วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พรรคประชาชาติ เปิดเวทีปราศรัย จังหวัดปัตตานี ดันนโยบายรัฐสวัสดิการ พัฒนาคุณภาพชีวิตคน 3 จังหวัดชายแดนใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาชาติ จัดเวทีปราศรัยย่อย จังหวัดปัตตานี 2 จุดพร้อมกัน บริเวณสนามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต. เมาะมาวี และ สนามหน้าโรงเรียนรัศมีสถาปนาบาตัสกูโบ อำเภอมายอ  นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ รวมทั้ง ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาชาติ ทั้งแบบเขต และแบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งสมาชิกพรรค และประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ เดินทางมาฟังการปราศรัยตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ในโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ก่อนถึงวันที่ 14 พ.ค. ได้ขอให้ผู้สมัคร ส.ส.ในทุกเขตเลือกตั้งทั้ง 13 เขต เกาะติดพื้นที่ พบปะประชาชน และเน้นในเรื่องของนโยบายของพรรค เพื่อสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ รวมทั้งการชี้แจงวิธีการเลือกตั้ง เบอร์ของผู้สมัครในแต่ละเขต และเบอร์ของพรรค เพื่อป้องกันความสับสน และทำให้บัตรเสีย เนื่องจากในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผู้ใช้สิทธิเป็นผู้สูงอายุจำนวนมาก โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งนี้มีการใช้บัตร 2 ใบ เบอร์ผู้สมัคร ส.ส.เขต กับเบอร์ของพรรคเป็นคนละหมายเลข ซึ่งอาจจะสร้างความสับสนให้ผู้สูงอายุ ที่อ่าน เขียน ภาษาไทยไม่ได้

นอกจากนั้น พรรคประชาชาติมีการจัดเวทีปราศรัยในทุกเขตเลือกตั้งของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการช่วยผู้สมัครในทุกเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลาเย็นจนถึงกลางคืน เนื่องจากที่ผ่านมาอยู่ในห้วงของเดือนรอมฎอน ที่ประชาชนต้องปฏิบัติศาสนกิจ ทำให้การปราศรัยทำได้ลำบาก ซึ่งการปราศรัยจะนำนโยบายของพรรคบอกกล่าวกับประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง เพราะขณะนี้เหลือเวลาในการหาเสียงเพียง 10 วันเท่านั้น ในส่วนของเขตที่พรรคไม่ได้ส่งผู้สมัคร พรรคมีตัวแทนที่เป็นผู้ช่วยหาเสียง พบปะประชาชนเพื่อขอให้สนับสนุนพรรคประชาชาติ ซึ่งจากการพบกับแกนนำ ผู้นำศาสนา ผู้นำภาคประชาชน ภาคประชาสังคม พบว่า นโยบายของพรรคที่เน้นให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการ ดูแลประชาชนตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน และนโยบายการศึกษาฟรี ตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาตรี ได้รับการตอบรับในทุกพื้นที่ ส่วนนโยบายเฉพาะสำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น เรื่องการส่งเสริมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา จนถึงมหาวิทยาลัย และการใช้ภาษามลายูเป็นภาษาราชการควบคู่กับภาษไทย และอังกฤษ เพื่อประโยชน์ในการเศรษฐกิจการค้า และอื่นๆ ได้รับการตอบรับจากคนในพื้นที่อย่างท่วมท้น


“ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่าผลโพลผู้สมัครพรรคประชาชาติจะมีคะแนนนำทุกเขต แต่ประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าคะแนนนำ 5,000 ถึง 10,000 คะแนน ถ้าคู่แข่งใช้วิชามารด้วยการใช้เงินเป็นเครื่องมือ โอกาสที่คะแนนจะผันแปร และพ่ายแพ้เกิดขึ้นได้ทันที วันนี้พรรคประชาชาติเป็นพรรคเล็ก ที่มีความหวังในการได้ ส.ส.ทั้งเขตและปาร์ตี้ลิสต์ 15 ที่ขึ้นไป เราเป็นพรรคที่ไม่ซื้อเสียง ผู้สนับสนุนพรรคประชาชาติเป็นผู้มีจิตวิญญาณ มีอุดมการณ์ ดังนั้นในห้วงสุดท้ายทั้งผู้สมัครและแกนนำพรรคทุกคนต้องทำงานหนัก เพื่อรักษาฐานะคะแนนเสียง อย่าให้ถูกเจาะจากผู้สมัครและพรรคคู่แข่งครับ“ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น