#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "เดียร์-ขัตติยา สวัสดิผล" อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ขัตติยา สวัสดิผล โดยมีเนื้อหาดังนี้
จากสภาพเศรษฐกิจ ที่นักวิเคราะห์และนักวิชาการวิพากษ์วิจารณ์กันทุกวันนี้ เดียร์ฟังแล้วรู้สึกเป็นห่วงเพราะปัญหาเศรษฐกิจท่ีเกิดขึ้นขณะนี้และอนาคตอันใกล้ล้วนแต่เป็นผลกระทบกับพี่น้องประชาชนแทบทั้งสิ้นโดยเฉพาะปัญหาปากท้องท่ีต้องกินต้องใช้ แต่ท่ีน่าเป็นห่วงมากกว่านั้นก็คือนโยบายหรือมาตราการการช่วยเหลือจากภาครัฐ คงทำได้ยากขึ้นเพราะรัฐบาลกังวลว่านโยบายการช่วยเหลือประชาชนจะเป็นนโยบายประชานิยม หรือเป็นมาตรการท่ีทำไปแล้วเกิดปัญหาภาวะขาดทุนเพราะการห้ามทำนโยบายประชานิยมกลายเป็นวาทกรรมทางการเมืองโจมตีรัฐบาลท่ีมาจากการเลือกตั้ง จนทำให้รัฐบาลปัจจุบันไม่ดำเนินนโยบายใดๆท่ีตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน
โครงการรับจำนำข้าวในสมัยท่านนายกยิ่งลักษณ์เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ ที่ทำให้เห็นว่าการโจมตีทางการเมืองอย่างผิดๆในอดีตกลายเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนในอนาคตได้อย่างไร เช่นการตั้งคำถามหรือตีเหมาตามการยัดเยียดของคนบางกลุ่ม ว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้นขาดทุน เดียร์ว่าเรื่องนี้ต้องคิดต่อค่ะ ว่าถ้าโครงการรัฐที่ดีต้องหมายความว่ามีกำไรแล้ว รัฐบาลก็คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี เบี้ยผู้สูงอายุก็ไม่ควรมี (เพราะจ่ายอย่างเดียวไม่มีกำไร) ถนนก็ไม่ควรสร้าง(เพราะไม่เก็บเงินค่าใช้ทาง) โรงพยาบาลและโรงเรียนของรัฐอาจต้องเก็บค่ารักษาและค่าเทอมราคาเท่าเอกชน (จะได้มีกำไร)
ถ้าคิดแบบนี้ก็เห็นทางตันของการช่วยเหลือประชาชนเพราะโครงการของรัฐต้องคิดแต่เรื่องกำไร-ขาดทุน แนวคิดหรือวาทกรรมทางการเมืองแบบนี้ บิดเบือนความหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการจากรัฐบาล ท่ีอาจหลงลืมไปว่า รัฐบาลมีหน้าที่อะไร งบประมาณมีไว้ใช้พัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หากการช่วยเหลือประชาชนแล้วรัฐบาลต้องมีกำไรจากการใช้งบประมาณ รัฐบาลนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับบริษัทจำกัด
โครงการรับจำนำข้าวก็เช่นเดียวกับนโยบายรัฐอื่นๆที่ไม่ได้มีไว้เพื่อแสวงหากำไรแต่คำนึงถึงเป้าหมายทางเศรษฐกิจและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อราคาตลาดต่ำกว่าราคาที่ชาวนาสามารถดำรงชีพได้จริงๆ รัฐบาลจึงมีโครงการรับจำนำข้าวเพื่อให้ชาวนาได้เอาข้าวทุกเม็ดมาเข้าโครงการรับจำนำตามราคาที่สามารถดำรงชีพได้ "อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์" เมื่อรับข้าวมาจากชาวนา รัฐบาลก็ระบายข้าวออกไปในราคาตลาดที่ต่ำกว่าราคาจำนำ ส่วนต่างที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่การขาดทุน แต่เป็นเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มต้นจากชาวนา สู่การใช้จ่ายในเศรษฐกิจระดับชุนชน และเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจระดับประเทศ
ยิ่งเป็นนโยบายสาธารณะและเป็นสัญญาประชาคมที่รัฐบาลให้ไว้กับประชาชนอย่างโครงการรับจำนำข้าวนี้แล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่าอายมากสำหรับคนที่บิดเบือนความหมายของนโยบายรัฐให้กลายเป็นเรื่องกำไร-ขาดทุน ทำนโยบายเพื่อช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้กลายเป็นเรื่องต้องห้าม บิดเบือนกฎหมายและทำลายหลักการทุกๆอย่างเพียงเพราะต้องการกำจัดศัตรูทางการเมืองของตนเอง
เวลาผ่านไปเดียร์ยิ่งเข้าใจมากขึ้นค่ะ ว่าโครงการรับจำนำข้าวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอย่างไร เมื่อชาวนาไม่มีกลไกที่จะร่วมสร้างสัญญาประชาคมได้เหมือนในอดีต ต้องใช้ชีวิตบนราคาตลาดที่เกิดจากอำนาจต่อรองต่ำเตี้ยเรี่ยดินของชาวนา เศรษฐกิจระดับชุมชนก็ฝืดเคือง แม้แต่ธุรกิจของกลุ่มคนที่เคยจ้องให้ล้มเลิกโครงการรับจำนำข้าว ทุกวันนี้ก็ยังบ่นว่ากำลังซื้อในประเทศถดถอยไปเยอะเลยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น