วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2562

"ชวลิต" สอน "ชวน" สอบกระบวนการสรรหา ส.ว.

       
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นต่อกรณีพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ ว่า
ญัตติตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว.ส่อแท้ง ดังนี้
       
ตามข้อบังคับการประชุมสภา ฯ ข้อ 43 กำหนดว่า ให้เป็นอำนาจของประธานสภา ฯ ที่จะวินิจฉัยว่า ญัตติใดเป็นญัตติด่วน หรือไม่? และเมื่อวินิจฉัยแล้วให้แจ้งผู้เสนอญัตติ ทราบพร้อมด้วยเหตุผล ภายใน 5 วัน
นับแต่วันได้รับญัตตินั้น
           
บัดนี้ เกิน 5 วัน นับจากวันทึ่ได้ยื่นญัตติแล้ว ผู้เสนอญัตติยังไม่ได้รับการแจ้งจากประธานสภา ฯ ว่า
ไม่รับญัตติพร้อมเหตุผลประกอบ จึงอนุมานได้ว่า เมื่อเกิน 5 วันตามข้อบังคับสภา ข้อ 43 ดังกล่าวแล้ว ท่านประธานสภา ฯ ได้รับญัตตินี้แล้ว
           
อนึ่ง ยังมีข้อบังคับข้อที่ 45 กำหนดว่า  ภายใต้ข้อบังคับข้อ 43 และข้อ 44 ให้ประธานสภาบรรจุญัตติเข้าระเบียบวาระการประชุมภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับญัตตินั้นตามลำดับที่ยื่นก่อนหลัง ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ครบ 7 วัน ตนจะได้ตรวจสอบจากสภา ฯ ว่า ท่านประธานสภา ฯ ได้สั่งบรรจุญัตติเรียบร้อยแล้วหรือยัง?
           
นายชวลิต ฯ กล่าวในที่สุดว่า ตนเชื่อว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภา ฯ เป็นคนรักษาคำพูด รักษาหลักการ ท่านเคยให้สัมถาษณ์ว่า สภา ฯ สั่งซ้ายหัน ขวาหันไม่ได้ และท่านได้ตั้งความหวังว่า จะยกระดับความน่าเชื่อถือของสภา ฯ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะไม่รับญัตติที่อยู่ในอำนาจ หน้าที่ของสภา ฯ ในอันที่จะตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว.ซึ่งใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนถึง 1,300 ล้านบาท ว่า ถูกต้อง ชอบธรรม เป็นไปตามกฎหมาย หรือไม่?

แต่ก่อนนี้  เรามักจะกล่าวกันว่า กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ยุคนี้ สมัยนี้ จะเหลือองค์กรใดที่เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน ซึ่งประชาชนกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด
         
ดังนั้น ต่อกรณีความไม่ชอบธรรมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในยุคนี้  อย่าไปต่อว่าเด็กนักเรียน นักศึกษา ที่ทำพานไหว้ครูสะท้อนสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน เพราะเด็กนักเรียน นักศึกษาเหล่านั้น ล้วนต้องการรับมรดกบุญ ไม่ต้องการรับมรดกบาป จากคนรุ่นเรา เขาเหล่านั้นติดตามการทำหน้าที่ของรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นปู่ อย่างใกล้ชิด อย่าให้เด็กสาปแช่งเราเลย ไม่อายฟ้าดิน ก็อายเด็ก รุ่นลูก รุ่นหลานของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น