วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562

แม่กำปอง : การเดินทางครั้งล่าสุดของ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" สู่การรณรงค์เพื่อผืนป่า

กองบรรณาธิการ Social Media #TV24 ขอนำเสนอเรื่องเล่าการเดินทางครั้งล่าสุด ของ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ณ หมู่บ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ในการรณรงค์ให้ชาวบ้านเข้าใจถึงความสำคัญของผืนป่าว่าหมู่บ้านแม่กำปองอยู่ได้ก็ด้วยมีความอุดมสมบูรณ์ของป่า 


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เดินทางไปยังหมู่บ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านต้นแบบในการแก้ไขปัญหาเผาป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกทำไร่เลื่อนลอย บ้านแม่กำปองเป็นพื้นที่ตั้งอยู่กลางขุนเขา มีทรัพยากรป่าไม้และน้ำที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่เนื่องจากวิถีชุมชนการทำไร่เลื่อนลอย ที่จะต้องเผาป่าเพื่อหาพื้นที่เพาะปลูกจนทำให้พื้นดินที่ถูกเผาเสียความอุดมสมบูรณ์และต้องเผาป่าย้ายที่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งชาวบ้านได้ตระหนักถึงผลเสียจากการเผาป่าและทำไร่เลื่อนลอย จึงหันมาปลูกกาแฟ ใบชา และเก็บใบเมี่ยงชา พร้อมกับรณรงค์ให้ชาวบ้านเข้าใจถึงความสำคัญของผืนป่าว่าหมู่บ้านแม่กำปองอยู่ได้ก็ด้วยมีความอุดมสมบูรณ์ของป่า น้ำที่ใช้ดื่มกินก็มาจากผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ จึงทำให้ชาวบ้านตระหนักและช่วยกันดูแลหมู่บ้านอย่างจริงจัง


นายประดิษฐ์ ถมมา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านแม่กำปอง เล่าให้ นายชัชชาติ ฟังว่า ”สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย ชาวบ้านจะทำไร่เลื่อนลอยเป็นหลัก เป็นวิธีเกษตรที่จะต้องเผาป่าเพื่อเอาพื้นที่มาเพาะปลูก แต่จนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ชาวบ้านเริ่มตระหนักถึงผลเสียในเรื่องการเผาป่า จึงเลิกเผาป่าและหันมาทำอาชีพเก็บใบเมี่ยง ใบชา และปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิกาเป็นอาชีพหลัก”


นอกจากนี้ ชุมชนแม่กำปองยังนำเรื่องการท่องเที่ยวโดยชุมชนมาใช้ขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับการทำงานอนุรักษ์อย่างได้ผลจริง โดยพบว่า การท่องเที่ยววิถีชุมชนของหมู่บ้านแม่กำปอง สร้างรายได้ ลดหนี้สินให้กับสมาชิกในหมู่บ้าน จนปัจจุบันนี้ หมู่บ้านแม่กำปองเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ มีบ้านพักโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 200 คนต่อวัน มีน้ำตกแม่กำปอง สูง 7 ชั้นเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญ มีโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยโครงการกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มอาชีพโอท็อป เช่นการผลิตหมอนใบชาแม่กำปอง กลุ่มเลี้ยงผึ้งหลวงแม่กำปอง จนได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกด้วย


ทั้งนี้ นายชัชชาติ เห็นว่าโมเดลของหมู่บ้านแม่กำปองสามารถใช้เป็นต้นแบบเพื่อการกำจัดฝุ่นที่เกิดเนื่องจากการเผาไร่และเผาป่าได้ทั้งในเชียงใหม่และภาคเหนือในระยะยาว ซึ่งหัวใจสำคัญคือการเปลี่ยนอาชีพจากการปลูกข้าวโพด มาปลูกพืชทดแทนที่ยั่งยืนและมีตลาดรองรับ เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้เพียงพอและไม่ต้องเผาไร่เพื่อกำจัดซากข้าวโพด นอกจากนี้ชาวบ้านอาจหารายได้จากทางอื่นเช่นการทำ Homestay โดยเน้นการท่องเที่ยวที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ชาวบ้านตื่นตัวร่วมรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเรื่องเผาป่าได้อีกทางหนึ่ง







วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562

"สุดารัตน์" ติง กกต. อ้างบัตรเขย่ง ฟังไม่ขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ถ้ายังจะแก้ตัวด้วยเหตุผลบัตรเขย่ง อีกต่อไป #แม่จะไม่ทนค่ะ

กกต. อ้างว่าคนทนรอคิวไม่ไหว เลยรับบัตรแล้วกลับบ้านไปก่อน มันเป็นไปได้เหรอคะ?

คนต่อคิวแล้วรอไม่ไหวกลับบ้านไปก่อน อันนี้พอเข้าใจได้

แต่ต่อคิวจนเซ็นชื่อ และรับบัตรไปแล้ว ยังจะต้องต่อคิวอะไรอีกคะ? ก็แค่เดินไปกากบาทแล้วหย่อนบัตรลงหีบ เกิดจะรอไม่ไหวอะไรกันตอนนี้

กฎเหล็ก 7ข้อของ กกต. ระบุไว้ในข้อ2.ชัดเจนว่า
“ห้ามมิให้นำบัตรเลือกตั้งออกนอกหน่วย ใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุก ไม่เกิน 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี”

กฏหมายกำหนดแบบนี้แล้ว จนท.ประจำหน่วย ปล่อยให้คนรับบัตร เดินลอยนวลออกจากหน่วยเลือกตั้งได้อย่างไรคะ? กกต.เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อ้างเหตุผลที่ผิดกฎหมายได้ด้วยเหรอคะ?

บางคนอาจไม่ทราบว่า #บัตรเขย่ง นี่คือกลไกที่พวกซื้อเสียงนำมาสู้กับแคมเปญ รับเงินหมากาพรรคอื่น ค่ะ

พวกที่ซื้อเสียง และ พวกที่สั่งลูกน้องให้ไปกาเบอร์นาย เขาใช้วิธีเอาบัตรออกไปนอกหน่วย แบบที่ กกต.เรียกว่าบัตรเขย่งนี่แหละค่ะ เอาบัตรไปกาข้างนอกหน่วย แล้วให้คนที่จะเข้าไปลงคะแนนแอบเอาเข้าไปด้วย พอรับบัตรใหม่มาก็เก็บใส่กระเป๋า หยิบเอาบัตรที่กาไว้แล้วหย่อนใส่หีบแทน

เสร็จแล้วก็วนบัตรใหม่เอามาให้คนข้างนอกกาแล้ววนคนใหม่เข้าไปแบบนี้เรื่อยๆจึงทำให้ #บัตรเขย่ง1ใบออกลูกได้เป็นร้อย ค่ะ

“อย่าให้การกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยของไทย ต้องบอบช้ำไปกว่านี้”

ขอเหตุผลใหม่ที่ดีกว่านี้ได้มั๊ยคะ?

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

"เพื่อไทย-อนาคตใหม่" ติงผลเลือกตั้งผิดปกติ ยื่น กกต. นับคะแนนใหม่


นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทยเขตบางกะปิ-วังทองหลาง พร้อม อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ นางสาวณิชชา บุญลือ เขตบางกะปิ-วังทองหลาง และนายคริส โปตะนันท์ ผู้สมัครเขตพญาไท-ราชเทวี-จตุจักร ยื่นเรื่องต่อ กกต. ขอให้พิจารณาจัดการเลือกตั้งใหม่หลังพบ การจัดเลือกตั้ง ทั้ง2 เขตไม่เป็นไปด้วยความสุจริตโปร่งใส

นายตรีรัตน์ กล่าวว่าจากการส่งผู้สังเกตการณ์นับคะแนนในแต่ละหน่วยของเขตบางกะปิ พบมีปัญหาหลายรูปแบบ มีการนับคะแนนคลาดเคลื่อน มีการนับคะแนนในที่มืด และยังพบมีการซื้อเสียง โดยมีพยานหลักฐานชัดเจน เช่นเดียว นางสาวณิชชา ผู้สมัครเขตเดียวกัน ที่พบว่ามีการนับคะแนนของตัวเองจากที่คะแนนเพิ่มขึ้นกลับลดลงกลางคันกว่า 400 คะแนน จึงขอเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ด้วย

ขณะที่นายคริส โปตะนันท์ ผู้สมัครเขตพญาไท-ราชเทวี-จตุจักร พรรคอนาคตใหม่ การเลือกตั้งเขตราชเทวีไม่เป็นการเลือกโดยตรงและลับ เพราะหน่วยเลือกตั้งที่มีนายทหารชะโงกดูการเลือกตั้งของนายทหารชั้นประทวน ตามที่มีการนำเสนอข่าว อีกทั้งในการขานคะแนนของพรรค ก็นับเป็นบัตรเสีย รวมถึงพบความผิดปกติ ที่มี 5 หน่วยเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาใช้สิทธิครบทุกคน ทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้

นอกจากนี้ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย จังหวัดสมุทรปราการ ทั้ง 8 เขต มายื่นให้ กกต.นับคะแนนใหม่ทั้งจังหวัดด้วย เนื่องจากพบความผิดปกติเกิดขึ้น และผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยแพ้ยกจังหวัด

"ภูมิธรรม" ติงเลือกตั้งต่อท่ออำนาจ ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

“ราคาที่ต้องจ่าย เพื่อการต่อท่ออำนาจ ของใครบางคน…แพงเหลือเกิน”

ภายหลังจากการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีปรากฎการณ์ที่ผิดปกติหลายอย่างเกิดขึ้น โดยเฉพาะผลคะแนนการเลือกตั้ง ที่แปรเปลี่ยน สับสน จนหาข้อสรุปไม่ได้ ทั้งที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาสามารถจัดการผลคะแนนได้ภายในเวลาเพียง 3-4 ชั่วโมงหลังปิดหีบคะแนน
ก็ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการแล้ว

ผมอยากตั้งคำถามว่าการออกแบบกลไกการเลือกตั้งวันนี้
กำลังสร้างผลกระทบอะไรกับประเทศ…ทำไมสังคมไทยเราต้องยอมจ่ายต้นทุนราคาแพงมากมายขนาดนี้ เพื่อแลกกับการต่อท่ออำนาจให้บุคคลคนหนึ่งได้นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ประชาชนไทยเราจะได้อะไรจากการลงทุนขนาดนี้หรือ?

ตั้งแต่การตีความแบบมหัศจรรย์กับนิยามคำว่า “เจ้าหน้าที่รัฐ” ที่คนใกล้ชิดต่างให้ความหมายปกป้องกันไปมา และสลับกันใช้ตำแหน่งในรัฐบาลไปทำกิจกรรมที่เกื้อหนุนประโยชน์กลุ่มตน

การจัดการเลือกตั้งที่ เสมือน "ไร้การจัดการ" บิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนอย่างมโหฬารของ กกต.จนผู้คนหลายแสนคนพร้อมใจกันตั้งคำถามต่อ ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของ กกต. ครั้งนี้

การใช้ "กลไกรัฐ" เข้าคุกคามนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามในหลายพื้นที่รวมถึงการสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนเพื่อยุติความสนับสนุนพรรคการเมืองที่เขาไว้วางใจ

ยังไม่นับรวมข้อมูลที่ว่อนในโซเชียล มีเดีย ถึงการใช้เงินจำนวนมากก่อนวันเลือกตั้ง แม้ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ แต่ข้อมูลที่บอกเล่ากันมาก็ส่งสัญญาณความไม่ปกติให้สังคมรับรู้

สิ่งที่ "ผู้คุมอำนาจ" ใช้อำนาจกระทำการทั้งหมดในเวลานี้ เป็นการส่งผลกระทบด้านลบอย่างยิ่งต่อศักดิ์ศรีของประเทศ หลังจากการเลือกตั้งส่งผลให้ "ต่างชาติ" ขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน ดัชนีตลาดหุ้นตก นานาประเทศกล่าวถึงการเลือกตั้งว่าส่อแสดงถึงความไม่ปกติและเรียกร้องให้มีการจัดการอย่างโปร่งใสเป็นธรรม แม้จะแสดงออกว่าไทยมีการจัดการเลือกตั้ง แต่ผลที่ออกมาก็ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน อันรวมถึงรัฐบาลจากประเทศต่างๆที่แสดงความห่วงใยและส่งข้อเรียกร้องมายัง กกต.

การกระทำใดๆ ที่ผู้มีอำนาจทั้งหลายได้ดำเนินการในวันนี้ กำลังเป็นการนำเอาต้นทุนความน่าเชื่อถือของประเทศและความมั่นคงของประชาชน ไปแลกกับการยึดพื้นที่เพื่อต่อท่ออำนาจ เป็นการเลือกตั้งที่จ่าย "ราคาแพง" ไม่ใช่เพียงงบประมาณแผ่นดินเท่านั้น แต่หมายถึงการสูญเสียเวลาและโอกาสที่ประชาชนจะสร้างทางเลือกใหม่ให้แก่อนาคตตนเอง

การเลือกตั้งปี 2562……จึงเป็นความทรงจำในหน้าประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ ซ้ำรอยเฉกเช่นเดียวกับ การเลือกตั้งในปี 2500 ที่ถูกบันทึกไว้ว่า เป็นการเลือกตั้งที่สกปรกที่สุดครั้งหนึ่งของการเมืองไทย

ภูมิธรรม เวชยชัย.
เลขาธิการ พรรคเพื่อไทย
29 มี.ค. 62

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562

"ทนายชุมสาย" เตือน คสช. อย่าจุ้น-ฝ่ายประชาธิปไตยจับมือกันตั้งรัฐบาล


นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การที่ 6 พรรคการเมืองนำโดยพรรคเพื่อไทยได้ร่วมแถลงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลนั้นมาจากการที่พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่ง ส.ส.จำนวนมากที่สุดจึงมีสิทธิเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตามธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติกันมา และถือเป็นความชอบธรรมตามครรลองในระบอบประชาธิปไตย โดยพรรคที่มีจุดยืนประชาธิปไตยและต่อต้านการสืบทอดอำนาจของเผด็จการสามารถกระทำได้ เนื่องจากมีเสียงมากพอ จึงขอเตือนกลับไปยัง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.ว่า อย่าข่มขู่ฝ่ายการเมืองและใช้อำนาจจนเกินไป เพราะ 6 พรรคการเมืองไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่ได้สร้างความแตกแยกหรือแฝงการปลุกระดมแต่อย่างใด

นายชุมสายกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความผิดปกติอย่างมากในหลายๆเขตพื้นที่ มีความเคลือบแคลงสงสัยในผลการนับคะแนน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ และมีบัตรเกิน บัตรผี บัตรเสียมากผิดปกติ ประชาชนชาวไทย สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างชาติ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศต่างรับรู้กันทั่วไป และมีผู้ลงชื่อถอดถอน กกต.เกือบล้านคนในโซเชี่ยล จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งนี้ ดังนั้ หากประชาชนจะรวมตัวกันกระทำการใดๆตามสิทธิและอำนาจของเขา ย่อมเป็นสิทธิโดยชอบธรรม

ถ้าคนเชื่อถือผลการเลือกตั้งจะออกมาเข้าชื่อถอดถอน กกต. เกือบล้านคนทำไม? ความน่าเชื่อของ คสช.อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่ว่าใครจะมาทำลาย ที่ผ่านมาเกือบ 5 ปีอะไรคือความน่าเชื่อถือของ คสช. เอะอะอะไรก็อ้างความแตกแยกของคนในสังคม อยากบอกว่าวันนี้คนไทยเข้าใจกันมากขึ้นและเขาต้องการกำหนดอนาคตของเขาผ่านการเลือกตั้งที่สุจริต ไม่ต้องการอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการสืบทอดอำนาจ

อย่างไรก็ดีในส่วนความผิดปกติของการนับคะแนน และปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นทางผู้สมัครของพรรคที่มีหลักฐานว่ามีการทุจริตเลือกตั้งจะได้รวบรวมพยานหลักฐานร้องเรียนไปยัง กกต.ต่อไป และขอให้ กกต.พิจารณาด้วยความเป็นธรรม นายชุมสาย กล่าวทิ้งท้าย

"ชัชชาติ" ลงพื้นที่ตรวจวิกฤตฝุ่นพิษเชียงใหม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาตรวจสอบปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเดินทางมาตรวจวัดค่าฝุ่นที่อำเภอเชียงดาว ค่าที่ตรวจวัดได้เป็นสีแดง คือมีผลกระทบต่อสุขภาพ และมีค่าสูงถึง 192 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่พบว่าต้นเหตุของปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 มาจากไฟป่า จากนั้น ได้เดินทางไปที่ดอยหลวงเชียงดาว เพื่อตรวจสอบปัญหาไฟป่า ก่อนจะเดินทางกลับมาประชุมหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหากับผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ โรงแรม สเต วิท นิมมาน













"สุดารัตน์" ถาม กกต. บัตรเพิ่ม 4 ล้านใบ แบบนี้ก็ได้หรือคะ?


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

หลังปิดหีบลงคะแนน 24 มี.ค. 21.30น. กกต.แถลงผลการลงคะแนนว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์ 65.96% รวมจำนวน 33,775,230 คน

28 มี.ค. 14.50น. กกต.แถลงอีกครั้ง ผู้มาใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็น 74.69% จำนวนเพิ่มเป็น 38,268,375 คน

4วันมี #บัตรเกิดใหม่ในหีบ
4,493,145 ใบ
#แบบนี้ก็ได้เหรอคะ
#ThailandOnly

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562

"สุดารัตน์" แฉแผนย้ายค่ายเบอร์เดิม เสนอผลประโยชน์ฝ่ายประชาธิปไตย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

“ศรัทธา คือการที่คุณเริ่มก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่เห็นบันไดทุกขั้นก็ตาม”
(Martin Luther King)

วันนี้พรรคการเมือง ฝั่งประชาธิปไตยซึ่งรวมเสียง ส.ส.ได้เกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ ได้ร่วมกันลงสัตยาบัน ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจคสช.

อันถือเป็น “บันไดขั้นแรก” หลังจากมีการเลือกตั้ง ในการที่จะดำรงค์ไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“บันไดขั้นต่อไป” พวกเราขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง ที่ได้พูดยืนยันกับพี่น้องประชาชน ก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็น

1. การยืนยันไม่สนับสนุนอดีตผู้นำการรัฐประหาร ที่คิดจะสืบทอดอำนาจ หรือ

2. การประกาศว่าจะไม่ร่วมกับพรรคการเมืองที่รวบรวมเสียง ส.ส.ได้น้อย จนอาจทำให้สภาไม่มีเสถียรภาพ

บัดนี้การเลือกตั้งได้เสร็จสิ้นแล้ว ขอท่านได้โปรดออกมายืนยันต่อสาธารณะชนอีกครั้งหนึ่ง ในฐานะที่ท่านเป็น “หัวหน้าพรรค” หรือ “แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรค” ได้ให้สัจจะกับพี่น้องประชาชนเอาไว้ ก่อนวันลงคะแนนเสียง

และเพื่อเป็นการสับคัตเอ้าท์ ตัดวงจรการสืบทอดอำนาจ พวกเราขอเรียกร้องไปยังพรรคการเมืองที่ประกาศตัวเป็นกลาง ได้แสดงตัวออกมายืนอยู่ข้างเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ถึงแม้รัฐธรรมนูญนี้จะไม่ได้ออกแบบมา ให้เสียงของประชาชนมีผลในการเลือกนายกทั้งหมด เพราะมีเสียง สว.ที่แต่งตั้งจาก คสช.อีก 250คน มาร่วมเลือกนายกด้วย

พวกเรารู้ดีว่าหนทางอีกยาวไกล บันไดยังมีอีกหลายขั้น แต่ถ้าพวกเราไม่กล้าที่จะตบเท้าออกมายืนข้างหน้า แล้วก้าวต่อๆไป เราจะเป็นที่พึ่งหวังให้กับประชาชนได้อย่างไร

ขอบคุณทุกพรรคการเมือง ที่มาร่วมกันรักษาระบอบประชาธิปไตย ขอบคุณทุกกำลังใจ จากพี่น้องประชาชน เราจะไม่ทำให้ทุกท่านต้องผิดหวังค่ะ

แม้รู้ว่าจะต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการจากนี้ไป ทั้งการแจกใบเหลืองใบแดง เพื่อลดทอนกำลังฝ่ายประชาธิปไตย

โดยเฉพาะขณะนี้ก็เริ่มมีการชักชวน และเสนอผลประโยชน์แก่ว่าที่ ส.ส. ของพรรคฝั่งประชาธิปไตย
ให้ไปสนับสนุนฝั่งสืบทอดอำนาจ

เป็นปฎิบัติการ #ย้ายค่ายเบอร์เดิม ที่กำลังเกิดขึ้น ตามความพยายามของผู้ต้องการสืบทอดอำนาจ

พวกเราขอให้คำมั่นว่า เราจะพยายามทำภารกิจ ที่พี่น้องประชาชนทุกท่าน ได้ฝากความหวังไว้กับพวกเราให้สำเร็จให้ได้ค่ะ

"พานทองแท้" แนะรัฐเปิดเผยผลการเลือกตั้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

เรียกร้องให้ลุงตู่ใช้ ม.44 

สั่งการให้ กกต. นำคะแนนเลือกตั้งทั้งหมด มาเปิดเผยต่อสาธารณชนโดยด่วน ประชาชนจะได้หายอึดอัดกันเสียที

ยุค Analog เลือกวันเดียวเขาก็รู้ผลกัน100%ทุกเขตแล้ว ยุคลุงตู่ 4.0 ปาไปจะ 4วัน กกต.ยังทำเป็นงงๆ

แล้วประชาชนตาดำๆ จะเชื่อมั่นในผลการเลือกตั้งได้ยังไงครับ

"ดร.ทักษิณ" ยินดี ฝ่ายประชาธิปไตยรวมเสียงข้างมากได้


ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

วันนี้รู้สึกดีใจกับประเทศไทย ที่ฝ่ายประชาธิปไตยรวบรวมเสียงได้ เกินครึ่งหนึ่งของที่นั่งในสภา

ผมออกมาอยู่นอกประเทศกว่า 10ปีแล้ว ขอทุกฝ่ายอย่าได้ใช้ชื่อผมเป็นเงื่อนไขทางการเมืองใดๆอีกเลย

ผมขอเป็นเพียงกองเชียร์ ให้ประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย เพื่อความผาสุขของคนไทยเท่านั้นครับ

เพื่อไทยจับมืออนาคตใหม่ นำทัพฝ่ายประชาธิปไตย 6 พรรคการเมือง แถลงตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก


พรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ประกอบด้วยพรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังปวงชนไทย ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และแถลงการณ์ร่วมการลงสัตยาบันเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.


พรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ประกอบด้วยพรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังปวงชนไทย ร่วมกันแถลงข่าวในวันนี้ (27 มี.ค.) เวลา 10.00น. ณ โรงแรมแลงคาสเตอร์ ชั้น 2 ห้องสยามบอลรูม โดยยืนยันมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และแถลงการณ์ร่วมการลงสัตยาบันเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆ อีก 6 พรรคมีจุดยืนที่จะหยุดยั้ง คสช. และยืนยันเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชน แม้ผลการเลือกตั้งยังไม่นิ่ง แต่คาดว่าเสียงของพรรคฝั่งประชาธิปไตยได้ตัว ส.ส. มากกว่า 255 เสียง และถือว่าได้ฉันทานุมัติจากประชาชนให้จัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะเดินตามกติกา และทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ แม้กติกาต่างๆ จะไม่เป็นธรรมก็ตาม หรือความไม่ปกติในการนับคะแนน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคฝั่งประชาธิปไตยอาจต้องเผชิญกับการลดทอนคะแนน จากการแจกใบเหลืองและใบแดงให้กับผู้สมัคร หรือแม้แต่การ "ย้ายค่ายเบอร์เดิม"  ที่คุณหญิงสุดารัตน์หมายถึงการแปรพักตร์ เพราะโดนอีกฝั่งเสนอสิ่งจูงใจให้ นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวเรียกร้องให้พรรคที่ยังไม่ตัดสินใจว่า ขอให้ตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ
















วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562

"สุดารัตน์" ถาม เข้าเส้นชัยได้ที่2 ขอรับเหรียญทองบนแท่นที่1 ได้หรือคะ?


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

พรรคที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง 350 เขต แต่ได้จำนวน ส.ส.น้อยกว่าพรรคที่ลงสมัครแค่ 250 เขต แล้วออกมาบอกว่าตัวเองได้คะแนนนิยมจากคนทั้งประเทศมากกว่า ควรจะได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ระบอบรัฐสภาไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ

ประเด็นแรก คือกติกาที่บิดเบี้ยว ตั้งใจออกแบบให้นำระบบส.ส.พึงมีมาคิด เพื่อตัดคะแนนพรรคที่คนนิยม และได้จำนวนส.ส.เขตมากที่สุด เพื่อทำให้ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อยที่สุด

นี่คือกับดักอย่างหนึ่งที่จงใจให้เกิดความยากลำบากในการแข่งขัน เพราะ ไม่ต้องการให้พรรคที่มีคะแนนนิยมซึ่งแสดงผ่านจำนวนเขตที่มากเป็นพรรคที่แข็งแรงเกินไป

ประเด็นที่ 2 คือการโหวตในสภา เมื่อคิดจาก ส.ส. 1 คน มีคะแนนโหวตเท่ากัน 1 คะแนน

เสียงข้างมากในสภา จึงมีค่าเท่ากับ ส.ส.ที่โหวตเป็นจำนวนมากกว่าอีกฝ่าย ไม่ใช่การคิดคะแนนจาก ส.ส.คนไหนได้คะแนนเลือกตั้งมาเท่าไหร่แล้วจะกลายเป็นเสียงข้างมากนะคะ

แข่งขันในสนามเดียวกัน ออกแบบกติกาเอาเปรียบคนอื่นมากมายมหาศาล ตั้งแต่จุดสตาร์ทยันเส้นชัย แต่จำนวน ส.ส. ก็ยังแพ้อยู่ดี

เข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 แต่จะขอรับเหรียญทองบนแท่นที่ 1
#แบบนี้ก็ได้เหรอคะ

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2562

“เพื่อไทย” แถลง ประกาศเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แถลงว่า กราบขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยเป็นลำดับที่ 1 ได้ ส.ส.พื้นที่มากที่สุด แม้จะส่งเพียง 250 เขต แต่ก็ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน และให้ความไว้วางใจ ให้เป็นผู้แทนลำดับที่ 1 เราจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาความทุกข์ ความยากจนหมดไป อย่างที่ให้คำมั่น พูดมาตลอดการหาเสียง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า การเดินหน้าจากนี้ไปในฐานะที่ได้รับความไว้วางใจ เราจะเดินหน้ารวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล อย่างที่พูดไว้แล้วว่า พรรคที่ได้ลำดับ 1 ได้ ส.ส.มากที่สุดถือว่าได้รับฉันทานุมัติจัดตั้งรัฐบาล เราก็จะเดินหน้าประสานรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล คนที่เราจะร่วมด้วยหลักการไม่เปลี่ยน คือ เราจะร่วมกับพรรคไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ซึ่งมีพรรคที่ประกาศตัวชัดเจน ส่วนเรื่องของ 250 ส.ว.เรามีความเห็นว่า ส.ว.สมควรทำตามเสียงของประชาชนเช่นเดียวกัน วันนี้เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแม้ไม่เป็นทางการ เราได้เสียง ส.ส.มากที่สุดก็คงต้องเดินหน้าจากนี้รวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล

"ดร.ทักษิณ" ทราบผลเลือกตั้งแล้ว ระบุ เป็นห่วงคนไทย


ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพรักครับ พี่น้องชาวไทยทุกท่านครับ
วันนี้เป็นจันทร์แรกหลังจากที่มีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมคิดว่าหัวข้อที่น่าสำคัญที่จะเอามาพูดกันหลังจากเราลงคะแนนเสียงกันอย่างท่วมท้นแล้วนะครับ คือออกมาใช้สิทธิ์อย่างมากมายเนี่ย ก็ควรจะเป็นเรื่องของความหวังครับ หรือ Hope สิ่งสุดท้ายที่พระเจ้าจะให้กับทุกคนได้ก็คือความหวัง
นั่นคือเป็นคำพูดที่พูดกันมาแต่โบร่ำโบราณ เขาบอกว่า
‘The last gift that god can give you is hope’
นั่นก็คือเราต้องมีความหวัง ถ้าเราไม่มีความหวังเนี่ย ทั้งตัวเรา ครอบครัวเรา และบ้านเมืองก็จะไปยาก เพราะฉะนั้นเราต้องมีความหวังกับวันนี้และวันพรุ่งนี้ อดีตมันเป็นความทรงจำที่เราจะไม่ต้องตกเป็นทาสของมัน อย่าเป็นทาสของอดีต
แต่ว่าอดีตมันเป็นประวัติศาสตร์ที่จะต้องตักเตือนเราสอนเรา แต่ว่าเราต้องอยู่เพื่อวันนี้และวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นถ้ามีวันนี้และวันพรุ่งนี้ที่ดีเนี่ยต้องมีความหวัง ทำไมผมถึงเอาตรงนี้มาพูด เพราะผมคิดว่าตลอดชีวิตผมเนี่ยก่อนจะสร้างตัวมา เป็นนักธุรกิจที่ลำบากมา ผมต้องมีความหวังครับ ถ้าไม่มีความหวังมันไปไม่ได้ ก่อนนอนก็ต้องหลับแล้วพยายามคิดว่าพรุ่งนี้เราจะทำอะไร เมื่อเราหลับตื่นมา เราก็มีความสดชื่น ก็มีความหวัง เพราะฉะนั้นผมอยากจะให้กำลังใจกับพี่น้องคนไทยทุกคนว่าขอให้เราอยู่อย่างมีความหวังนะครับ
ผมยกตัวอย่าง เอาเป็นหลายประเทศก็แล้วกันว่า อย่างประเทศที่อยู่ใจกลางทะเลทรายอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ผมไปอาศัยอยู่ในเมืองดูไบนั้นเนี่ย ผมเคยพูดหลายครั้งว่าเขาไม่มีแม่น้ำสักสายเขาไม่มีน้ำ ไม่มีฝน ฝนตกน้อยมาก เมื่อก่อนนี้ตอนผมไปอยู่เนี่ยแทบจะตกประมาณสักปีนึงไม่เกิน 2-3 หน แต่เดี๋ยวนี้ตกมากขึ้น ก็เพราะว่าเขามีความหวังว่าสักวันประเทศเขาจะพ้นจากความเป็นทะเลทราย เขาก็ปลูกต้นไม้ครับ ปลูกต้นไม้ใหญ่เลย และน้ำไม่มีเขาก็ใช้วิธีการที่เรียกว่า Desalinate คือเอาน้ำทะเลมากลั่นเป็นน้ำจืด กลั่นเสร็จเอามาใช้เป็นน้ำบริโภค น้ำใช้ เสร็จแล้วก็พอน้ำทิ้งก็เอาไหลลงท่อ ลงคลอง แล้วเอามาบำบัดเพื่อลดน้ำต้นไม้ แล้วก็ปลูกต้นไม้
หน้าอากาศดีๆ เนี่ยนะครับเขามีต้นไม้ มีดอกไม้สวยกว่าบ้านเราอีก ทั้งๆ ที่บ้านเราเป็นบ้านที่มีต้นไม้ แต่เราไม่ค่อยได้ใช้ เราไม่ค่อยได้เก็บรักษาต้นไม้ไว้ และไม่ได้ปลูกเพิ่ม ทำให้เขาก็เริ่มมีฝน ในอนาคตข้างหน้าผมบอกได้เลยว่า จำไว้เลยนะครับว่าถ้าผมไม่ตายซะก่อนเนี่ย ก็จะได้เห็นแน่นอน
อย่างดูไบเองเนี่ยเขาอาจจะปลูกพืชเกษตร ซื้อมาใช้เอง พอใช้เองไม่ต้องนำเข้าก็ได้ นั่นคือเทคโนโลยีมันล้ำหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งเรื่องของการปลูกใน Green House หรือการปลูกโดยการใช้สารใส่ทรายเพื่อไม่ให้มันดูดซึม น้ำมันซึมลงไปในทราย จะสามารถรดน้ำต้นไม้ เลี้ยงต้นไม้ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นแน่นอนถ้าหากว่าเรายังมีความหวังและมีความพยายามที่จะเอาชนะมัน
เอาแค่อย่างประเทศเอธิโอเปียก็ดี เคนย่าก็ดี กาน่าก็ดีเนี่ย เขาเป็นประเทศกลุ่มยากจนที่มีอุตสาหกรรมการเกษตรเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ รายได้ครัวเรือนก็ยังต่ำ แต่ทั้ง 3 ประเทศนั้นพยายามดึงดูดนักลงทุนเข้าไปลงทุนมากขึ้น พวกเขาก็มีโปรแกรมสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ขึ้นมา และก็พยายามให้คนเหล่านี้หัดทำธุรกิจด้านการเกษตร และก็อาศัยเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา ก็เป็นความพยายามที่จะต้องต่อสู้เพื่อให้พ้นความยากจน
ประเทศที่น่าสนใจที่สุดคือประเทศเอสโตเนีย เป็นประเทศสร้างใหม่ จากเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตเป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษประชาชนมีฐานะยากจน โทรศัพท์ยังไม่มีใช้ และก็ทรัพยากรก็ไม่มีนะครับ แต่เขาเปลี่ยนประเทศตัวเองจากประเทศเล็กๆ มาเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง เป็นประเทศที่มีรายได้สูงขึ้นมา เพราะเขาเน้นไปที่สังคม Digital เขาใช้อินเตอร์เน็ตในยุคอินเตอร์เน็ตเมื่อไม่นานนี้เองนะครับ เมื่อปี 1995 เป็นต้นมา เขาโดดเกาะกระแสอินเตอร์เน็ตทันที เขาให้สิทธิพื้นฐานของชาวบ้านในการใช้อินเตอร์เน็ต ใช้ออนไลน์ทั้งหมดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายภาษี เป็นการจดทะเบียนบริษัท เป็นการขอใบอนุญาตต่างๆ ทุกอย่างออนไลน์หมดนะครับ คือจนคนเรียกว่าเป็น Silicon Valley แห่งยุโรป พลิกฟื้นเศรษฐกิจจากที่ยากจนมาเป็นประเทศร่ำรวยภายในไม่กี่สิบปีเองนะครับ ประมาณ20 ปี นั่นคือความที่ไม่รู้จักคำว่าสิ้นหวัง
แต่ว่าอาการไม่สิ้นหวังเนี่ย ต้องดิ้นรนศึกษาว่าอะไรจะดีที่สุดสำหรับชีวิตเรา อะไรที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวเรา อะไรจะดีที่สุดสำหรับประเทศเรานั่นคือสิ่งที่ประเทศที่สำเร็จเขาทำ เอาใกล้ตัวเราที่สุดก็คือสิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นเกาะเล็กๆ ตอนแยกตัวออกมาจากมาเลเซียประมาณปี 1965 นะครับ ตอนนั้นเนี่ยผมอายุ 14-15 ผมก็ไปเที่ยวที่โน่น เป็นนักศึกษาทัศนาจร นั่งรถออกจากเชียงใหม่มาสิงคโปร์แวะมาเรื่อยๆ 6-7 วันกว่าจะถึง ตอนนั้นนะครับ รถไม่มีแอร์ สมัยก่อนก็มาทัศนศึกษาตามโรงเรียน ตอนนั้นสิงคโปร์ยังมีแต่หมู่บ้านชาวประมง ผมไปพักที่วัดอนันทเมตยาราม ตอนช่วงนั้นส้วมเป็นส้วมถังเท ผมว่าคนรุ่นใหม่ปัจจุบันไม่เข้าใจหรอก ส้วมถังเท ก็ไปนั่งยองๆ ถ่ายลงไปในถัง แล้วเขาก็เอาถังไปเททุกวันนั่นแหละ
ตอนนั้นสิงคโปร์ยังเป็นอย่างนั้น แต่วันนี้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดในโลก แล้วก็บางช่วงเขาเนี่ยถูกตัดขาดเรื่องน้ำ เพราะต้องอาศัยน้ำจากมาเลเซีย เขาก็ดิ้นรนด้วยการที่จะเอาน้ำทะเลมาทำน้ำจืด เขาก็ขายต่อพวกชาวเรือทั้งหลายที่มาพัก ก็ขายแพงหน่อย ชาวบ้านก็ใช้น้ำไม่แพงนัก
ก็เป็นความพยายามที่อยากจะบอกว่า ทุกประเทศหรือทุกครอบครัวหรือทุกคน ตราบใดที่มีความหวังและใฝ่รู้ใฝ่เรียนที่จะหาสิ่งใหม่ๆ เป็นแนวทางใหม่ๆ มาแก้ไขกับชีวิตเราเนี่ย เราประสบความสำเร็จแน่นะครับ อย่ายอมแพ้ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ เรายอมแพ้ไม่ได้ แม้กระทั่งอย่างที่ท่านลีกวนยูเคยพูดไว้ว่า แม้กระทั่งอยู่ใน dying bed นะครับก็อย่ายอมแพ้
ก็เด็กเยาวชนหลายคนที่พยายามที่จะใฝ่รู้ใฝ่เรียนและความสนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ ก็ยกตัวอย่าง อย่าง…เกรตา ธันเบิร์ก​ นี่ก็เป็นเด็กที่ไปกล่าวปิดรายการประชุมตอนโลกร้อนของสหประชาชาติ ด้วยวัยเพียง 15 ปีนะครับ แล้วก็ตอนนี้คือเขาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ กำลังจะถูกเสนอชื่อรับรางวัล Nobel Prize เป็นคนสวีเดน ให้ความสนใจกับเรื่องโลกร้อนมาก
ส่วนอีกคนนึง เด็กไทยเรานี่แหละครับ ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน เขาเป็นบล็อกเกอร์ เป็นคนที่สนใจเรื่องของอวกาศ การค้นคว้าด้านอวกาศทั้งหลาย เค้าได้รับรางวัลเป็น Best New Blog จากงาน Thailand Best Blog Awards โดยที่กลุ่มซีพีออลล์เป็นคนจัดขึ้นมา เห็นไหมครับว่า ทุกคนถ้าเอาดี สนใจจริงจังเนี่ย มีโอกาสเกิด มีโอกาสสำเร็จ มีโอกาสดังทุกคนนะครับ
ผมก็อยากจะให้ความหวังกับทุกคน ไม่รู้ว่าผลจะเป็นยังไงแต่เราต้องมีความหวัง มีความหวังกับตัวเอง มีความหวังกับครอบครัว มีความหวังกับบริษัทตัวเอง มีความหวังกับประเทศ และช่วยกันทำให้ดี เอาให้ชนะสิ่งที่มันเป็นอุปสรรคทั้งหลาย ด้วยสติปัญญา ด้วยกติกานะครับ อย่าไปทำอะไรที่มันไม่ถูกต้อง แล้วเราก็จะประสบความสำเร็จเอง ก็ให้ความหวัง ให้กำลังใจครับเพื่อให้ทุกอย่างได้เข้าไปสู่ภาวะปกติสักที ผมเป็นห่วงประเทศไทย และห่วงคนไทยทุกคนครับ ให้กำลังใจทุกคนครับ วันนี้เอาสั้นๆ แค่นี้นะครับ แล้วพบกันใหม่จันทร์หน้าครับขอบคุณครับ สวัสดีครับ