วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ประธาน กมธ. นิรโทษกรรมที่ดินฯ เร่งพิจารณากฎหมาย ย้ำต้องทำประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน-ไม่เอื้อนายทุน

กรุงเทพฯ - วันที่ 25 กันยายน 2568 ณ อาคารรัฐสภา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมด้วย นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่ 2 ได้เข้าร่วมการประชุมเพื่อเร่งรัดการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว


พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีความซับซ้อนและส่งผลกระทบต่อหลายหน่วยงาน หากรัฐบาลครบวาระในเดือนมกราคมปีหน้าและมีการยุบสภา การพิจารณากฎหมายอาจไม่ทันการณ์ ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงมีแผนที่จะเร่งประชุมเพื่อให้ร่างกฎหมายแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ และสามารถนำเข้าพิจารณาในสภาได้ทันก่อนยุบสภา โดยอาจจะมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมาธิการที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อช่วยให้การพิจารณาเป็นไปอย่างรวดเร็วและรอบคอบมากขึ้น

พันตำรวจเอก ทวี เน้นย้ำว่า เป้าหมายสูงสุดของกฎหมายฉบับนี้คือการช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็น "เหยื่อของรัฐ" ซึ่งได้รับความเสียหายจากนโยบายด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ และมีชื่อในร่างกฎหมายว่าเป็น "ผู้เสียหาย" ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ จึงต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สังคม

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า เราควรเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและชี้แจง เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าเราไม่ได้ต้องการไปยึดป่าหรือส่งเสริมกลุ่มนายทุน พร้อมระบุว่า “สิ่งสำคัญคือการทำให้กฎหมายฉบับนี้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริง และต้องไม่สร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่ม”








วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ชี้ พลวัตประเทศเปลี่ยน รัฐบาลต้องมาจากเสียงข้างมาก-ดันแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน


ผู้สื่อข่าว รายงานจาก ศูนย์ประชุมวิชาการนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกริก ว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการสัมมนา “การส่งเสริมและขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของประชาชน และการจัดการขยะอย่างยั่งยืนในระดับชุมชน” (จากรัฐสู่ราก: กลไกกรรมาธิการกับการสร้างสังคมมีส่วนร่วมผ่านการจัดการขยะ) จัดโดยวิทยาลัยนานาชาติการบินและอวกาศ มหาวิทยาลัยเกริก โดยมี ศ.ดร.จรัญ มะลูลีม รองอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกริก, นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 5 พรรคประชาชาติ, อาจารย์อนุสรา มู่ฮัมหมัด รองคณบดีวิทยาลัยนานาชาติการบินและอวกาศ มหาวิทยาลัยเกริก ฯลฯ ร่วมให้การต้อนรับ และกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างพื้นที่การเรียนรู้ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านการใช้ข้อมูลดิจิทัล และสร้างเครือข่ายนักการเมืองและนักวิชาการเพื่อนำข้อมูล AI มาใช้ในการกำหนดนโยบายสาธารณะ นอกจากนี้ยังมุ่งสร้างความเข้าใจในบทบาทของคณะกรรมาธิการของรัฐสภาในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย การพัฒนาท้องถิ่น และการแก้ไขปัญหาชุมชนอย่างยั่งยืน ผลลัพธ์จากการสัมมนาในครั้งนี้จะถูกนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ในพื้นที่จริงในทุกระดับ และจะถูกรวบรวมเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม

ในโอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยเน้นย้ำถึงหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตยว่าพลวัตของประเทศได้เปลี่ยนไป และถึงแม้รัฐบาลในปัจจุบันจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่หลักการที่ถูกต้องของระบอบประชาธิปไตยคือรัฐบาลต้องมาจากเสียงข้างมาก



"ประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน ผู้ที่จะมาปกครองประชาชนได้นั้นต้องถูกเลือกจากประชาชน ดังนั้นผู้ที่เป็นตัวแทนของประชาชนต้องเกิดจากการยอมรับของประชาชน ไม่ใช่เกิดจากการบังคับ ทุกเสียงของประชาชนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน และไม่ควรปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้โอกาสเพื่อแก้แค้นหรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนจนประชาชนเสียโอกาส"

นอกจากนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติและ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้เน้นย้ำว่าในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลมีหน้าที่รับใช้ประชาชน ไม่ใช่ประชาชนต้องรับใช้รัฐบาล เช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มีหน้าที่รับใช้ประชาชน เพราะประชาชนเป็นผู้มีบุญคุณ ก่อนการยุบสภา มีการตกลงกันไว้ว่าจะมีการเสนอร่างและแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 256 เพื่อให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ในทุกจังหวัด รวมถึง ส.ส.ร. แบบสัดส่วนผสม โดยพรรคประชาชาติจะไม่นำผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ส.ส.ร. ซึ่งจะให้อำนาจประชาชนในการแก้ไขจัดการได้มากขึ้น พร้อมระบุว่าสิ่งนี้คือภาพในอนาคตที่หากไม่ถูกบิดเบือน จะนำไปสู่การยุบสภาเพื่อให้ประชาชนมีอำนาจตัดสินใจผ่านการเลือกตั้ง โดยเน้นย้ำว่าคนรุ่นเก่าต้องส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ต่อไป

"อนาคตของประเทศต่างๆอยู่ที่คุณภาพของมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่ความใหญ่ของประเทศ ทุกคนในที่นี้ ถือว่าเป็นคนที่มีคุณภาพ แต่ประเทศจะมีคุณภาพได้ ต้องมีเสถียรทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง ซึ่งเหล่านี้ หนีไม่พ้นที่จะต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมครับ"


















วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ปัตตานี ติดตามการดำเนินงานและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ศูนย์ฟื้นฟูสภาพสังคม ย้ำต้องแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ณ ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดปัตตานี หรือ “ศูนย์ศรัทธาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้” ต.บ่อทอง อ.หนองจิก เพื่อติดตามการดำเนินงานและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงผู้เข้ารับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของศูนย์ฯ พร้อมกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังได้ให้กำลังใจผู้เข้ารับการฟื้นฟูฯ ให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง สามารถกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวและสังคมได้อย่างยั่งยืน

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานแบบบูรณาการของทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข เทศบาล ผู้นำชุมชน และภาคประชาชน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ “ลดปัญหา เพิ่มโอกาส และสร้างสังคมที่เข้มแข็งปลอดภัย”

[“ศูนย์ศรัทธาชน” พักคอยก่อนคืนสู่สังคม]

ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดปัตตานี จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักพิงและดูแลผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายหลักคือการเตรียมความพร้อมให้กับผู้บำบัดก่อนกลับสู่ครอบครัวและชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดตั้งศูนย์ฯ นี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อเดือนที่ผ่านมา และได้รับการประสานงานเร่งรัดอย่างต่อเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 (ป.ป.ส. ภ.9) กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากปัตตานีมีความพร้อมด้านสถานที่และบุคลากรมากที่สุด โดยใช้งบประมาณจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สำหรับการดำเนินงานในระยะแรก

แม้ว่าในขณะนี้ศูนย์ฯ จะใช้รูปแบบการอบรมเป็นรุ่น ซึ่งรุ่นแรกเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน และจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ แต่ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ระบุว่า แนวทางในอนาคตจะมีการปรับปรุงเพื่อให้ผู้ที่ต้องการเข้ารับการบำบัดสามารถ “Walk in” ได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้าถึง

นอกจากในพื้นที่ปัตตานีแล้ว ยังมีความคืบหน้าในการจัดตั้งศูนย์พักคอยในพื้นที่อื่น ๆ ด้วย โดยที่จังหวัดยะลาได้มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก ป.ป.ส. ภ.9 กระทรวงยุติธรรม เบื้องต้น จำนวน 350,000 บาท เพื่อใช้สถานที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดยะลา เป็นศูนย์พักคอย โดยมีหลักสูตรการดูแลสุขภาพ การส่งเสริมจริยธรรม การฝึกอาชีพ เช่น ช่างตัดผม การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการปั้นปูน รวมถึงการพัฒนาทักษะชีวิต

การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายจะใช้ฐานข้อมูลจากสาธารณสุข และ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอ (ศป.ปส.อ.) ร่วมกับผู้นำชุมชนคัดกรอง และเมื่อสำเร็จการฟื้นฟูฯ แล้ว จะมีการส่งกลับชุมชนพร้อมระบบติดตามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3-6 เดือน โดย อสม. และผู้นำศาสนา รวมถึงการส่งเสริมอาชีพตามความต้องการของผู้บำบัด

สำหรับจังหวัดนราธิวาส ทาง ป.ป.ส. ภ.9 กระทรวงยุติธรรม กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งศูนย์พักคอยต่อไป

ในส่วนของ “บ้านอุ่นไอรัก” ในจังหวัดปัตตานี ได้ยื่นเอกสารขอจัดตั้ง “ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมมูลนิธิบ้านอุ่นไอรัก” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์พักคอย เพื่อให้การดำเนินการสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากหากต้องการยกระดับเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จะมีกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานานกว่า

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เชื่อมั่นว่า การขับเคลื่อนในครั้งนี้จะสะท้อนถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการจัดการระบบดูแลผู้ติดยาเสพติดและผู้ผ่านการบำบัดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีกำหนดการลงพื้นที่ไปพบปะ แลกเปลี่ยนความเห็นกับ กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายภาคใต้ (P.N.Y.S) ก่อนมีกำหนดกลับกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย