วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

"จาตุรนต์" ห่วงรัฐจำกัดสิทธิ์คนเห็นต่าง เผยเหตุยอมให้ผู้ที่ถูกเรียกรายงานตัวออกนอกประเทศเพราะต่างชาติกดดัน


เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้นักการเมืองไปต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต คสช.แล้ว ยกเว้นบุคคลที่มีคดีความต้องขออนุญาตศาลว่า ไม่ได้ช่วยผ่อนคลายสิทธิเสรีภาพของผู้ที่แสดงความเห็นต่างที่ถูกจำกัด ซึ่งคำสั่งนี้ใช้ส่วนใหญ่กับผู้ที่ให้ไปรายงานตัว ถูกควบคุมตัว ผู้ที่ถูกเรียกมาปรับทัศนคติแล้ว ยังไม่หยุดวิจารณ์ ที่ถูกใช้เป็นเงื่อนไขข้อหนึ่งในการปล่อยตัว และเหตุผลจริงๆ ของเงื่อนไขนี้ เพื่อไม่ให้มีการวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ และคสช.ทำให้หลายร้อยคนที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขไม่กล้าวิจารณ์ เลี่ยงการไม่ได้รับอนุญาตไปต่างประเทศ ซึ่งถือว่ามาตรการนี้ได้ผลในแง่ที่ทำให้มีการวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.น้อยลงมาก

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การไม่อนุญาตแต่ละครั้ง จะใช้วิธีแจ้งอย่างกะทันหัน คือเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเดินทาง หรือเมื่อถึงเวลาเดินทางแล้วก็ยังไม่แจ้ง ทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่พัก ทั้งผู้ที่ขออนุญาต และผู้ที่ต้องเดินทางไปด้วย เรื่องนี้ถือเป็นผลเสีย พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ไม่ฟังเสียงที่แตกต่างเท่าที่ควร บริหารประเทศด้วยความเข้าใจผิด ได้ข้อมูลแบบผิดๆ ได้ยินแต่คำเยินยอ ไม่ค่อยได้ยินความเห็นที่แตกต่างมาตลอด 2 ปี ดังนั้น การบอกว่าการยกเลิกมาตรการนี้ไม่ค่อยได้เป็นประโยชน์เท่าไร นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ ที่คสช.ใช้จัดการอยู่อีก เช่น ระงับธุรกรรมการเงิน ดำเนินคดีต่อคนที่เรียกมาปรับทัศนคติแล้วยังไม่หยุดแสดงความคิดเห็น การดำเนินคดีสามารถใช้ข้อหาได้ง่าย ทั้ง พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และความผิดทางอาญามาตรา 116 เกี่ยวกับความมั่นคง

"นอกจากนั้น การลงประชามติ ก็มีการใช้กฎหมายลงประชามติ ตีความเกินเนื้อหาของกฎหมาย และยังมีการขู่ใช้คำสั่ง คสช.กับผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การยกเลิกการเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่ต้องขออนุญาต คสช.จึงกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย เพราะมีมาตรการอื่นอยู่อีกหลายอย่าง ที่จะจำกัดการแสดงความคิดเห็นของประชาชนผู้ที่มีความเห็นต่าง การยกเลิกตรงนี้ จึงไม่ใช่เรื่องของผู้ที่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ จะต้องขอบคุณอะไร คสช. เพราะที่ผ่านมา คสช.ได้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ป่าเถื่อนมาโดยตลอด" นายจาตุรนต์กล่าว

เมื่อถาม ถ้ายังมีข้อจำกัดในเรื่องอื่นๆ อยู่อีก มองเจตนาการยกเลิกตรงนี้คืออะไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วการที่ คสช.ยกเลิกคำสั่งตรงนี้ มาจากแรงกดดันเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศและเวทีต่างประเทศ อย่างเวทียูพีอาร์ สหประชาชาติ ซึ่งวิจารณ์หนักมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ฐานะประเทศไทยตกต่ำไปมาก คสช.พยายามทำให้ดูดีขึ้น และถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ในขณะที่การจำกัดสิทธิเสรีภาพอื่นๆ ที่คนทั้งโลกนี้ เขาห่วงใยอยู่ ยังไม่ได้รับการปรับปรุงใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า หากข้อจำกัดอื่นๆ ยังมีอยู่ มองสถานการณ์ในวันข้างหน้าอย่างไร โดยเฉพาะกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า จะเป็นการลงประชามติที่ไม่เป็นธรรมอย่างย่ิง ขาดความชอบธรรมอย่างร้ายแรง วันข้างหน้าทำให้เกิดการไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ หรือการปกครองหลังประชามติ และกลายเป็นความขัดแย้งทางสังคมที่หาทางออกได้ยาก ที่สำคัญยังคาดหวังได้ยากว่ามาตรการอื่นๆ จะได้การผ่อนปรนจากหัวหน้า คสช.เพราะไม่มีแนวโน้มยอมรับฟังคำวิจารณ์จากในและต่างประเทศ และเข้าใจว่า คสช.มุ่งร่างรัฐธรรมนูญผ่านให้ได้ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมอีกต่อไปแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น