วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

"ดร.ปิติพงศ์" แนะรัฐ ต้องเยียวยาทุกคนที่ถูกล็อกดาวน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เผยแพร่ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ https://twitter.com/dr_pitipong โดยมีเนื้อหาดังนี้

ต้องเยียวยาทุกคนที่ถูกล็อกดาวน์

ผ่านไปครบสัปดาห์ที่ 2 นับจาก 120 วันที่รัฐบาลจะประกาศเปิดประเทศ ขณะนี้ จำนวนยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ 14 วัน 

ผมขอเสนอแนะต่อรัฐบาลว่า ควรนำงบประมาณซื้อวัคซีนกระจายให้กับประชาชนทุกคน มากกว่าที่รัฐบาลจะผลักภาระให้กับประชาชนเป็นคนไปเสียค่าวัคซีน รัฐบาลควรจะต้องหาทำทุกวิถีทางที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของสังคมให้ได้ และรัฐบาลควรตั้งวอร์รูมทำงาน 24 ชั่วโมง ทำงานแข่งกับเวลา เพราะเวลาจะเป็นความเสียหายที่เกิดจากความเดือดร้อนของประชาชนจากการไม่ได้วัคซีน รัฐบาลต้องประเมินสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง ไม่ใช่รายวัน ไม่ใช่การนั่งประชุมแบบปกติ

การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ควรจะแจกจ่ายวัคซีนจังหวัดละ 1 ล้านโดส เป็นอย่างน้อย โดยแจกให้กับ “ส่วนหน้า” ก่อน ทั้งแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข กระจายสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ ไม่ต้องให้พวกเขาเหล่านั้นไปนั่งลงทะเบียน จะให้ลงทะเบียนทำไม? มันไม่ใช่เป็นเรื่องการชิงโชค เพราะทุกคนต้องฉีดวัคซีน ในขณะเดียวกันรัฐบาลต้องพึงสังวรณ์ไว้ว่า “ต้องเยียวยาคนที่ถูกล็อกดาวน์” 

ผมย้ำเพราะคนไม่มีกำลัง คนหมดความหวัง คนสิ้นความหวัง คนไร้ทุกอย่าง รัฐบาลต้องสร้างความหวังดึงให้เขากลับเข้ามา ผมไม่อยากเห็นภาพเหมือนอินเดียที่คนนอนตายกันเกลื่อน คนนอนรอความหวังจากโรงพยาบาลต่างๆ และท้ายที่สุด สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือการนำร่างผู้เสียชีวิตเข้าไปฌาปนกิจโดยที่ไม่มีญาติ มันทำให้สังคมไม่เป็นสังคม เป็นสังคมหดหู่ ตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่ใคร แต่เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ 

ไม่ใช่เฉพาะเรื่องป้องกันอย่างเดียว ไม่ใช่เรื่องวัคซีนอย่างเดียว ตอนนี้มันเลยขั้นที่จะพูดเรื่องวัคซีนอย่างเดียวแล้ว มันเลยไปหมดแล้ว รัฐบาลต้องเอาผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทางด้าน Crisis management เพราะการบริหารแบบระบบราชการรวมศูนย์ในปัจจุบันก็ล้มเหลวเต็มที่แล้ว ณ วันนี้ระบบราชการไทยพิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่า ระบบรัฐราชการไทย โดยเฉพาะระบบสาธารณสุขประเทศไทยกำลังถึงจุดสิ้นสุด แล้วกำลังจะเป็นโซ่ที่ไปซัดทอดถึงระบบอื่นๆนอกเหนือจากระบบสาธารณสุข เมื่อสาธารณสุขทำไม่ได้ วิกฤตอื่นๆตามมา อาทิ ปัญหาอาชญากรรม ประชาชนจะรับไม่ได้หากต้องอยู่ในสภาวะที่เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

การบริหารในเชิงวิกฤตรัฐบาลต้องเร่งแก้ครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น