วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563

"วัฒนรักษ์" เตือนรัฐ ใช้งบ พ.ร.ก.กู้เงิน ให้ตรงจุด-ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม


ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายเดือนที่ผ่านมา ได้มีการปิดประเทศ (Lock Down) และการห้ามออกนอกบ้านยามวิกาล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค จึงได้มีการปิดสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เช่น ทะเล ป่า อุทยานต่างๆ  เป็นการชั่วคราว ทำให้ธรรมชาติได้มีโอกาสพักหายใจ ทำให้มลพิษทางอากาศทั่วโลกลดลง ในส่วนของประเทศไทยพบว่า ปริมาณความหนาแน่นของไนโตรเจนไดออกไซด์ มีปริมาณที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีที่ประเทศเราได้โอกาสในการพัฒนาเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมากเพราะพอปลดล็อก เพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็ได้มีการตั้งวงเหล้าริมหาด ซึ่งเกิดจากการที่ไม่มีการควบคุมทั้งในส่วนของปริมาณและการดูแลจัดการกับนักท่องเที่ยวตามอุทยานต่างๆ อย่างเข้มงวดและรัดกุม จึงทำให้ปริมาณขยะและการทำลายธรรมชาติเริ่มกลับมาใหม่อีกครั้ง

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ฯ กล่าวว่า แนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้บรรลุผล สามารถแบ่งได้ดังนี้

1. การป้องกันคุ้มครองทรัพยากรที่สามารถเกิดใหม่ได้เอง เพื่อไม่ให้สภาวะสิ่งแวดล้อมเสียสมดุล รัฐ ควรประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และมีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง  เพราะหากเราทำลายสิ่งแวดล้อม ก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เช่น โรคเอดส์ โรคซาร์ส โรคเมอร์ส และโรคโควิด-19

2. จัดการเร่งซ่อมแซมทรัพยากรที่ลดลงตามความเหมาะสม และเร่งฟื้นฟูทรัพยากรที่เสื่อมโทรมเพื่อให้กลับ มาสู่สภาพปกติโดยเร็ว เช่น ป่าต้นน้ำ ป่าเสื่อมโทรม ป่าชายเลน และทำไร่เลื่อนลอย เป็นต้น

3. การบังคับใช้กฎระเบียบที่มีอยู่อย่างจริงจัง และรณรงค์ให้ประชาชนอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างฉลาดและเหมาะสม เช่น จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าอุทยาน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ในการควบคุมดูแลและหากพบว่ามีการทำลายสิ่งแวดล้อม ก็ควรจะให้มีการถูกดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นสูงสุด

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ฯ  กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ควรจะดำเนินการอย่าง เร่งด่วนและต่อเนื่องเพราะนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติแล้ว ก็ยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับ ประชาชน เพราะการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ หากธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และสิ่งแวดล้อมงดงาม จะสามารถ เพิ่มปริมาณ ของนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้รายได้ต่อหัวของคนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน และในประเทศไทยเรานั้นมีสถานที่สำคัญหลายแห่งที่สามารถขอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก (World Heritage Site) ประกอบกับประเทศไทยเรามีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารการกินริมถนน เป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถที่จะขอขึ้นทะเบียนเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (UNESCO Creative Cities Network) เพื่อเมืองไทยของเราจะได้คนที่มีคุณภาพพร้อมที่จะจับจ่ายใช้สอยเงินเพิ่มขึ้นมาเที่ยวเมื่องไทยมากขึ้น โดยผลประโยชน์ทั้งหมดก็จะตกอยู่ที่ประชาชน ดังนั้น ในฐานะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้เสนอแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงควรจัดสรรงบประมาณมาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะตอนนี้มีงบ พ.ร.ก.กู้เงิน แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น