วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

"หมวดเจี๊ยบ" ข้องใจทหารขวางตรวจโกดังข้าว-หวั่นไม่ยึดหลักนิติธรรม ปัญหาบานปลาย


ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลอย่าเข้าใจผิดว่ามีนักการเมืองพรรคใดไปจ้างม็อบมาเชียร์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งในวันที่ 1 สิงหาคม 2560 และวันที่ 25 สิงหาคม 2560 เพราะของแบบนี้ ถ้าคนจะมาเขาก็มาเองด้วยใจและด้วยแรงศรัทธา ไม่ต้องมีใครไปจ้าง ทั้งนี้ เชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนให้ความสนใจในการพิจารณาคดีของ นางสาวยิ่งลักษณ์ มากเป็นพิเศษ น่าจะเป็นเพราะสงสัยว่านางสาวยิ่งลักษณ์ จะได้รับความยุติธรรมหรือไม่ เพราะมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น มีการถอนเงินออกจากบัญชีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ทั้งๆ ที่ศาลยังไม่ตัดสิน หรือล่าสุดมีเจ้าของโกดังข้าวออกมาเปิดโปงว่า หลังการยึดอำนาจของ คสช. เจ้าของโกดังข้าวถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปรมยาข้าว ทั้ง ๆ ที่ คนขัดขวางก็น่าจะรู้ว่าการทำเช่นนี้ อาจทำให้ข้าวเสียหายได้ แต่กลับห้ามไม่ให้เข้าไปรมยา นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดในโกดัง ก็ถูกถอดออกไปอีกด้วย ทำให้ไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับข้าวในโกดัง หลังจากนั้นคณะกรรมการตรวจสอบข้าวที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งขึ้นมาใหม่ ก็ลงความเห็นว่าข้าวในโกดัง ดังกล่าว เป็นข้าวคุณภาพต่ำ เกรดซี จะเอาไปขายเป็นอาหารสัตว์ ทั้งๆ ที่ ข้าวก็ยังไม่ได้เน่า มันยังเป็นข้าวดีๆ แต่รัฐก็ดันทุรังจะขายในราคาข้าวเน่าให้ได้ ทั้งๆ ที่ จะทำให้รัฐเสียประโยชน์ก็ยังจะทำ แต่พอเจ้าของโกดังออกมาเปิดโปงให้สังคมรู้ความจริง เพื่อขอความเป็นธรรม กลับถูกรัฐบาลดิสเครดิตว่ามีเบื้องหลังทางการเมือง ทั้งๆ ที่ ความจริงแล้ว เจ้าของโกดังย่อมต้องปกป้องตัวเองอยู่แล้ว เพราะหากเกิดเหตุการณ์ข้าวเน่า เขาต้องร่วมจ่ายค่าเสียหายด้วย แล้วใครจะยอมรับผิดชอบ ในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ ดังนั้น เขาย่อมต้องพูดความจริงเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สังคม สงสัยว่ามีการแกล้งวางยา เอาข้าวดีไปขายเป็นข้าวเน่า เพื่อโยนบาปให้นางสาวยิ่งลักษณ์ เพื่อเป็นข้ออ้างยึดทรัพย์ เพื่อชำระค่าเสียหายในคดีรับจำนำข้าว ใช่หรือไม่? ที่สำคัญพอมีนักข่าวเดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่โกดังข้าว ก็ถูกเจ้าหน้าที่ทหารคุกคามห้ามทำข่าว ยิ่งทำให้คนสงสัยเข้าไปอีกว่ามีอะไรต้องปกปิดอย่างนั้นหรือ? สะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นต่อความยุติธรรมในสังคมกำลังสั่นคลอน เหมือนคนป่วยที่อาการน่าเป็นห่วง หากผู้มีอำนาจตัดสินใจผิดพลาด ไม่ยึดหลักนิติธรรม อาจทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น