วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

5 พันธมิตรผนึกกำลัง สร้าง Digital Economy Platform เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมเชิงพื้นที่บน ASEAN Economic Corridors

#TV24 เมื่อวันอังคารที่ 31 มีนาคม 2558 ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการขับเคลื่อน “นวัตกรรมเชิงพื้นที่บนระเบียงเศรษฐกิจอาเซียน” (Innovative Mapping on ASEAN Economic Corridor) ณ ห้องกมลทิพย์ 2 โรงแรม เดอะ สุโกศล

รศ.ดร.สมเจตน์ ทิณพงษ์ ประธานกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า จากแนวคิดที่ท่านรัฐมนตรีฯ กล่าวถึงเมื่อสักครู่นี้ จะทำให้การผนึกกำลังของหน่วยงานทั้ง 5 หน่วยงาน บรรลุเป้าหมายใน 4 มิติดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การจัดทำ Innovative Mapping on ASEAN Economic Corridors บน Digital Platform อาทิ การสร้าง Platform การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco-tourism City) การส่งเสริมและจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมใหม่ (Industry city) และการรังสรรค์เมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์เชิงพื้นที่เพื่อตัดสินใจในเชิงยุทธศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล




“อนุตตมา” ติง ม.44 ยิ่งทำเศรษฐกิจแย่ แนะทีมเศรษฐกิจ รัฐบาลบอกความจริง “ประยุทธ์”


นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และอดีตรองโฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "การที่รัฐบาลจะนำ ม. 44 มาใช้แทนกฏอัยการศึก ก็เพราะรัฐบาลพึ่งจะเห็นว่า กฏอัยการศึกมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมากทั้งการท่องเที่ยวและการลงทุน แต่การใช้ ม. 44 อาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจหนักยิ่งกว่ากฏอัยการศึกได้ ดังนั้นจึงอยากให้ศึกษาผลกระทบให้ดี เพราะหากเศรษฐกิจเสียหายเพิ่มเติมจะยิ่งแก้ไขยากขึ้นเพราะปัจจุบันก็เสียหายมากมายอยู่แล้ว ทั้งนี้อยากให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในหลายเรื่อง อีกทั้งเรื่องโครงการรถยนตร์คันแรกนั้น รัฐนำภาษีสรรพสามิตที่ได้รับจากการขายรถยนตร์คืนให้กับประชาชนผู้ซื้อ เป็นการคืนภาษี และบางคันก็คืนไม่หมด อีกทั้งรัฐยังได้ภาษี VAT รัฐไม่ได้ควักเงินงบประมาณของรัฐออกมาจ่าย จึงอยากให้เข้าใจให้ถูกต้อง"

"ทั้งนี้แนวคิดโครงการนี้นอกจากจะต้องการสานฝันของประชาชนที่อยากมีรถให้เป็นจริงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มยอดการขายรถยนตร์เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนตร์ของภูมิภาคแข่งกับประเทศอินโดนิเซีย แต่พอเศรษฐกิจไทยตกต่ำประกอบกับมีปัญหาทางการเมือง การลงทุนจากต่างประเทศจึงได้โยกย้ายไปอินโดนิเซียและประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แต่เฉพาะอุตสาหกรรมรถยนตร์เท่านั้น แต่เป็นอุตสาหกรรมอื่นๆด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายต่ออนาคตของประเทศไทย จึงอยากเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างเร่งด่วนเพื่อดึงความมั่นใจจากต่างประเทศกลับมา และ ม. 44 อาจเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนจากต่างประเทศได้"

“วิสาระดี” เผย ประยุทธ์ อารมณ์เสียบ่อย เพราะ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้


นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "รู้สึกเป็นห่วงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องอารมณ์เสียบ่อยโดยเฉพาะกับสื่อ สาเหตุน่าจะมาจากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำได้ โดยล่าสุดการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ลดลงเพิ่มขึ้นถึง -6.14% หลังจากมกราคมที่ลดลง - 3.46% แล้ว และยังไม่มีทิศทางที่จะดีขึ้นได้อย่างไร ซึ่งอาจจะทำให้พลเอกประยุทธต้องอารมณ์เสียไปอีกนาน และท่านอาจจะต้องอารมณ์เสียกับนักข่าวอีกหลายคน เพราะที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่ารัฐบาลมีผลงานอะไรที่จับต้องได้ ทั้งนี้อยากเห็นรัฐบาลให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศมากกว่าความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่งในที่สุดแล้วปัญหาทางเศรษฐกิจจะทำลายความมั่นคงของรัฐบาลเอง เพราะปัจจุบันเดือดร้อนกันมาก ประชาชนส่วนใหญ่จะจำได้แค่ไม่กี่เรื่อง เช่นเรื่องความพยายามลดราคาลอตเตอรี่ ที่ยังสงสัยกันว่า ถ้าลดราคาลอตเตอรี่ได้แล้วจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้อย่างไร และสุดท้ายผู้ได้ประโยชน์อาจเป็นร้านสะดวกซื้อที่สนับสนุนรัฐบาล โดยคนตาบอดและผู้พิการกลับได้รับความลำบาก ความพยายามเพิ่มภาษีทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีมรดกในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ การที่ไม่สามารถอนุมัติสัมปทานพลังงานรอบที่ 21 ได้ การอนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์มจนทำให้ราคาผลผลิตปาล์มตกต่ำ และความพยายามเสริมความมั่นใจนักลงทุนภายใต้กฎอัยการศึก แต่ปัจจุบันบริษัทต่างประเทศเริ่มย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นแล้ว เป็นต้น ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลได้ตั้งหลักและหาผลงานที่ประชาชนชื่นชมได้อย่างแท้จริง จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียและถูกตำหนิว่าทำให้เสียของ"

ณัฐวุฒิ แนะ ปิดโทรทัศน์ทุกค่ำวันศุกร์ อ่านหนังสือ “ยิ่งลักษณ์” อารมณ์ดี-ไม่มีโมโห


#TV24 31 มีนาคม 2558 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. โพสต์ภาพถ่ายคู่กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุข้อความดังนี้

เจอท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ที่สนามฟุตบอลเลยถือโอกาสเอาหนังสือ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย" และ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์" มาให้เซ็น หนังสือเขาดีจริงๆ อ่านไปเห็นรูปยิ้มไป ไม่มีหงุดหงิด ไม่มีโมโห เหมาะสำหรับอ่านหัวค่ำวันศุกร์ ช่วงที่หลายคนปิดทีวี วางขายที่บูธมติชนงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติและร้านหนังสือทั่วไปครับ


วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

เพื่อไทย-มติชน-สื่อไทย ฟาดแข้งกระชับมิตร "ยิ่งลักษณ์" อดีตนายกฯ ส่งใจเชียร์ติดขอบสนาม


#TV24 30 มีนาคม 2558 - นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มาร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมรวมดาราเพื่อไทย ทีมมติชนกรุ๊ป นำโดยนายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และทีมรวมสื่อมวลชน(ผู้สื่อข่าวสายกีฬา) หรือ ThaiPress ณ เอสซีจี สเตเดียม ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลของ สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดโดยมีอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรค และแกนนำ นปช. อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ เป็นต้น

ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เซ็นชื่อลงหนังสือ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์" และ สมุดภาพ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย” ให้กับประชาชนที่มาร่วมชมการแข่งขันดังกล่าวด้วยท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก


























สุดประทับใจ! มาดูเหล่าเซเลบการเมืองระดับประเทศ โพสต์ภาพหนังสือ "ยิ่งลักษณ์"


#TV24 30 มีนาคม 2558 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีการเปิดตัวและวางจำหน่ายหนังสือของอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้ง 2 เล่ม คือ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย" กับ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์ (เรียบเรียง : บุญฤทธิ์ จตุวไลพร) ในเวลาต่อมา ได้เกิดเป็นกระแสทางโซเชียลมีเดีย โดยมีการโพสต์ภาพถ่ายตนเองคู่กับหนังสือของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความแสดงความประทับใจผ่านช่องทางเฟซบุ๊ค 

ทั้งนี้มีบุคคลสำคัญมากมายออกมาแสดงความประทับใจ อาทิเช่น นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี , เดียร์-ขัตติยา สวัสดิผลอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย, “แซนด์-ชยิกา วงศ์นภาจันทร์” และ “เก๋ ธีรัตถ์ รัตนเสวี 








วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

"ม.44" หนักกว่าอัยการศึก! อนุสรณ์ ชี้ หนีเสือปะจระเข้ สั่งยิงเป้าได้ทันที


#TV24 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคสช. จะพิจารณายกเลิกการใช้กฎอัยการศึกและเตรียมใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวแทนว่า การตัดสินใจประเด็นนี้ต้องระมัดระวัง และควรสื่อสารให้ทุกฝ่ายเข้าใจ เห็นถึงความจำเป็น มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่ามีความพยายามจะตบตาต่างชาติ เพราะเห็นว่ากฎอัยการศึกไปต่อไม่ได้ ทั้งที่ฝ่ายผู้มีอำนาจพยายามกัดฟันบอกตลอดว่า ไม่กระทบความเชื่อมั่นต่างประเทศ การใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวแทน อาจส่งผลกระทบหนักกว่าเดิม เพราะเป็นการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.แบบครอบจักรวาล ไม่มีบทบัญญัติตายตัว สามารถขยายอำนาจได้ตลอดเวลา ไม่มีขีดจำกัด อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เหมือนมาตรา 17 ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งมีลักษณะเป็นคำพิพากษา สามารถสั่งยิงเป้าได้ทันที การตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นการหนีเสือปะจระเข้ ที่จะส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่าเดิม ดังนั้นหนทางเดียวที่ดีที่สุดคือการเดินหน้าเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อนำประเทศกลับสู่ครรลองประชาธิปไตย จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน เหล้าเก่าในขวดใหม่ ควรใช้แค่พ.ร.บ.มั่นคง

สงกรานต์‘58 ข้อห้ามเพียบ! มติคณะรัฐมนตรี คุมเข้ม ห้ามรถกระบะขนถังน้ำ ให้แต่งตัวเรียบร้อย งดสุรา ห้ามเล่นแป้ง, สาดน้ำแข็ง งดเต้นรำที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย


#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 27 มีนาคม 2558) ตอนหนึ่งว่า อีกไม่นานคนไทยจะได้ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันปีใหม่ของไทย วันสงกรานต์ และยังเป็นวันครอบครัวอีกด้วย ซึ่งหยุดหลายวัน อยากขอให้ทุกคนใช้วันหยุดในช่วงเทศกาลนี้เดินทางกลับบ้าน อยู่พร้อมหน้าครอบครัว พากันไปกราบไหว้รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่และผู้มีพระคุณ สอนให้เยาวชนรู้ถึงขนบธรรมเนียมที่ถูกต้อง

นายกฯ กล่าวว่า การเล่นสาดน้ำถือเป็นธรรมเนียมของวันสงกรานต์ แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง อย่าทำให้คนอื่นต้องเจ็บตัวหรือเดือดร้อน เมาสุรา ใช้แป้งอะไรต่างๆ ที่ดูไม่ดี ไม่สุภาพ ไม่ใช่วัฒนธรรมไทย ต่างชาติเขามาสนุกจริง แต่ภาพออกมาไม่งดงาม นำไปป้าย เขาไม่ได้อยากเล่นด้วย บางคนเขาเล่นด้วยก็ว่าไป แต่งตัวไม่สุภาพ แต่งตัวไม่งดงามเหล่านี้ อย่าให้เห็น ตนคิดว่าจะต้องดูแลกันให้เต็มที่ ไม่อย่างนั้นประเทศไทยไปอย่างไรไม่รู้ ความเป็นไทยอยู่ได้ เป็นสิ่งหนึ่งที่คนโบราณเขาทำไว้ให้เรา

ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. ที่สวนสนประดิพัทธ์ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอแนวทางการปฏิบัติในการ เล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ตามวิถีไทยซึ่งเป็นเรื่องที่ครม.มอบหมายให้ไป รณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติใเล่นน้ำสงกรานต์อย่างมี วัฒนธรรมสอดคล้องวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมภาพลักษณ์ตามวิถีไทย

มีหลักสำคัญดังนี้ การแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อผ้าที่ล่อแหลม และรณรงค์ให้ใส่ผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง เสื้อลายดอก ห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจุดที่จัดงานสงกรานต์ ห้ามเล่นน้ำที่มีสิ่งเจือปน แป้ง โฟม น้ำแข็ง การห้ามใช้ปืนฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง หรืออุปกรณ์เล่นน้ำที่อาจเกิดอันตราย รณรงค์ให้ใช้ขันน้ำตามประเพณีวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม การห้ามขับรถกระบะบรรทุกน้ำไปในที่ชุมชน หรือบริเวณจัดงาน การแสดงภาพลักษณ์ที่เหมาะสมในการเล่นน้ำสงกรานต์โดยรณรงค์ไม่ให้มีการแสดง หรือการเต้นที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทยหากมีการจัดกิจกรรมอื่นๆเพื่อรณรงค์ ประเพณีสงกรานต์ก็ขอให้จัดกิจจกรรมที่สอดคล้องและส่งเสริมประเพณีไทย และขอให้มีการกำหนดเวลาการเล่นน้ำที่ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหาการจราจรและการ เกิดอาชญากรรมในยามวิกาล โดยครม.มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไปรณรงค์ขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์วิธีปฏิบัติในการเล่นน้ำสงกรานต์ตามวิถี ไทยต่อไป

เช็งเม้งอ่วม! น้ำท่วมสุสานกวางตุ้ง เผยฝนหนัก 100ปีไม่เคยเจอ จี้ผู้ว่าฯกทม.ตื่น


#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก ที่เดินทางมากราบไหว้บรรพบุรุษ เทศกาล เช็งเม้ง สุสานกวางตุ้ง (สมาคมกว๋องสิว) ย่านสาธุประดิษฐ์ กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักถล่มหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ทำให้กรุงเทพมหานครระบายน้ำไม่ทัน

ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ ระบุว่า "100 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน" ขณะที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจำนวนมากต่างแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมจี้ ผู้ว่าฯกรุงเทพฯ ให้เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน