมีน้ำกินน้ำใช้ไปอีก 4 เดือนแน่นอน พุทโธ่ พูดคนละเรื่องอีกแล้ว เขากำลังพูดเรื่องไม่มีน้ำทำนา ทำไร่ ไปดูประวัติศาสตร์ที่กว้านพะเยามีน้ำทุกวันนี้เพราะอธิบดีกรมประมงที่ชื่อปลอดประสพตอนนั้นใช้เงินกู้ OECF
.
ส่วนรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงก็ไปลงภาคใต้ ไปทำไมครับตอนนี้ภาคใต้ฝนตกชุกทุกวันเพราะอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
.
เพื่อเกษตรกรตาดำๆผู้ทุกข์ยาก ผมขอให้คำแนะนำไปปฏิบัติดังนี้
.
1.บอกเกษตรกรให้หยุดหว่านข้าวจนกว่าจะมีฝน

2.จัดทำตารางการทำนาข้าวและทำไรเสียใหม่ตามสภาวะ El Nino ที่กระทบต่อไทย

3.หางานระยะสั้นให้เกษตรกรเพื่อประทังชีวิต

4.ชะลอหนี้เกษตรกรที่กู้ใหม่เฉพาะปีนี้(เพราะกู้ไปแล้วไม่เกิดผล)

5.ทำฝนเทียมกระจายไปทุกจุด(แต่ก็พึงระวังอย่าไปกวนจนเมฆแตกทำให้เสียของไปเปล่าๆ)

6.เตรียมพันธุ์ปลาปล่อยในแหล่งน้ำที่แห้งขอดเพราะเชื้อหรือพ่อแม่ตายหมดแล้ว

7.หากจะต้องขนน้ำเยอะๆเพื่อการบริโภคอุปโภคใช้ขบวนรถไฟ(ขนน้ำมัน) แล้วไปจอดทิ้งไว้จะได้ไม่ต้องสร้างที่เก็บน้ำอีก(ยกเว้นพยายามหาหัวคิว)

อยากเตือนท่านนายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการน้ำฯว่าท่านยึดอำนาจมาที่ท่านทั้งหมด กรมน้ำทั้งหลาย เขาไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวไม่ตรงใจท่าน(เผด็จการ) ปัญหาแล้งจึงรุนแรงกว่าปกติ แล้งแล้วไม่กล้าประกาศต้องรอจนท่านตื่นขึ้นมา อย่างนี้ประเทศก็แย่สิครับ

"ลดาวัลลิ์" ติง "ประยุทธ์" 5 ปีแล้วยังไม่คืนความสุข

"ลดาวัลลิ์" เตือน "ประยุทธ์" หยุดก่อกรรมทำเข็ญ ให้ประชาชนรู้สึกยากจนไปมากกว่านี้ 5 ปีแล้วยังไม่คืนความสุขให้เสียที 


นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลสำรวจวิจัยภาคสนามของ  ซูเปอร์โพล ที่ระบุว่า ผู้นิยมฝ่ายค้าน 58% รู้สึกทุกข์มากที่สุดเมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเองและ 31.8 % ของผู้ที่นิยมพรรคฝ่ายรัฐบาล มีความรู้สึกทุกข์มากที่สุด  สะท้อนถึงความเป็นจริง 3 ประการ คือ

1.  ประชาชนผิดหวังที่พรรคฝ่ายค้าน ซึ่งพวกเขาอยากให้มาเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆแต่ต้องกลับมาเป็นฝ่ายค้าน ในแง่ของอารมณ์ความรู้สึกจึงมีความทุกข์อย่างมาก
2. ผู้ที่สนับสนุนพรรคฝ่ายรัฐบาลก็มีความทุกข์เช่นเดียวกัน ซึ่งรู้สึกเงินในกระเป๋าของตัวเองพร่องไปมากแต่ก็ต้องทนกล้ำกลืน
3. ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ในยุค คสช.และรัฐบาลที่มีผู้นำชื่อพลเอกประยุทธ์ ได้ทำให้ประชาชนยากจนโดยถ้วนหน้า เงินทองในกระเป๋าร่อยหรอและคลำหาไม่เจอ

"ที่พลเอกประยุทธ์พูดทุกวันบอกว่าจะคืนความสุขให้กับประชาชนนั้น แท้จริงแล้วความสุขของประชาชนที่เคยมีในช่วงรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คลำกระเป๋าตัวเองทีไรก็มีเงินนำมาใช้จ่ายได้  แต่เมื่อพลเอกประยุทธ์เข้ามา กลับเอาความสุขของประชาชนไปโยนทิ้งน้ำอย่างไม่ใยดี อีกทั้งบอกว่าจะอยู่ไม่นานก็จะไป ที่ไหนได้อยู่มานานถึง 5 ปีแล้ว ตอนนี้อยากจะอยู่ให้ยาวออกไปอีก จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้เข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่มีความทุกข์เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าตัวเองแล้วไม่มีให้ใช้จ่ายตามที่ซุปเปอร์โพลสำรวจออกมา ส่วนจะทำอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ไปคิดกันเอาเอง แต่ทางที่ดี ควรหยุดก่อกรรมทำเข็ญให้ประชาชนยากจนและรู้สึกเป็นทุกข์เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋ามากไปกว่านี้อีกเลย" นางลดาวัลลิ์กล่าว

พรรคฝ่ายค้าน แสดงวิสัยทัศน์ หาทางออกวิกฤติชาติ


หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเสียงข้างมาก 7 พรรคร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงานเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อ “ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ” โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน” ในวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00 - 12.30 น. ณ โรงแรมแลงคาสเตอร์ กรุงเทพฯ

โดยการเสวนาในครั้งนี้ เป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค ร่วมกับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน ในการหาแนวทางนำพาประเทศไทยออกจากวิกฤติในปัจจุบันร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ วิกฤติการสืบทอดอำนาจ วิกฤติความเปราะบางของเศรษฐกิจไทย รวมถึงจะเป็นการ “แสดงวิสัยทัศน์ กำหนดบทบาท และภารกิจของฝ่ายค้าน” ต่อพี่น้องประชาชน โดยมุ่งเน้นการเป็นฝ่ายค้านสร้างสรรค์ แต่หนักแน่น ตรงไปตรงมา ยึดมั่นในหลักการและความถูกต้อง พร้อมทำงานร่วมกับประชาชน

ทั้งนี้ วิทยากรผู้เข้าร่วมการเสวนา ได้แก่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายสุภดิช อากาศฤกษ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย โดยมี นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ

"สุดารัตน์" เร่งรัฐ แก้ปัญหาภัยแล้ง

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


มาตราการแก้ภัยแล้งที่นายกฯ สั่งการเมื่อวาน ไม่เพียงพอ ไม่มีมาตราการอะไรเป็นรูปธรรม ที่จะแก้ปัญหาภัยแล้ง และช่วยเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งทั่วประเทศได้

ขอเสนอ 3 มาตรการเร่งด่วน ให้พล.อประยุทธ์ รับไปดำเนินการ เพื่อช่วย เหลือเกษตรกรให้ทันท่วงที

นี่คือภาพสถานการณ์ภัยแล้งล่าสุดจากหลายจังหวัด ที่ ส.ส. #ทีมเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่ดูแลปัญหาภัยแล้งที่พี่น้องทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคกลาง กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก และสส. #ทีมเพื่อไทย ได้ส่งภาพเข้ามาให้ดิฉันดูในกลุ่มไลน์เช้าวันนี้

สภาพในหลายที่ไม่ต่างกัน นั่นคือ น้ำในคูคลองแห้งขอด ข้าวในนาเหี่ยวเฉา ในหลายที่ยืนต้นตาย เก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ หลายพื้นที่ ชาวนาหว่านข้าวและต้องไถทิ้ง ไม่ต่ำกว่า3-4 รอบ ทางภาคเหนือลำใยก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาภัยแล้งมาหลายเดือนแล้ว

เมื่อสัปดาห์ก่อนดิฉันได้ลง พื้นที่ไปดูปัญหาภัยแล้งที่จังหวัดขอนแก่นด้วยตัวเอง และได้เรียกร้องให้รัฐบาล #พูดความจริง เพื่อลดความเสียหายของพี่น้องเกษตรกรให้น้อยที่สุด พูดความจริงว่าเหลือน้ำอยู่เท่าไหร่ พูดความจริงว่าน้ำในเขื่อนแทบทุกแห่งมีนำ้เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคเท่านั้น ไม่ได้เหลือเพียงพอสำหรับทำการเกษตร

เมื่อรัฐบาลไม่พูดความจริงตั้งแต่ต้น พี่น้องเกษตรกรก็กู้หนี้ยืมสินมาทำการเกษตร เพราะหวังว่าจะมีน้ำ เพราะหวังว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาภัยแล้งได้สำเร็จ แต่สถานการณ์ในวันนี้เวลานี้ ต้องบอกว่า รัฐบาลบริหารวิกฤติได้ไม่ทันต่อความทุกข์ของพี่น้องประชาชน ความเสียหายกำลังขยายเป็นวงกว้างทั่วทั้งประเทศ

ขอย้ำตรงนี้อีกครั้งว่าทำได้ทันทีในวันนี้ 3 เรื่อง

1) ทำฝนหลวงโดยเร่งด่วน ไม่ใช่แค่ทำฝนหลวงเฉพาะที่บริเวณเหนือเขื่อนเท่านั้น แต่ต้องทำฝนหลวง กระจายและครอบคลุมในพื้นที่ภัยแล้งให้ได้

2) ประกาศให้พื้นที่ที่เผชิญวิกฤติภัยแล้งหนักหน่วง ชนิดไม่มีน้ำเพื่อทำการเกษตร เป็นพื้นที่ภัยพิบัติทันที ภายในสิ้นเดือนนี้

พร้อมสรุปข้อมูลให้เห็นถึง จำนวนครัวเรือนที่ประสบภัย ข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งทั้งหมด

3) เร่งรัดจ่ายเงินชดเชยให้พี่น้องเกษตรกรทันที เพื่อช่วยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันพี่น้องเกษตรกร ก็จะได้วางแผนเพื่อประกอบอาชีพอื่นๆ แทนในเวลาที่เหลือของปีนี้

ประชาชนฝากความหวังว่ารัฐบาลใหม่จะแสดงฝีมือแก้วิกฤติภัยแล้ง แต่จนถึงนาทีนี้ ชักไม่มั่นใจ ภาพพี่น้องประชาชนปิดถนน ประท้วงภัยแล้ง ช่วยสะท้อนภาพการทำงานได้ดี

ก่อนขึ้นแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่ในวันพฤหัสบดีนี้ ดิฉันขอฝาก นายกรัฐมนตรี และครม.ใหม่ แก้ปัญหาเร่งด่วนคือ มาตรการที่นายกรัฐมนตรีเพิ่งสั่งการเมื่อวานนี้ ไม่เพียงพอ และไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ที่จะแก้ปัญหา #ภัยแล้ง ให้สำเร็จได้ และจะอ้างเหตุว่าพึ่งอยู่มา 5 วัน เลยแก้ปัญหาได้ล่าช้า ก็คงจะไม่ใช่ เพราะหลายๆ คน ทั้งนายกฯ และครม. ก็หน้าเดิมกับเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา และปัญหาภัยแล้งก็ไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่เป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการวางแผนเพื่อแก้ไขอย่างเป็นระบบมาก่อนหน้านี้ !!

#ทุกข์ของพี่น้องประชาชนคือทุกข์ของพรรคเพื่อไทย
#ทำทันที #แก้ไขทันที #ภัยแล้ง #เพื่อไทยยุคใหม่

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"ภูมิธรรม" ชวนฟังวิสัยทัศน์พรรคฝ่ายค้าน หาทางออกวิกฤติชาติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ฟัง! วิสัยทัศน์จาก 7 หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านร่วมหาทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ
วันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. 2562
เวลา 10:00-12:30 น.
โรงแรมแลงคาสเตอร์ กรุงเทพ

ประเทศไทยวันนี้
หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น
ไม่ได้มีอะไรใหม่เกิดขึ้น
เหมือนที่หลายๆคนคาดหวัง

วันนี้……
เราคงต้องเผชิญ กับ” นายกคนเดิม” พร้อม”ทีมเศรษฐกิจที่ไม่แตกต่างไปจากเดิม “ เพิ่มเติมด้วยนักการเมืองที่เคยถูกประนามหยามเหยียดมาร่วมทีม ภายใต้กฎกติกา และวิธีการแก้ไขปัญหาให้แก่ประเทศ แบบเดิมๆ……
นั่นหมายความว่า”ชีวิตของพวกเรา คงเป็นแบบ เดิม” เหมือนเช่นที่ได้เผชิญมาแล้วตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ใช่ไหมครับ

การจัดกิจกรรมทางวิชาการ
ของ 7 พรรค ฝ่ายค้าน ที่ร่วมกันจัดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการทำงานการเมืองที่สร้างสรรค์
เป็นการเมืองที่ให้ความสำคัญกับการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาของส่วนรวม ของประเทศ ของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่การเมืองที่พูดแต่เรื่องประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง

เป็นกิจกรรมที่น่าสนับสนุนและน่าติดตามรับฟังนะครับว่าหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรคฝ่ายค้าน
จะมาชักชวน ให้พวกเราคิด และร่วมกันหาทางออกให้กับ วิกฤติประเทศ ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างไร……

อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าการรับฟังข่าว เรื่องการแย่งห้องที่ทำงานของรัฐมนตรีใหม่ หรือ คุณสมบัตินายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ที่กระพร่องกระแพร่ง แม้จะเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีร้ายแรงทั้งทางอาญาและข้อหากบฎ แต่”ผู้นำรัฐบาล”ยังนำเข้ามาให้รับผิดชอบการบริหารประเทศ

“ แม้วันนี้จะถดถอยและสิ้นหวัง พวกเราพรรคฝ่ายค้านจะรวมพลังเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ และพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด”

ภูมิธรรม เวชยชัย
20 กรกฎาคม 2562

"สุดารัตน์" เผยพรรคฝ่ายค้าน พร้อมอภิปรายในรัฐสภา

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
#การแถลงนโยบายของรัฐบาล ต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภานั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งค่ะ นอกจากจะเป็นไปตามกติการัฐธรรมนูญแล้ว ยังหมายถึงการประกาศรูปธรรมต่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนตอนหาเสียงด้วย
รัฐธรรมนูญ ปี2560 มาตรา 162 บังคับให้นโยบายของรัฐบาลต้องมีความสอดคล้องกับ 1.หน้าที่ของรัฐ 2.แนวนโยบายแห่งรัฐ 3. ยุทธศาสตร์ชาติ และยังต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบายด้วย
นโยบายของรัฐบาลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สมาชิกรัฐสภา คือ ส.ส. และ ส.ว.ทุกคน มีสิทธิอภิปรายซักถามหรือเสนอแนะได้ ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย
รัฐบาลที่แล้วให้กรอบเวลาในการประชุมร่วมถึง 3 วัน แต่มาถึงรัฐบาลนายกฯประยุทธ์ ที่บอกว่ามาจากระบอบประชาธิปไตย โปร่งใส และใช้รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงกลับลดเวลาเหลือแค่ 2 วัน
ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน รู้สึกเป็นห่วงต่อความรอบคอบของนโยบาย เพราะรัฐบาลจะต้องบริหารบ้านเมืองในหลายมิติ แถมรัฐธรรมนูญที่พวกท่านออกแบบกมาก็ตีกรอบให้เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ถึง 20 ปี ประชาชนเองก็คงอยากจะรู้ว่า หน้าตาของนโยบายที่ผสมกันออกมาจะเป็นไปในทิศทางไหน
สิ่งสำคัญที่สุดคือ สมาชิกทุกคนควรจะได้มีโอกาสอภิปรายซักถามอย่างเต็มที่ รัฐบาลไม่ต้องกังวลค่ะ นี่เป็นประโยชน์ต่อพวกท่านเอง
เวทีรัฐสภาโดยผู้แทนราษฎรที่ส่วนใหญ่มาจากการเลือกตั้ง จะช่วยให้ท่านเห็นข้อควรระมัดระวังอีกด้าน หรืออาจนำเอาข้อเสนอแนะไปปรับปรุงแก้ไขให้ทำได้จริงขึ้น
สมาชิกรัฐสภาซึ่งมีเกือบ 750 คน แต่ให้เวลาฟังและอภิปรายแค่ 2 วัน เฉลี่ยแล้วตกคนละไม่กี่นาที เมื่อเทียบกับเวลาของรัฐบาลที่ต้องบริหารประเทศไปอีกหลายปี ถือว่าน้อยเกินไป
ท่านนายกฯ ควรจะใจกว้าง ให้เวลาแก่สมาชิกอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะฝ่ายค้านซึ่งจะได้อภิปรายซักถามอย่างเต็มที่ ประโยชน์สูงสุดก็จะตกแก่ประชาชนที่จะได้เห็นนโยบายของรัฐบาลซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตของพวกเขา
ท่านนายกฯ ไม่ต้องกังวลนะคะ นี่เป็นกลไกตรวจสอบปกติของระบอบรัฐสภา ภายใต้กติกาประชาธิปไตย ท่านอาจจะไม่ชอบ เพราะไม่ใช่สภาแบบที่ท่านเคยตั้งได้ทั้งหมดมากับมือ แล้วก็ยกมือพร้อมเพรียงให้กับท่าน ค่อยๆเรียนรู้กับระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายค้านพร้อมให้คำแนะนำอย่างเต็มที่ค่ะ

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"เพื่อไทย" เร่งครม.ประยุทธ์ แถลงนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ


ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหลือเวลาเพียงอีกไม่กี่วันที่ทางครม.ของ พล.อ.ประยุทธ์ฯ จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา  เพราะที่ผ่านมาในส่วนของผลงานยังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ ดังนั้นจึงอยากให้มีรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้าง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน  ซึ่งจากรายงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไตรมาสสี่ปี 2561 ประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 12.8 ล้านล้านบาท และหากเปรียบเทียบกับต่างประเทศจะพบว่าประเทศไทยมีสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ในอับดับ 10 จาก 89 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจากการที่เศรษฐกิจของไทยยังต้องพึ่งพาการส่งออก และการลงทุนจากต่างประเทศเป็นหลัก ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงต้องมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน เพื่อให้ได้รับการยอมรับอย่างเร่งด่วน

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ฯ กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้น รวมทั้ง ราคาพลังงานที่สูงเกินความเป็นจริง รัฐควรรีบดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยพักหนี้ครัวเรือน เร่งสร้างรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยว ทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ ส่งเสริมการส่งออก ปรับโครงสร้างภาษีอากรทั้งระบบ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกเลิกการผูกขาดการทำธุรกิจทุกชนิด แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ พัฒนาพลังงานทดแทน และสร้างความเสมอภาพในสังคม ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาทางพรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเรื่องปัญหา ปากท้องมาโดยตลอด  ดังนั้นรัฐจึงควรเร่งหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมากกว่านำงบประมาณประเทศไปซื้อยุทโธปกรณ์เพื่อทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

7 พรรคฝ่ายค้าน เตรียมจัดหนัก! เสวนาหาทางออกประเทศ

“7 พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน” จัด "เสวนาใหญ่" ระดมหัวหน้าพรรคหาทางออกประเทศ ประเดิมก่อนรัฐบาลแถลงนโยบาย



ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และเลขาฯคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากทั้ง 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เห็นชอบจัดงานเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อ “ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ” โดยถือเป็นเวทีแรกของโครงการ “ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน” ในวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00 – 12.30 น. ณ โรงแรม แลงคาสเตอร์ กรุงเทพฯ

โดยการเสวนาในครั้งนี้จะเป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค ร่วมกับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน ในการหาแนวทางนำพาประเทศไทยออกจากวิกฤติในปัจจุบันร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ วิกฤติการสืบทอดอำนาจ วิกฤติความเปราะบางของเศรษฐกิจไทย รวมถึงจะเป็นการ “แสดงวิสัยทัศน์ กำหนดบทบาท และภารกิจของฝ่ายค้าน” ต่อพี่น้องประชาชน โดยมุ่งเน้นการเป็นฝ่ายค้านสร้างสรรค์ แต่หนักแน่น ตรงไปตรงมาโดยยึดมั่นในหลักการและความถูกต้อง และพร้อมทำงานร่วมกับประชาชน

วิทยากรผู้เข้าร่วมการเสวนา ได้แก่ คุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ คุณเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ คุณสุภดิช อากาศฤกษ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ คุณสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ คุณนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย โดยมีคุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ


"พงศ์เทพ" แนะจับตามาตรฐาน ลักษณะต้องห้ามรัฐมนตรี


นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงกรณีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี ว่า "หากมีปัญหาในประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี หมายความว่าหากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ก็ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ หากมีการแต่งตั้งโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมมาแล้วต้องพ้นจากตำแหน่งนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัย เมื่อมีการส่งเรื่องไปยังศาลฯ ซึ่งโดยปกติการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. สามารถเข้าชื่อกันได้ หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ก็สามารถส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมๆ เช่นมีการระบุคุณสมบัติไว้ว่า รัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งแต่เดิมไม่มี การที่ระบุว่าต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์นั้น หากตีความตามความเป็นจริง เมื่อมีเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริตแต่ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ จะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องใช่หรือไม่ การเขียนเช่นนี้ทำให้เกิดข้อสงสัย และหากเป็นกรณีตรงกันข้าม นอกจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์แล้ว แต่กลับมีพฤติการณ์ที่ดูแล้วไม่ซื่อสัตย์สุจริต จะเป็นปัญหาที่อาจนำไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญได้ กกต.ที่ตรวจคุณสมบัติของผู้สมัคร และต่อมาเป็นประเด็นปัญหาที่ศาลวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการไปบอกให้ กกต.ต้องรับผิดชอบ แต่เมื่อศาลวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว เมื่อ กกต.ทราบบรรทัดฐานแล้วต่อมายังไปยังอนุมัติให้ผ่านคุณสมบัติ กกต.อาจจะต้องรับผิดชอบส่วนหนึ่ง"

นายพงศ์เทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในส่วนของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนำชื่อคณะรัฐมนตรีเสนอ เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะเสนอคนที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม นายกรัฐมนตรีจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ยาก อดีต รมว.ยุติธรรม ยังเห็นว่า การอภิปรายคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรีของพรรคฝ่ายค้านในการแถลงนโยบายของรัฐบาล จะทำให้เห็นว่ารัฐมนตรีผู้นั้นสามารถเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ แต่การที่จะดำเนินการต่อไป ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยมี ส.ส.เข้าชื่อกันเสนอไปยังรัฐธรรมนูญ หรือ กกต.จะดำเนินการเอง"

"ข้อมูลบางอย่างปรากฏต่อสาธารณชน และปรากฏต่อตัวนายกรัฐมนตรีแล้วก่อนที่จะมีการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีเสนอ เพราะฉะนั้นในระหว่างนี้ไม่คิดว่าการไปเรียกร้องจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เว้นเสียแต่ว่าหลังจากที่คณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และยังไม่มีการยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีด้วย การส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของพลเอกประยุทธ์นั้น คือกรณีที่ศาลมีเหตุอันควรเชื่อหรือมีมูล โดยปกติศาลต้องสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีตัวอย่างมาแล้ว อย่างการที่ศาลสั่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือกรณีของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ก่อนหน้านี้ที่มีหลายคนถูกร้องเรียน แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะนักกฎหมายจึงยังสับสนเช่นกันว่า บรรทัดฐานจะดูเช่นไร ซึ่งคงต้องศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะสั่งอย่างไร ต้องสั่งให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หลักกฎหมายเดียวกัน ซึ่งในภายหลังจะทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และเกิดการยอมรับในคำสั่งที่สั่งมาในแต่ละเรื่องแต่ละคดี" นายพงศ์เทพ กล่าว

"ปลอดประสพ" ตะเพิดส่ง คสช. ไปแล้วขอให้ไปลับ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

คสช. ไปแล้วก็ขอให้ไปลับ
.
นายกฯประยุทธ์กล่าวอำลาการสิ้นสุดของการปกครองภายใต้ระบอบเผด็จการคสช. 5 ปี พร้อมกล่าวอ้างความสำเร็จหลายประการ และยังได้เรียกร้องขอให้ประชาชนได้ทบทวนว่าบ้านเมืองนั้นดีขึ้นอย่างไรบ้างในยุคไร้ประชาธิปไตยอำนาจนิยมเฟื่องฟู
.
ผมจึงขอสนองคำถามของท่านพอสังเขปดังนี้
.
1.ท่านอ้างว่าประสบความสำเร็จเรื่องการทุจริต คอร์รัปชั่น ขอถามว่ากรณีของนาฬิกา กรณีองค์การทหารผ่านศึกรับงานก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ จนครม.ของท่านเองยังต้องสั่งให้ระงับ กรณีมีบริษัทในค่ายทหารซึ่งล้วนคสช.ระดับสูงเกี่ยวข้องนั้น อะไรคือความสำเร็จครับ
.
2.ท่านอ้างว่า ท่านออกกฎหมายมากมายจนสามารถแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานได้ แล้วท่านเองไม่ใช่หรือที่ยกเลิกกฎหมายประเภทคำสั่งคสช. ตามมาตรา 44 เกือบ 500 ฉบับ โดยยอมรับว่าไม่มีประโยชน์อะไรและและขัดกับหลักธรรมาภิบาล แต่ก็ยังรักษากฎหมายที่ผมเห็นว่าแย่ที่สุดไว้ เช่น ให้อำนาจกอรมน. เรียกประชาชนมาปรับทัศนคติได้
.
3.ท่านอ้างว่าทำให้มีการลงทุนมากขึ้น ท่านยกเมฆข้อมูลอะไรมาครับ 5 ปีที่ผ่านมา การลงทุนต่ำสุดในประวัติศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
.
4.ท่านอ้างว่าประสบความสำเร็จในการแก้ความยากจน ท่านเอาอะไรมาพูดครับ ทุกสถิติยืนยันว่าคนจนมีมากขึ้น ความเหลื่อมล้ำของรายได้และทรัพย์สินของประชาชนที่แตกต่างยิ่งมากขึ้น คือรวยกระจุกจนกระจาย
.
5.ท่านอ้างว่าแก้ปัญหาการประมงได้ ท่านมั่วหรือเปล่า ตอนนี้ประเทศไทยไม่มีการประมงนอกน่านน้ำแล้ว เรือประมงไทยจอดตายรอจมหลายหมื่นลำ ชาวประมงพม่าและเวียดนาม แอบเข้ามาจับปลาแทนชาวตังเกไทย ประเทศไทยต้องสั่งปลาจากต่างประเทศมากิน มันบ้าชัดๆ สมัยผมนะประเทศไทยส่งออกเป็นลำดับที่หนึ่งของโลกนะครับ
.
6.ท่านอ้างความสำเร็จเรื่องการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติโคตรปีของท่าน ท่านไม่เห็นหรือสองวันสองคืนในสภา เขาวิจารณ์ เขาด่าความล้มเหลวว่าอย่างไร ตาบอดหูหนวกหรือจึงไม่รู้ เก่งนักแล้วทำไมไม่ไปร่วมชี้แจงเล่า
.
7.ท่านว่าสามารถแก้ภาพลักษณ์ที่ถูกมองเป็นประเทศล่มสลาย ปัดโธ่ต่างชาติเขารู้ทั้งนั้นว่า ใครปิดระเทศและปิดเพื่อใคร พวกท่านนั่นแหละที่ทำเอาประเทศแทบไม่เหลืออะไรแล้วยังจะมาทวงบุญคุณอีก
.
8.ท่านพูดอย่างภูมิใจว่าท่านจะทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยปกครองโดยระบอบรัฐสภาฯ ตามที่นานาอารยะประเทศเขาทำกัน ทุเรศมากจริงๆ ส.ว.ท่านตั้งทุกคนใช่ไหม ยกมือให้ท่านเป็นนายกฯครบ ไม่มีแตกแถว บอกหน่อยประชาธิปไตยมาตรฐานประเทศไหนกัน
.
ไปแล้วก็ไปลับนะครับ อย่าเป็นแบบที่คุณวิษณุเพิ่งออกมาขู่เมื่อวานว่า “เขาอาจประกาศกฎอัยการศึกอีกนะ” ก็ขออย่าให้เป็นเช่นนั้นตลอดไปแล้วกัน สำหรับท่านที่กลับมาในคราบของประชาธิปไตย ก็ขอให้กลับเนื้อกลับตัวจริงๆ จะขอสาธุไว้ล่วงหน้า

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"ลดาวัลลิ์" ชี้ "ประยุทธ์" เสี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชน

"ลดาวัลลิ์" ชี้ "ประยุทธ์" เสี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชน โอนอำนาจ คสช. ให้ กอ.รมน. เรียกบุคคลเข้ารายงานตัว ปรับทัศนคติ ที่เป็นคำสั่งหัวหน้าคสช.


นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า  ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้ข่าว ปฏิเสธว่า กอ.รมน. ไม่ได้เรียกบุคคลมาปรับทัศนคติ เหมือนกับคสช.นั้นไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบพบว่า หัวหน้าคสช.ได้ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 51/2560  เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นมา โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 คำสั่งฉบับนี้กำหนดให้มีคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และให้มีคณะกรรมการในระดับจังหวัด มีอำนาจหน้าที่ประการหนึ่งคือ  "เชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลใด มาให้ข้อมูล หรือจัดส่งข้อมูลพร้อมหลักฐานประกอบ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการของคณะกรรมการ" ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 มีวัตถุประสงค์เพื่อมิให้บุคคล  ก่อให้เกิดความไม่สงบ หรือ  กระทบความมั่นคงของรัฐ

นางลดาวัลลิ์กล่าวว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาในยุคคสช.นั้น มีนักการเมือง นักศึกษา ประชาชน นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สื่อสารมวลชนฯลฯ ถูกเรียกตัวให้ไปพบเจ้าหน้าที่รัฐ และ ควบคุมตัวไว้ รวมทั้งการพูดจาหว่านล้อม ข่มขู่ ให้หยุดการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ที่เรียกกันว่า”ปรับทัศนคติ” คำสั่งที่ให้อำนาจ กอ.รมน.ก็ไม่แตกต่างกัน  การระบุไว้ในคำสั่งที่อ้างเรื่องความไม่สงบ หรือความมั่นคงของรัฐ ก็เป็นข้ออ้างที่ใช้มานานแล้วในยุค คสช.ที่ถือเอาว่าตัวเองคือประเทศชาติหรือรัฐบาล ทั้งๆที่ ในความเป็นจริงไม่ใช่  อีกทั้งการแสดงออกทางการพูดการกระทำของบุคคลที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐบาล เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน หรือสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน  ข้ออ้างนี้ย่อมครอบคลุมไปถึงส.ส.ด้วย หากกอ.รมน.เห็นว่าการพูดและการแสดงออกนั้นก่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ทั้งๆที่ ส.ส.ทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบรัฐบาล

นางลดาวัลลิ์กล่าวอีกว่า คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 51/2560  ที่สามารถเรียกบุคคลมาพบและให้ข้อมูลนั้น กระบวนการออกคำสั่งเกิดขึ้นในยุคคสช. ไม่ได้ผ่านกระบวนการตรากฎหมาย ตามหลักประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น ยังถือเป็นมรดก คสช.ที่กระทบสิทธิเสรีภาพประชาชน ซึ่งพรรคฝ่ายค้าน และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย จะต้องผลักดันให้มีการยกเลิกโดยเร็วต่อไป

"อนุสรณ์" เผย ประชาชนคิด เพื่อไทยทำ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน


นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการทำหน้าที่ตรวจสอบของพรรคฝ่ายค้านในสภาฯ ว่า พรรคเพื่อไทยได้ยกระดับการทำงานในสภาให้มีความเข้มข้นภายใต้แนวคิด ประชาชนคิด เพื่อไทยทำ นำทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนสะท้อนให้รัฐบาลเร่งแก้ไข ระหว่างรอเอกสารนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลง พรรคเพื่อไทยได้เตรียมผู้อภิปรายตามกรอบนโยบายของรัฐบาลซึ่งจะให้ความสำคัญกับทุกมิติ รวมถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรี ซึ่งมีผู้เสนอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี หากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามก็ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัย รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมๆ เช่นมีการระบุคุณสมบัติไว้ว่า รัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หากตีความตามนี้จะมีรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติจำนวนเท่าใด จากการรวบรวมข้อมูลในขั้นต้นจะมีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเรื่องคุณสมบัติจำนวนมาก ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา นายอุตตม สาวนายน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสาธิต ปิตุเตชะ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นต้น

“5 ปี ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ได้รับทั้งเวลาและโอกาสจากการมีเครื่องมือพิเศษเป็นตัวช่วย ถึงเวลาที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับโลกแห่งความเป็นจริงของการทำงานที่ฝ่ายตรวจสอบจะทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง หากเคารพและเชื่อมั่นประชาชน ต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่ โดยยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นศูนย์กลาง

"สุดารัตน์" นำประชาชนทำบุญ-เวียนเทียน อาสาฬหบูชา

"คุณหญิงสุดารัตน์" ร่วมกับประชาชน เขตพระโขนง และพื้นที่ใกล้เคียง ทำบุญ เวียนเทียน เนื่องในวันอาสาฬหบูชา 



คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายกวีวงศ์ อยู่วิจิตรสมาชิกพรรคเพื่อไทย ประชาชนในเขตพระโขนง และพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมกันทำบุญเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ณ วัดวชิรธรรมสาธิต เขตพระโขนง โดยมีพระพิพัฒนกิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมสาธิต ประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ทำวัตรเย็น จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยในพระอุโบสถ และพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ จากนั้นเป็นขั้นตอนของการประเคนเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา โดยก่อนเสร็จสิ้นพิธี คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ร่วมกับพี่น้องประชาชน เวียนเทียน รอบพระอุโบสถด้วย