วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

“ทักษิณ” สวัสดีปีใหม่ 2562 เผยตัวอยู่ไกลใจอยู่ไทย-เปิดเว็บ ThaksinOfficial.com


ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


สวัสดีปีใหม่ 2562 แด่พี่น้องไทยทุกท่านครับ

วันนี้ผมขอมาสวัสดีปีใหม่กับพี่น้องคนไทยเหมือนทุกปีที่ตัวอยู่ไกลแต่ใจอยู่ไทย ปีนี้เป็นปีที่อวยพรด้วยความดีใจที่ประเทศเราจะกลับคืนสู่สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ถึงแม้จะต้องมาเริ่ม .ไก่ กันใหม่ แต่ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี แต่ก็อดห่วงไม่ได้เพราะว่ามีผู้รู้ทางเศรษฐกิจระดับโลกหลายคนได้แสดงความวิตกว่าครึ่งปีหลังของปี 2562 และต่อปี 2563 เศรษฐกิจโลกจะมีปัญหาอีกรอบ เศรษฐกิจของเรายิ่งอ่อนแออยู่ มาเจอแรงกระแทกใหม่จะทำอย่างไร

ผมอยากฝากแนะนำสำหรับปีนี้เอาไว้ว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลกและเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคไปอย่างมาก ถ้าท่านทำธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่คงต้องปรับตัวอย่างแรง อย่าได้รังเกียจหรือกลัวเทคโนโลยีเลยครับ ท่านเล่นเฟซบุ๊คเป็น ท่านเล่นไลน์เป็น ท่านเรียนรู้ได้หมดครับ

ทุกวันนี้ E-commerce สร้างโอกาสให้คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถค้าขายได้กับคนทั่วโลก ที่ทั้งสินค้าและเงินกำลังไหลอย่างอิสระมากขึ้นทุกวัน เราต้องรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ครับ แม้แต่ธุรกิจอย่างธนาคารก็จะเหนื่อย เพราะเงินดิจิตอล กำลังมาแรง อีกหน่อยทุกประเทศก็จะมีเงินดิจิตอลมาใช้ควบคู่กับเงินที่เป็นธนบัตรมากขึ้นเรื่อยๆ

เรื่องการทหาร ต่อไปจะใช้กำลังพลน้อยลง อาวุธในปัจจุบันแทบจะโละทั้งหมด แล้วรบกันด้วยเทคโนโลยีเช่น โดรน หุ่นยนต์ และใช้เลเซอร์ ทำให้สามารถนำคนและงบประมาณไปพัฒนาเรื่องการศึกษาและอื่นๆได้อีกมาก

เรื่องการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุหรือ Ageing Society อย่างมีคุณภาพ การรักษาโรคที่อาศัยความรู้ทาง DNA จะมีมากขึ้น รวมทั้งการวัดความแข็งแรงของร่างกายผ่าน Telomere หรือตัวที่อยู่ปลาย Chromosome เพื่อจะบอกว่าท่านกำลังมีสุขภาพถดถอย ต้องปรับวิถีชีวิตอย่างไรถึงจะแข็งแรง การใช้ยาทางเคมีจะลดน้อยลง การใช้วิชาการทางฟิสิกส์มาแทนยาจะมีมากขึ้น และเมื่อคนมีอายุยืนยาวขึ้น ก็จะมีเวลาใช้ชีวิตร่วมกันแสดงพลังเพื่อพัฒนาประเทศเพื่อลูกหลานของเราได้มากขึ้น

สุดท้ายหุ่นยนต์มาแน่ AI Technology จะถูกใช้งานมากขึ้นในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร อุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งมาเสริมนักกฎหมายและวินิจฉัยโรคด้วยแพทย์ แต่สิ่งที่หุ่นยนต์มาแทนไม่ได้คือความคิดสร้างสรรค์ ท่านต้องเตรียมตัวเป็นนายของหุ่นยนต์ ไม่ใช่นั่งรอให้หุ่นยนต์มาไล่ท่านตกงาน ซึ่งถือเป็นหน้าที่เร่งด่วนของคนเป็นรัฐบาล

ขอเป็นกำลังใจในการเรียนรู้และปรับตัวของทุกคนครับ โชคดีปีใหม่ 2562 ครับ สำคัญคือสุขภาพที่ดีและการมีครอบครัวที่รักกันเราจะสู้ได้ทุกเรื่องครับ

ผมรักและปรารถนาดีต่อคนไทยทุกคน

ดร. ทักษิณ ชินวัตร

https://www.thaksinofficial.com/hny2562/

"ทษช." อวยพรปีใหม่ 2562 ชวนคนไทยกล้าเปลี่ยนแปลง


นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2562 กรรมการบริหารพรรคและแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ดร.ฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการสรรหา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายประภัสร์ จงสงวน แกนนำและสมาชิกพรรคอีกจำนวนมากร่วมกันจัดทำคลิปอวยพรปีใหม่ให้กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของพรรคไทยรักษาชาติและเพจส่วนตัวของแต่ละท่าน

ซึ่ง ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า “อยากให้ปี2562 เป็นปีทองของทุกคน อยากให้ร่วมกันแสดงพลังเพื่อกำหนดอนาคตของประเทศ และคิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกไปกับพรรคไทยรักษาชาติ”

ขณะที่นายจาตุรนต์ กล่าวว่า “ ปีใหม่นี้อยากให้ทุกท่านร่วมกันคิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง ร่วมกันพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น”

ดร.ฤภพ ชินวัตร กล่าวว่า “ปีใหม่นี้ ขอให้พ่อแม่พี่น้องทุกท่านมีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง เงินทองไหลมาเทมาเยอะๆ และขอฝากพรรคไทยรักษาชาติกับทุกท่าน เพราะพวกเรา คิดใหม่ ทำใหม่ และกล้าเปลี่ยนแปลง”

นายวรวัจน์ กล่าวว่า “ปีใหม่ 2562 ได้มาถึงแล้ว เป็นปีที่ทุกคนมุ่งหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ คิดมุ่งหวังสิ่งใด ขอให้สมดังใจปรารถนาทุกประการ ”

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า “ขอให้ปี2561 เป็นปีส่งท้ายเผด็จการ ประชาชนต้องไม่สิ้นหวัง การอยู่ดีกินดีจะต้องกลับคืนมา ประชาธิปไตยจะเป็นรากฐานสำคัญในการนำพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้า"

ส่วนนายประภัสร์ กล่าวว่า “ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา โดยอยากเชิญชวนทุกท่านร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติ มาร่วมกันคิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งที่ดีกว่าให้กับอนาคตของประเทศ”

นางสาวชยิกา กล่าวว่า “ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีโอกาสพบเจอแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ ให้ได้ทำในสิ่งที่คิดและสิ่งที่หวัง ร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่าไปด้วยกัน”

โดยนายพงศ์เกษม กล่าวทิ้งท้ายว่า “ปี2562 นี้ นอกจากจะอวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรงแล้ว ยังอยากเชิญชวนคนไทยทุกคนมาร่วมกันคิดสิ่งใหม่ๆ ทำสิ่งใหม่ๆ และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไปด้วยกัน”

"สุดารัตน์" สวัสดีปีใหม่ 2562 ขอให้ชาวไทยมีความสุข


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความและคลิปวีดิโอผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ที่จะมาถึงนี้นะคะ ขอกราบอวยพรให้พี่น้องชาวไทยทุกๆท่านมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ค่ะ

ขอให้มีความสุขมากๆ ขอให้พบแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่ประเสริฐค่ะ

ในปีหน้านี้เราจะได้มีโอกาสร่วมสร้างความหวังและอนาคตที่รุ่งเรืองด้วยตัวเราเอง

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านนะคะ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย


วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2561

“ลดาวัลลิ์” เผย ประชาชนเลือกเพื่อไทยแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นของขวัญปีใหม่


ลดาวัลลิ์ยืนยันพรรคเพื่อไทยพร้อมจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเป็นของขวัญปีใหม่ 2562 ได้ตามความต้องการของประชาชนในนิด้าโพล เตือนอย่าเลื่อนเลือกตั้งขยายความทุกข์ยากของประขาชนอีก
          
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมที่จะทำงานหนักเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้แก่ประชาชนทันทีเมื่อประชาชนให้โอกาส  ซึ่งสอดคล้องกับนิด้าโพลที่ระบุว่าพรรคการเมืองที่จะสามารถให้ของขวัญปีใหม่ 2562 ตามที่ประชาชนต้องการได้ (10 อันดับแรก) พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 27.71 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย
         
นางลดาวัลลิ์กล่าวอีกว่า ตลอดเวลา 4 ปีกว่า ได้ สังเกตุการสำรวจความคิดเห็นประชาชนของทุกสำนัก ก็ได้ข้อมูลตรงกันกับการสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 52.32 อยากให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง รองลงมาร้อยละ 20.69 อยากให้แก้ปัญหาพืชผลการเกษตร และพัฒนาสินค้าทางการเกษตร ร้อยละ 9.66 อยากให้แก้ปัญหาคอร์รัปชัน ร้อยละ 7.27 ระบุอยากให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งความต้องการของประชาชนที่อยากให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทั้งสี่เรื่องดังกล่าวนี้ มีอยู่ในนโยบายของพรรคเพื่อไทยแล้ว และใกล้จะถึงเวลาแถลงให้ประชาชนได้ทราบพร้อมกันทั่วประเทศ
          
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า พรรคเพื่อไทยมีแนวทางชัดเจนที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เพราะเรามีทีมงานนักบริหารมืออาชีพหลายคนล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ และพรรคเพื่อไทยเคยบริหารประเทศจนทำให้เศรษฐกิจดีประชาชนมีกินมีใช้อย่างเป็นรูปธรรมมาแล้ว จึงขอยืนยันว่าเราทำได้จริง ถ้าประชาชนสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย มีเสียงมากพอในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาสังคมก็จะได้รับการแก้ไขทันที  นอกจากนี้ประชาชนต้องลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันทุกคน  และที่สำคัญต้องช่วยกันสอดส่องป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง เพื่อให้นานาประเทศทั่วโลกเชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทยว่ามาจากการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
          
ส่วนที่มีข่าวลือว่าอาจจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 1 เดือนนั้น กระทบความรู้สึกของประชาชนมาก เพราะส่วนใหญ่บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจแย่จะทนไม่ไหวกันแล้ว ต่างก็หวังจะเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ให้มาฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 วันปลดเปลื้องความทุกข์ยากของประชาชน ทุกพรรคก็พร้อมแล้ว อย่าทำให้ประชาชนเสียความรู้สึกและต้องตกอยู่ในภาวะยากลำบากต่อไปอีกเลย
          







ทษช. ดักคอ กกต. เลื่อนเลือกตั้ง เอื้อประโยชน์ผู้มีอำนาจ


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงข่าวการเลื่อนการเลือกตั้ง ของกกต.เนื่องด้วยการพิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทัน ว่าพรรคไทยรักษาชาติขอเรียกร้องความชัดเจนของกกต. ในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.กำลังจะสร้างปัญหาให้การเลือกตั้ง ทั้งที่การเลือกตั้งการพิมพ์บัตร ไม่ใช่เหตุผลที่กล่าวอ้างได้ ถ้าเลื่อนการเลือกตั้งมีเพียงเหตุผลเดียวคือการสร้างความได้เปรียบของพรรคฝ่ายรัฐบาล

นอกจากนี้ยังมีข่าวการเลื่อนรับสมัครสมาชิกพรรคอีกครั้งโดยการใช้ .44 ปลดล็อค 90 วันซึ่งจะสร้างความได้เปรียบอีกครั้ง กับพลังดูดผ่านนโยบายของรัฐบาล ช็อปช่วยพลังประชารัฐหรือไม่  ตลอด 5 ปี การกระทำของรัฐบาลและองค์กรอิสระ เช่น ...แสดงให้เห็นแล้วว่าเอื้อประโยชน์แก่ผู้มีอำนาจเท่านั้น และกกต.จะทำแแบบเดียวกันอีกหรือ วันนี้พรรคไทยรักษาชาติ ขอแสดงจุดยืนให้ กกต.จัดการเลือกตั้งตามกำหนด และพรรคไทยรักษาชาติพร้อมยืนหยัดกับประชาชน

ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาในฐานะคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติกล่าว ถึงการเลือก ..ว่าพรรคไทยรักษาชาติพยามยามแก้ไขให้ ..มาจากการเลือกตั้ง แต่ สนช.อยากให้ ..มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ  สรรหาจาก 10 วิชาชีพ มีเพียงผู้สมัครแค่ 7,200 คน ความสนใจของประชาชนน้อยมากใช้งบประมาณ 1,300 ล้านบาท การสรรหา ..กลายเป็นระบบพวกพ้อง มีการซื้อเสียงเพื่อให้ได้คะแนนที่สูง แต่สุดท้าย คสช.ก็คัดเลือกจาก 200 เหลือ 50 คน 

อดีตประธานรัฐสภายังได้กล่าวถึงการตัดสินของป... และมีมติไม่สั่งฟ้อง พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กรณีนาฬิกาหรูนาฬิกาอีกด้วยว่าเป็นสร้างมาตราฐานที่ไม่ถูกต้อง ...กลายเป็นองค์กรที่ชี้มาตราฐานของสังคมที่ไม่ถูกต้อง  เราสนับสนุน20,000 คนที่สังคมต้องการถอดถอนป...  

"สิ่งที่กังวลตอนนี้คือ กกต.จะจัดการเลือกตั้งอย่างเท่าเทียมและเสรีเป็นธรรมหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไป" นายนิคมกล่าว

วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ทษช. ลงพื้นที่ กทม. ส่งท้ายปี-เปิดศูนย์ประสานงานเขตสวนหลวง


..ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายนิคม ไวยรัชพานิช สมาชิกพรรค พร้อมแกนนำพรรคและกรรมการบริหารคณะลงพื้นที่ เขตสวนหลวง ที่ซอยพัฒนาการ35 เพื่อเปิดศูนย์ประสานงาน ทษช.เขตสวนหลวง พร้อมทั้งรับสมัครสมาชิกพรรค 

โดยพื้นที่ดังกล่าว นายธกร เลาหพงศ์ชนะ เสนอตัวเป็นผู้สมัคร ..กทม.เขตเลือกตั้งที่ 20 เขตสวนหลวง เขตประเวศ (แขวงหนองบอน - แขวงดอกไม้

นายธกร เลาหพงศ์ชนะ ระบุว่า ตัวเองต้องสู้ให้พรรคเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ที่ตนมาเล่นการเมือง มีสาเหตุจากทหารเข้ามายึดอำนาจ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมได้พังทลายไปหมด แก้เป็นจากการพูดคุยแกนนำมีความคิดเห็นตรงกันจึงมาสมัครสมาชิกพรรค เพื่อเสนอตัวเป็นตัวแทนพรรคจึงขอฝากทุกคนให้ช่วยสนับสนุนตนและพรรค ทษช.ด้วย 

ขณะที่ประชาชนเขตสวนหลวงที่มาร่วมให้ความคิดเห็นเสนอว่าให้ ทษช.ช่วยเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ปัญหาความยากจน หลังไม่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้ประสบปัญหาเรื่องปากท้อง รวมทั้งยาเสพติดก็ระบาดหนัก และขอให้ช่วยแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เพราะตอนนี้ราคายาง 5 กิโลกรัมยังไม่ถึง 100 บาท พร้อมทั้งดูแลปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ถนนพัฒนาการ และให้ ทษช.เข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนำนายทักษิณ กลับสู่ประเทศไทย

นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้า ทษช. ย้ำว่า ทษช. จะใช้แคมเปญเพิ่มเงินในกระเป๋าพร้อมทั้งใช้เทคโลยีทำให้การขายสินค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายมากขึ้นโดยทำให้ทุกคนทำได้ โดยวันที่ 24 .. 2562 จะต้องยกปากกามาเลือก ทษช. เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน

ด้าน ..ปรีชาพล ยืนยันจากการลงพื้นที่ใน กทม. และทั่วภูมิภาคพบปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บอกว่าคนจนในปี 2561 คนจนจะหมดประเทศ แต่คนภาคใต้บอกกับตนว่า คนจนจะผูกคอตายหมดประเทศแล้ว ส่วน พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯบอกเศรษฐกิจ คนซื้อรถยนต์มากขึ้นจนรถติด ขณะที่นายสุวิทย์ บอกว่าการแจกบัตรคนจนต้องแจกไปจนถึงเลือกตั้งเพราะคนจะไม่มีกินแล้ว ทั้งนี้ประชาชนบอกว่าปัญหาตอนนี้คือเศรษฐกิจไม่ดี ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีประชาชนก็ไม่มีกำลังซื้อ ขณะที่การบริหารงานของรัฐบาลทำให้ประชาชนเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาเป็นขายรถไถนาแล้ว ขณะที่ชาวสวนยางเลิกกรีดยางมาขายต้นยางแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลคือเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตย สกัดการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช.

ด้านนายจาตุรนต์ ระบุว่า ไปที่ไหนใน กทม.มีแต่ปัญหายาเสพติดจนเกิดปัญหาอาชญากรรม ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยสามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้ วิธีแก้คือต้องเอาผู้เสพมาเป็นผู้ตรวจสอบเอาคนเสพมารักษาแล้วเอาผู้ค้าไปติดคุก ทั้งนี้ 4 ปีที่ผ่านมา ทหารมักบังคับมาจับคนหาบเร่แผงลอย กับคนที่มาคัดค้านรัฐประหาร สมัยรัฐบาลนายทักษิณเคยทำมาไม่มีการซื้อขายตำแหน่งของตำรวจ ต่อไปนี้ ทษช. ได้เป็นรัฐบาลจะทำแอปพลิเคชั่นรายงานปัญหายาเสพติดในชุมชนด้วย


นายจาตุรนต์ ระบุว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทาง ทษช.มีทางแก้ไขได้ โดยการส่งออกต้องมากขึ้น ใน 4-5 ปีการส่งออกโตไม่มากเจรจาการค้ากับต่างประเทศไม่ได้ เพราะรัฐบาลนานาชาติไม่ลงนามกับรัฐบาลเผด็จการ ส่วนการลงทุน ต้องให้ ทษช.เข้าไปเป็นรัฐบาล อย่าให้พล..ประยุทธ์ มาเป็นรัฐบาล  พร้อมย้ำว่าถ้า ทษช. ได้รับการสนับสนุนทั่วประเทศ จะเป็นพรรคตัดสินให้ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายชนะ

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สวัสดีอนาคต! "ชัชชาติ" มาแล้ว เตรียมลุยสนามการเมือง สู้ศึกเลือกตั้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทควอลิตีเฮาส์จำกัด อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความในเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

Dear Past, Thank you for all the lessons.
Dear Future, I am ready.

วันนี้ เป็นวันสุดท้ายที่ผมทำงานในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ครบวาระหลังจากทำงานมาสี่ปีเต็มครับ

ขอบคุณอดีต สำหรับทุก ๆ บทเรียน
สวัสดีอนาคต ผมพร้อมแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพถ่ายผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ร่วมกับรองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คู่กับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ด้วย


ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เตรียมลงในสนามการเมืองเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งทั่วประเทศ ที่จะมีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า ในฐานะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยจะเริ่มมาช่วยรณรงค์หาเสียงหลังปีใหม่ 2562 ไปแล้ว

“ทษช.” แถลงชูนโยบายเศรษฐกิจ ขจัดสืบทอดอำนาจ ฉะ ป.ป.ช. ไม่อิสระ


นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ได้แถลงผลการลงพื้นที่ของพรรคไทยรักษาชาติเพื่อรับฟังปัญหาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พบปัญหาที่ชัดเจนในหลายจังหวัดคือปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง ซึ่งเป็นปัญหาที่รุนแรงมาก การจัดทำนโยบายของพรรคไทยรักษาชาติ จึงจะนำเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นเรื่องหลัก และจะทุ่มเทให้กับการทำนโยบายเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก การลงพื้นที่ในครั้งที่ผ่านมาของพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา แต่หลังปีใหม่จะมีการพบปะกับประชาชนมากขึ้น และจะเน้นไปที่การปราศรัยเป็นหลัก และจะพูดถึงนโยบายที่ชัดเจนในเร็ว นี้ นอกจากเรื่องของเศรษฐกิจแล้ว จุดยืนนโยบายก็จะเน้นไปที่การหยุดการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช. ด้วย 

นายจาตุรนต์ ยังได้พูดถึงกรณีที่คณะกรรมการปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (...) มีมติว่าพลเอกประวิทย์วงศ์สุวรรณไม่มีมูลความผิดชัดเจนจากการปกปิดบัญชีทรัพย์สินในกรณีนาฬิกาที่อ้างว่ายืมจากเพื่อนสนิท ว่า เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก แต่ก็ไม่ผิดคาด ซึ่งเรื่องนี้สังคมก็ไม่ได้เชื่อตามเสียงของ ... และไม่ได้ทำให้หายเคลือบแคลงสงสัยได้ ทั้งนี้เพราะระบบการตรวจสอบของประเทศมีปัญหาอย่างร้ายแรง เป็นระบบที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะที่มาของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังเป็นมาได้เพราะอาศัย พรป. ... ที่ผ่านการอนุมัติจาก สนช. ทำให้ระบบการตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นของประเทศมีปัญหา เพราะ ... ไม่มีความเป็นอิสระ และถูกแทรกแซงได้ ทั้งนี้ยังขาดการตรวจสอบจากสื่อมวลชน และประชาชนเนื่องจากมีการจำกัดเสรีภาพสื่อและเสรีภาพของประชาชน 

นายจาตุรนต์กล่าวทิ้งท้ายว่าตราบใดที่ คสช. ยังมีอำนาจอยู่ เราจะไม่มีองค์กรอิสระที่น่าเชื่อถือไปอีกนาน ระบบการตรวจสอบของประเทศนี้จะเป็นอย่างนี้อยู่หลายปี และผลประโยชน์ของประชาชนก็จะไม่ถูกปกป้อง

“ขัตติยา” อัด ป.ป.ช. สร้างมาตรฐานใหม่-ยืมเพื่อนไม่ผิด


นางสาวขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีที่ปปช. มีมติ 5:3 ชี้ว่ายังไม่มีมูลเพียงพอว่าพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จจากการมีนาฬิกาหรู 22 เรือนในครอบครอง และอ้างว่ายืมของเพื่อนมาใส่ และเพื่อนผู้เป็นเจ้าของนาฬิกาได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น นางสาวขัตติยาเห็นว่า นี่คืออีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์ดำของรัฐบาลคสช. รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ใช้ระบบการปกครองบริหารงานแบบเผด็จการไม่เห็นหัวประชาชน จนทำให้การตรวจสอบความโปร่งใสของผู้มีอำนาจไร้ซึ่งความหมาย กว่าหนึ่งปีที่ประชาชนรอคอยผลการตรวจสอบที่มาของนาฬิกา แต่สุดท้ายคำตอบที่ได้คือหาที่มาของนาฬิกาไม่ได้และโอนเรื่องต่อไปให้กรมศุลกากรดำเนินการต่อ

นางสาวขัตติยากล่าวต่ออีกว่า หนึ่งปีที่ผ่านมา การพิจารณาสอบสวนเรื่องนาฬิกาของพลเอกประวิตร เหมือนเป็นแค่พิธีกรรมปาหี่โกหกประชาชน และเชื่อว่าผลสอบที่ออกมาก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายหรือสร้างความแปลกใจให้ประชาชนสักเท่าไหร่ แต่ทำให้ประชาชนเห็นถึงความไม่จริงใจในการใช้อำนาจ เพื่อปกป้องคนในรัฐบาลคสช. และเพื่อปกป้องและรักษาอำนาจของรัฐบาลเผด็จการไว้ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่โหมดหาเสียงเลือกตั้ง และอย่าลืมว่าเหล่าคนในรัฐบาลคสช.นี้ส่วนหนึ่ง ได้ไปจัดตั้งพรรคการเมืองที่พร้อมเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าหากประชาชนปล่อยให้มีการสืบทอดอำนาจของกลุ่มคนที่มาจากรัฐบาลคสช.ต่อไป การถ่วงดุลตรวจสอบการทำงานในเรื่องต่างๆ ก็คงมีผลไม่ต่างกับการตรวจสอบเรื่องนาฬิกาหรูของพลเอกประวิตร เพราะฉะนั้น จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาดูให้ดีว่าการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ ท่านจะเลือกพรรคที่สนับสนุนประชาธิปไตยเพื่อให้ประเทศกลับเข้าสู่ระบบการตรวจสอบความโปร่งใสตามกลไกประชาธิปไตย หรือท่านจะเลือกพรรคที่สืบทอดอำนาจระบบเผด็จการที่การตรวจสอบความโปร่งใสเป็นเพียงการปาหี่” 
.
อย่างไรก็ตาม มติของ ปปช.ในเรื่องนี้ จะเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญให้ นักการเมืองหรือข้าราชการ ที่ตั้งใจเข้ามาเพื่อการทุจริต ใช้เป็นมาตราฐานในการแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งต่อไป ปปช. เองจะทำงานลำบาก เปิดช่องทางให้เกิดการทุจริต คนที่เป็นผู้ถูกกล่าวว่าปกปิดการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ก็จะอ้างว่าทรัพย์สินที่มีอยู่นั้นเป็นของบุคคลอื่นที่ยืมมา มติของ ปปช. ในเรื่องนาฬิกาของพลเอกประวิตร จะกลายเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญว่า ปปช. เป็นองค์กรที่ถูกครอบงำด้วยอำนาจเผด็จการ หมดความน่าเชื่อถือและขาดความเป็นอิสระ นางสาวขัตติยากล่าว

     

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561

“พานทองแท้” อัดนักเต้าข่าว ควรเอาตะกร้อครอบปาก-ใส่ร้ายหนีไปต่างประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ใครพอจะจำ “นักเต้าข่าว” ที่เคยประโคมข่าวเรื่องสนามบินสุวรรณภูมิแตกร้าว โดยใช้เทคนิคในการถ่ายภาพ ทำให้ดูเสียหายมากกว่าของจริง ตอนช่วงรัฐประหารปี 49 ได้บ้างครับ?

การกระทำของเขา ส่งผลให้ชื่อเสียงของประเทศไทยเสียหายไปทั่วโลก จน นสพ.ต้นสังกัดฯ ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนับพันล้านบาท ในที่สุด นสพ.ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการให้นักข่าวคนดังกล่าวออกจากงานเสีย

ส่วนเรื่องที่เขาโจมตีเอาไว้ ในที่สุดก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่โดนประโคมข่าวจนเสียชื่อเสียงยับเยิน ยังคงเปิดให้บริการ รองรับเที่ยวบินจนถึงปัจจุบัน ทะลุล้านเที่ยวบิน ขนนักท่องเที่ยวมาเมืองไทย หลายร้อยล้านคนมาแล้ว

“โดยในภายหลังเมื่อรู้ตัวว่า คนพูดให้ประเทศชาติเสียหาย ก็ไม่เคยออกมาขอโทษประเทศไทยอันเป็นที่รักของทุกคนเลยสักครั้ง” ...เวรกรรมจริง...

อยู่ๆ มาวันนี้ คนเดิมออกมาเต้าข่าวใหม่อีกครั้ง นัยว่าจะเป็นการรับจ๊อบเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นความล้มเหลวของรัฐบาลหรือไม่ก็ไม่ทราบ ครั้งนี้มาพร้อมสคริปท์ใหม่ “ยืนยันหนักแน่น ฝ่ายความมั่นคงเผย พานทองแท้ไม่อยู่เมืองไทยแล้ว” โถ... ถถถถถถถถ!!

ตบท้ายด้วยการท้าพิสูจน์ ให้ผมโพสต์โชว์ตัวว่ายังอยู่เมืองไทย..!! แหม่...ถ้าอยากจะรู้เรื่องส่วนตัวกันมากขนาดนั้น คงต้องถามกันก่อนว่า พูดให้เสียหายกันแบบนี้ ถ้าผมอยู่เมืองไทยไม่ได้ไปไหน คนเต้าข่าวจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร..??

เอาแบบนี้มั๊ยครับ ถ้าผมแสดงตัวว่าผมอยู่ไทยจริง คนเต้าข่าวยอมเอาตะกร้อมาครอบปากตัวเอง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความปากพล่อยของตัวเอง ที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายทั้ง 2 ข่าว 2 ครั้ง มั๊ยครับ..?

ถ้าโอเคเดี๋ยวผมจัดให้ โพสต์แบบสิ้นสงสัยว่าอยู่ที่ไหนกันแน่? แต่ถ้าไม่กล้าก็หุบปาก และเลิกเรียกตัวเองว่าสื่อ คอยเต้าข่าวใส่ร้ายผู้อื่นให้เสียหาย จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากกว่านี้เยอะครับ!!

"ทษช." แนะ พปชร. แสดง​ความจริงใจ​ สอบสมัครสมาชิกแลกบัตรคนจน​


นางสาวช​ยิกา​ วงศ์​นภา​จันทร์​ นายทะเบียน​พรรคไทย​รัก​ษา​ชาติ​กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยแพร่คลิปทางโซเชียล เนื้อหาระบุว่ามีการเชิญชวนให้ผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในพื้นที่จ.ยโสธร ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หากไม่สมัครจะไม่ได้รับบัตรว่า การกระทำดังกล่าวแม้จะไม่มีใครเรียกร้อง แต่คนที่เรียกตัวเองว่าพรรคการเมืองที่มี4รัฐมนตรี​เป็นผู้บริหาร​ก็ควรจะต้องเร่งตรวจสอบอยู่แล้ว รวมทั้งจะต้องแถลงให้สาธารณะชนได้รับทราบด้วย ไม่ใช่แค่ทำท่าขึงขังว่าจะมีการตรวจสอบแล้วสุดท้ายก็เงียบหายไปเหมือนกับการตรวจสอบกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้

ส่วนข้ออ้างว่าการกระทำผิดถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรคนั้น หากตรวจสอบแล้วพบว่ากระทำผิดจริง ลำพังเพียงแค่การตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้สมัครส.ส.ของพรรคอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องกล้าที่จะดำเนินคดีกับคนที่กระทำผิดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างด้วย ดังนั้น กรณีนี้จะถือเป็นเครื่องพิสูจน์อย่่างดีสำหรับพรรคที่กล้าพูดว่ารัฐธรรมนูญนี้ดีไซน์มาเพื่อเรา และกล้าที่จะประกาศว่าตัวเองจะได้ส.ส.มากถึง 150 คนว่า สุดท้ายแล้วมีความจริงใจขนาดไหน

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561

"เผ่าภูมิ" ชี้ 5 สัญญาณอันตรายเศรษฐกิจไทย


ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันโดยระบุว่ามีสัญญาณที่น่าเป็นห่วงที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างน้อย 5 ประการ ได้แก่

1. “ไม่ตายแต่เลี้ยงไม่โต” โอกาสการลงทุนใหม่และความต้องการการลงทุนใหม่เหือดแห้ง การใช้จ่ายรวมหรืออุปสงค์รวมไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้สินค้าที่ผลิตออกมาไม่มีคนซื้อ คนขายต้องลดการผลิต เกิดกำลังการผลิตถูกทิ้งว่างเปล่าเอาไว้ (idle capacity) กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเพียงแค่ 60-70% การลงทุนใหม่ๆ จึงเหือดแห้ง

2.  “รากหญ้าสงบนิ่ง” เศรษฐกิจระดับบนเติบโตได้ แต่เศรษฐกิจรากหญ้ามีปัญหาหนัก ภาคเอกชนขนาดใหญ่ไม่ใช่แนวทางการขับเคลื่อนในระยะยาว คำตอบคือระบบเงินหมุนในรากหญ้าต้องเกิด ต้องให้เงินเหมือนน้ำในบ่อปลาที่ต้องหมุนตลอดเวลาเพื่อสร้างออกซิเจน ไม่ใช่สงบนิ่งจนปลาตายหมด

3. “หนี้ครัวเรือนคือตัวถ่วง”: หนี้ครัวเรือนต่อ GDP อยู่ในเกณฑ์สูงมาก สูงอันดับต้นๆของโลก ถ้าเทียบกับประเทศที่มีรายได้ใกล้เคียงกับไทย ทำให้เครื่องมือทางการคลังด้อยประสิทธิภาพ การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ค่อยได้ผล เงินที่กระจายลงไป คนเอาไปใช้หนี้ ไม่นำไปใช้จ่าย หนี้ครัวเรือนจึงเป็นตัวดึงรั้งเศรษฐกิจไทยอย่างหนักในปัจจุบัน

4. “ไร้เกราะกำบัง”: สภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นกันชนยังใช้การได้อยู่ แต่การบริโภค การใช้จ่าย และการลงทุนในประเทศไม่มีกำลังพอที่จะรองรับเศรษฐกิจโลกที่ผกผันได้เลย เมื่อไหร่ก็ตามที่โลกดีเราก็ฟื้น โลกแย่เราก็วูบ

5. “การคลังมีปัญหา” การขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงขึ้น รายรับของประเทศน้อยกว่ารายจ่ายไปเรื่อยๆ แบบนี้จะเป็นปัญหา การลดรายจ่ายพอทำได้ แต่การจ่ายให้มีประสิทธิภาพควรทำมากกว่า ส่วนด้านรายรับการขึ้นภาษีหรือเก็บภาษีชนิดแปลกๆกับประชาชนต้องหลีกเลี่ยง แต่ต้องเร่งสร้างรายได้เพื่อเพิ่มฐานภาษี ไม่ใช่สร้างภาระให้กับประชาชน

“สุดารัตน์” นำเพื่อไทยลงพื้นที่อุดรฯ ประชาชนต้อนรับคึกคัก


"หญิงหน่อย" อ้อนคนอุดรขอเลือกเพื่อไทยยกจังหวัดใช้ชื่นใจหลังกลับสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยและพบปะกับประชาชนชาวจังหวัดหนองคายในช่วงเช้าเสร็จสิ้นโดยในช่วงบ่ายคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ การเลือกตั้งเดินทางต่อไปอีกจังหวัดอุดรธานีโดยได้พบปะกับประชาชนที่หมู่บ้านนาข่า อำเภอเมือง โดยย้ำถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่าต้องการให้ประชาชนมีชีวิตอยู่ดีกินดีเพราะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น พร้อมขอให้พี่น้องชาวอุดรธานีเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยเลือกเอา ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดอุดรยกจังหวัดเข้าไปทำหน้าที่เข้าไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทย หรือจะทนอยู่กับคนเดิมที่บริหารประเทศที่สร้างแต่ปัญหาให้กับประชาชน
 
ทั้งนี้ก่อนที่คุณหญิงสุดารัตน์จะขึ้นเวทีปราศรัยพูดกับประชาชนได้มีประชาชนที่มารอมอบพวงมาลัยดอกดาวเรืองและดอกกุหลาบสีแดงให้กับคุณหญิงสุดารัตน์ล้อมบอกให้คุณหญิงสุดารัตน์สู้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านนำพระหลวงพ่อเดิมให้คุณหญิงสุดารัตน์อยู่พรรคเพื่อไทยไปนานๆไม่ต้องย้ายไปไหน เพราะรักและติดตามการทำงานมาตลอด


จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์เดินทางต่อไปที่อำเภอกุมภวาปีเพื่อรับสมัครสมาชิกพรรคและพบปะประชาชนที่ทำการพรรคเพื่อไทยของนายจักรพรรดิ ไชยสาส์น โดยมีว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยมาร่วมรับสมัครสมาชิก พร้อมกันนี้คุณหญิงสุดารัตน์ได้ขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชนว่าจากประสบการณ์ทำงานในการเมืองมา 26 ปีจนวันหนึ่งเดินออกจากเส้นทางการเมืองไปทำงานด้านพระพุทธศาสนาแต่วันนี้ได้ตัดตัดสินใจกลับมาทำงานการเมืองอีกครั้งเพื่อต้องการแก้ปัญหาให้กับคนไทย ได้มีกินมีใช้ ได้ออกจากความสิ้นหวังไปสู่อนาคตที่ดีกว่า พร้อมย้ำว่าทุกกำลังใจที่ประชาชนมอบให้จะแปรเปลี่ยนมาไปเป็นการทำงานอย่างชาญฉลาดทำงานด้วยสติปัญญาเพื่อจะนำไปประชาชนทุกคนไปสู่ฝั่งให้หลุดจากความทุกข์ไปสู่ความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า


หลังจากกับประชาชนเสร็จคุณหญิงสุดารัตน์ได้ร่วมถ่ายรูปกับประชาชนที่อยู่ด้านหน้าเวทีพร้อมกับให้ประชาชนชูแผ่นสติ๊กเกอร์ที่มีชื่อพรรคเพื่อไทย และชวนให้ประชาชนร่วมร้องเพลงของพรรคเพื่อไทยเวอร์ชั่นใหม่ที่ออกมาล่าสุด

"สุดารัตน์" นำเพื่อไทย ลงพื้นที่หนองคาย ประชาชนต้อนรับคึกคัก



“สุดารัตน์” ลงพื้นที่หนองคาย ย้ำนโยบายปลดทุกข์เพิ่มความสุขให้ประชาชน ขอโอกาสเลือก ส.ส.เพื่อไทยยกจังหวัดมาแก้ปัญหาหลังมองคนอื่นทำงานล้มเหลวมา 4 ปี

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อพบปะประชาชนตลาดโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย โดยมี ว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ นางสาวชนก จันทาทอง ว่าที่ผู้สัมคร ส.ส.หนองคาย เขต2  นายประสิทธิ์ จันทาทอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมขึ้นเวทีพบปะประชาชน


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวระหว่างขึ้นเวที ว่า ได้ติดตามและสอบถามประชาชนในหลายพื้นที่ของภาคอีสานได้พบและเห็นปัญหาหลายอย่างโดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ รวมถึงเศรษฐกิจปัจจุบันก็ไม่ดีอย่างที่หลายคนออกมาบอก ซึ่งตนเองรู้สึกเห็นใจได้แต่คิดว่าจะหาทางออกและทางแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างไร แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสมาพบประชาชนอีกครั้งพร้อมกับนโยบายที่พรรคได้กลั่นกรองจากปัญหาที่ได้รวบรวม และการมาพบกับพี่น้องประชาชนวันนี้ก็สามารถพูดกับประชาชนได้อย่างเต็มปากหลังจากที่เขาให้อิสระกับพรรคการเมือง

 
คุณหญิงสุดารัตน์ยังย้ำว่าที่มาวันนี้มาพูดเพื่อปรับทุกข์และคลายทุกข์ ให้กับประชาชน  เพราะตลอด4ปีพรรคเพื่อไทยก็ทุกข์ไปพร้อมๆกับประชาชน และแม้ช่วงที่ผ่านมาเขาไม่ยอมให้เรามาพบปะกับพี่น้อง แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่นึกถึงประชาชน เขาห้ามได้แค่ตัวแต่ใจเราสื่อถึงประชาชนมาตลอด4ปี จึงขอให้ทุกคนเชื่อใจในพรรคเพื่อไทยว่าจะทำให้ประชาชนทุกคนกลับมามีรอยยิ้ม ส่วนจะได้มีโอกาสกลับมาทำงานอีกหรือไม่อยู่ที่พี่น้องทุกคน  พรรคสำนึกบุญคุณมาตลอดว่าทุกคะแนนเสียงของประชาชนคือความไว้วางใจที่จะให้พรรคเข้ามาแก้ปัญหาให้ ซึ่งอีกไม่ถึง2เดือนจะเป็นวันที่พี่น้องทุกคนจะเลือกว่าจะอยู่กับเศรษฐกิจที่ถดถอย  อยากจนและสิ้นหวัง หรือเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยโอกาสและความหวัง วันที่24กุมภาพันธ์ จะเป็นวันชี้ชะตาอนาคตของคนไทยทั้งประเทศ


สำหรับบรรยากาศการพบปะประชาชนของคุณหญิงสุดารัตน์ที่อำเภอโพนพิสัยครั้งนี้มีประชาชนจำนวนมากมารับฟังนโยบายซึ่งระหว่างที่คุณหญิงสุดารัตน์ได้เดินทักทายประชาชนนั้น ได้มีประชาชน ตะโกนบอกอยากได้นายกรัฐมนตรีหญิงมาบริหารประเทศอีกครั้ง ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์บอกประชาชนว่าไม่ว่าใครในพรรคเพื่อไทยจะเป็นนายกฯพรรคก็จะทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างเต็มที่   พร้อมกันนี้ประชาชนที่มาฟังการปราศัยได้ถ่ายรูปกับคุณหญิงสุดารัตน์พร้อมตะโกนให้กำลังใจ

จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์เดินทางไปที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยเขต1 จังหวัดหนองคาย เพื่อเปิดศูนย์ประสานงานของพรรคโดยมี นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองคายเขต1 นางสาวชนก จันทาทอง เขต2 นายนายเอกธนัช อินทร์รอด เขต3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย ร่วมเปิดศูนย์ประสานงานด้วย

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า  หลายปีระหว่าง ที่เฝ้าดูการทำงานของคนอื่น เรา ได้เห็นประชาชนมีหนี้สินเพิ่มพูนมากขึ้น เห็นแต่ความทุกข์ของประชาชน ทั้งนี้เห็นว่าปัญหาหลายอย่างแก้ได้แต่กลับแก้ไม่ถูกวิธี จึงทำให้ปัญหานั้นยังคงอยู่และยิ่งสร้างทุกข์ให้ประชาชน ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุกคนจะทวงคืนความสุขให้กลับคืนมาพร้อมๆกับทวงเงินให้กลับสู่กระเป๋า และทำให้ราคาพืชผลดีขึ้นด้วยความสามารถของผู้บริหารพรรคเพื่อไทย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าพรรคจะทำงานและแก้ปัญหาให้ทุกคนออกจากทุกข์ ซึ่งการเลือกตั้งจะเป็นประตูสู่ทางออกของทุกข์นั้น

คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวอีกว่าลงพื้นที่มา26ปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นความทุกข์เห็นประชาชนร้องไห้ โดยเฉพาะที่ตลาดโพนพิสัยมีคนแก่เข้ามากอดและร้องไห้ขอให้ช่วย ซึ่งได้เห็นน้ำตาของคนหนองคายแล้วก็อดสะเทือนใจไม่ได้จึงบอกกับตัวเองและผู้สมัครของพรรคในจังหวัดหนองคายว่าจะต้องเข้ามาทำงานมาแก้ปัญหาปลดความทุกข์ของคนหนองคายให้ได้ วันนี้จึงขอเสนอทีมงานที่มีคุณภาพทั้งจังหวัดให้คนหนองคายได้เลือกได้ให้โอกาสอีกครั้ง

คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวอีกว่าตอนนี้เค้ามีเสียง ส.ว.ตุนไว้ 250 เสียงแล้ว ดังนั้นในวันที่24กุมภาพันธ์พี่น้องทุกคนจะต้องออกแรงช่วยกันออกไปเลือกตั้งให้ได้เสียงมากกว่าเสียง ส.ว.เป็น3เท่า ประชาชนจะได้ออกจากทุกข์และเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจังหวัดหนองคายทั้งจังหวัด พร้อมกันนี้ยังเชื่อว่าชื่อของเพื่อไทยได้เข้าไปอยู่ในหัวใจของทุกคนแล้ว















ทษช​. เปิดแคมเป​ญ​ "คิดใหม่​ ทำใหม่​ กล้าเปลี่ยนแปลง" สู้ศึกเลือกตั้ง


ทษช​. เปิดแคมเป​ญ​ "คิดใหม่​ ทำใหม่​ กล้าเปลี่ยนแปลง" ชวนประชาชนใช้เวทีเลือกตั้งกำหนดอนาคตตัวเอง ข้ามพ้นกับดักที่ผู้มีอำนาจวางเอาไว้

วันนี้​ (26 ธันวาคม 2561) ร.ท.ปรีชา​พล​ พงษ์​พา​นิช​ หัวหน้า​พรรค​ไทยรักษาชาติ กล่าวถึง การเปิดแคมเปญ​หาเสียงแรกของพรรคภายใต้ชื่อ​ "คิดใหม่​ ทำใหม่​ กล้าเปลี่ยนแปลง" ซึ่งสะท้อนความเป็นตัว​ตน​ของ​พรรคที่เป็นการหลอมรวม​คนรุ่นเดิมที่มีประสบการณ์​และผลงาน​ที่ทำสำเร็จ​มาแล้ว​ในอดีต​ กับคนรุ่นใหม่​ที่​มี​วิสัยทัศน์​และปรารถนา​จะเห็นความเปลี่ยนแปลง​เพื่อให้ประเทศ​ชาติและ​ประชาชน​ มีโอกาส​ที่ดี​ขึ้น​และอนาคต​ที่​สดใส​ พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนคนไทยมาร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศ​ ให้กลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย​ ที่ประชาชน​มีส่วนร่วม​ในการกำหนดชีวิต​ของตัวเอง​ และสร้างโอกาสในการทำมาหากิน​ เพื่อความเป็นอยู่​ที่ดีขึ้นและคุณภาพ​ชีวิตที่ดีกว่า​ ให้ประเทศไทย​ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง​ของโลก​ ซึ่งการออกแคมเปญ​ในครั้งนี้ได้เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียของพรรคและสมาชิก​ พร้อมติดตั้งบนอาคารสำนักงานและตามสาขาต่างๆ​ รวมถึงศูนย์​ประสานงานในแต่ละภูมิภาค​อีกด้วย


ร.ท.ปรีชาพล เชื่อว่า ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงประชาชนจะตัดสินใจ เลือกผู้แทนอย่างมีเป้าหมาย หลังจากถูกกดทับมานานจากระบบการเมืองที่เป็นอยู่ เพื่อการเปลี่ยนประเทศด้วยมือของประชาชนเอง ซึ่งการเลือกตั้งถือ เป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างสันติวิธีที่สุด และยังจะนำพาประเทศชาติและประชาชนเอง ให้ข้ามพ้นกับดักและหลุมพรางต่างๆที่ผู้มีอำนาจวางเอาไว้

"พานทองแท้" โพสต์ภาพสามล้อติดป้าย "รับเงินหมา กาเพื่อไทย"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

เอิ่มม...ใจร่มๆ และคิดให้ดีๆ นะครับ พี่ 3 ล้อเขาไม่ได้ว่าใคร...

หากร้อนตัว สั่งลูกน้องไปรังแกเขาอีก จะกลายเป็นว่า ที่แจกเงิน ก็เพื่อหวังคะแนนเสียงนะครับ..!!

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561

"ทษช." คึกคัก! เปิดศูนย์ประสานงานสัตหีบ-ปักธงภาคตะวันออก


ไทยรักษาชาติ ลุยภาคตะวันออก เยือน เมืองชลที่แรก "จาตุรนต์" ชี้ เศรษฐกิจชลบุรีตกฮวบ สะท้อนภาวะทั้งประเทศย่ำแย่ เหตุ! รบ.ไร้แต้มต่อต่างชาติ กร้าว! ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นรัฐบาลเท่านั้นจึงจะแก้ปัญหาได้
         
พรรคไทยรักษาชาติ หรือ ทษช. นำโดย ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค, นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค, นายณัฐวุฒิใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง พร้อมกรรมการบริหารและแกนนำพรรค ลงพื้นที่รณรงค์หาสมาชิกภาคตะวันออก โดยมีการการเปิดศูนย์ประสานงานพรรค อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีนางสาวนิชนันท์​ วังคะฮาต​ ว่าที่ผู้สมัคร​พรรคไทย​รัก​ษา​ชาติ​ให้การต้อนรับพร้อมรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่
     
ทั้งนี้มีประชาชนสะท้อนปัญหาพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัยของประชาชนในอำเภอแสมสาร จังหวัดชลบุรี ซึ่งอาศัยในเขตทหารและโดนขับไล่ออกจากพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้กำลังอยู่ในชั้นศาล และยังมีปัญหาน้ำประปาไม่ไหล ที่สำคัญคือ ปัญหาประมง โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว ที่ถูกคำสั่ง คสช.จัดระเบียบ ต้องจัดทำเอกสารที่ยุ่งยากและผู้ประกอบการธุรกิจประมงต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก รวมถึงตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่ต่างสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำไม่สามารถทำมาค้าขายได้
     
ร้อยโทปรีชาพล ระบุว่า ได้ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนหลายพื้นที่ พบปัญหาเศรษฐกิจที่เผชิญกันทั่วประเทศ ซึ่งมีผลรายงานจากต่างประเทศที่มาเก็บข้อมูลในประเทศไทย  พบอุปสรรคสำคัญในการประกอบธุรกิจในไทย 4 อันดับแรก คือ ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล , ความไม่มีประสิทธิภาพของระบบราชการ, นโยบายรัฐที่ไม่ต่อเนื่อง และการไม่มีความสามารถสร้างนวัตกรรม โดยเชื่อว่า คนไทยร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ด้วยการเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปบริหารประเทศ จึงจะสามารถฟื้นฟูและเรียกศักดิ์ศรีของประชาชนและสังคมไทยกลับคืนมาได้
       
ส่วนนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจที่หลากหลาย แต่ทุกเรื่องกลับเผชิญกับปัญหา โดยบางเรื่องเกิดจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาด บางเรื่องรัฐบาลเองทำให้ขาดความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ อย่างการท่องเที่ยวที่ลดวูบลงในระยะหลัง 1 ปีมานี้ โดยมองว่า การแก้ปัญหาต้องใช้รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย เพื่อสร้างการยอมรับและเรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันขาดอำนาจต่อรองกับต่างชาติ ขณะที่สภาพเศรษฐกิจจังหวัดชลบุรี ที่ถือว่าได้เปรียบจังหวัดอื่นหลายด้าน ย่อมสะท้อนปัญหาและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่อื่นๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 
     
นายจาตุรนต์​ ย้ำด้วยว่า การออกนโยบายที่ดีอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะต้องสามารถทำให้เป็นจริงได้ แต่หากรัฐบาล คสช.ได้ครองอำนาจต่อ นอกจากไม่สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว ยังจะต้องจมอยู่กับปัญหาต่อไปอีก 5-10 ปี
       
ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การรับฟังปัญหาจากประชาชนทำได้หลายรูปแบบ แต่พรรคไทยรักษาชาตินำคณะผู้บริหารมาจำนวนมาก เพราะต้องการแสดงความจริงใจและจริงจังในการรับฟังปัญหา เพื่อนำสู่การกำหนดนโยบาย พร้อมยืนยันว่า ภายใต้กติกาปัจจุบันที่ผู้มีอำนาจออกแบบมา จำเป็นจะต้องมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งมาทำภารกิจพิเศษ เป็นพรรคชี้ขาดชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย พร้อมย้ำว่า คะแนนเสียงของประชาชนจะนำไปสู่ชัยชนะร่วมกัน