วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

"ยิ่งลักษณ์" ไต่สวนคดีจำนำข้าว แนะคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน


เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ารับฟังการไต่สวนพยานโจทก์นัดที่ 9 ในคดีจำนำข้าว และได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะผู้แทนรัฐสภายุโรปเข้าพบเมื่อวานนี้ (17 พฤษภาคม) ที่ผ่านมาว่า สืบเนื่องจากที่ทางรัฐสภายุโรปทำหนังสือเชิญมาแต่ตนไม่สามารถไปได้จึงเดินทางมาพบ เบื้องต้นได้หารือกันเรื่องสถานการณ์การเมือง ซึ่งทางรัฐสภายุโรปได้แสดงความห่วงใยเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และอยากเห็นการลงประชามติเป็นไปอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีการถกเถียงเนื้อหาอย่างเต็มที่ และอยากเห็นไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็วส่วนเรื่องคดีโครงการรับจำนำข้าวคณะผู้แทนทราบข่าวเป็นระยะอยู่แล้ว ตนเองก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย เพราะคดียังอยู่ในกระบวนการพิจารณา



เมื่อถามว่าทางรัฐสภายุโรปได้แสดงความต้องการขอเข้ามาสังเกตการณ์ช่วงการทำประชามติหรือไม่? นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องไปหารือกับทางรัฐบาล ซึ่งทางเขาก็มีความห่วงใย และยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง และในฐานะมิตรประเทศที่มีการค้าขายกับอียู เขาก็อยากเห็นประเทศไทยกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ส่วนการลงประชามติรวมถึงการเลือกตั้งก็อยากให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ สำคัญคือทำอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับต่อประเทศที่เป็นประชาธิปไตย นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ระบุว่าไทยไม่ใช่เมืองขึ้นของใคร จึงไม่ต้องสนใจเรื่องสิทธิมนุษยชนจากนานาชาติว่า ไม่ได้มองว่าเราเป็นเมืองขึ้นของใคร แต่ถ้าเราจะอยู่ในหลักสากลที่จะให้นานาประเทศยอมรับ เราก็ต้องทำอะไรที่เป็นมาตรฐานสากลที่ทุกคนยอมรับ เราจะทำอย่างเดียวโดยที่ไม่มองคนอื่นไม่ได้ แน่นอนว่าประเทศไทยพึ่งการส่งออกถึง 60% ดังนั้นเราจำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ และหลายๆ ประเทศที่เขามองเราเรื่องสิทธิมนุษยชน เขาก็กังวลในเรื่องนี้ ถ้าเราสามารถเรียกความเชื่อมั่นได้ ตรงนี้ต่างหากที่จะทำให้เกิดแนวทางที่ต่างชาติยอมรับ การค้าขายต่างๆ การไปมาหาสู่ ความสัมพันธ์กับนานาก็จะดีขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมอง ส่วนสถานการณ์ 2 ปีหลังการทำรัฐประหาร นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ เพราะผ่านมา 2 ปีแล้ว เป็น 2 ปีที่ทุกคนเฝ้าตั้งตารอให้อำนาจกลับคืนสู่ประชาชน ให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว มีสิทธิ เสรีภาพ เราไม่อยากให้ 2 ปีนี้ เป็น 2 ปีที่สูญเปล่า

ส่วนกรณีที่ กกต.เตรียมเชิญทุกพรรคการเมืองร่วมรับฟังร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ นั้น เป็นสิ่งที่ดีที่จะได้เปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมือง และผู้ที่เห็นต่างได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งเรื่องกติกาต่างๆ ก็ควรจะมีความชัดเจน เพื่อให้ความคิดต่างๆได้ถูกถ่ายทอดออกไป และทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ ส่วนปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน จะทำให้กระบวนการปรองดองล่าช้าหรือไม่นั้น มองว่าการปรองดองเป็นส่วนหนึ่ง บรรยากาศการให้ความเสมอภาค ความยุติธรรมกับทุกคน สิทธิ เสรีภาพ ทุกอย่างมีความเกี่ยวข้องกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น