วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2565

"ประชาชาติ" ห่วงน้ำท่วมพื้นที่เกษตร แนะรัฐเร่งช่วยเกษตรกร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี บุญจรัส รองโฆษกพรรคประชาชาติ ในฐานะ ที่ปรึกษากรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม และ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย เผยแพร่ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

จากที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีการระบายน้ำจากเขื่อน ส่งผลให้จังหวัดลุ่มน้ำป่าสักและลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมาทำให้ยังมีพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง รวม 25 จังหวัด รวม 123 อำเภอ 661 ตำบล 4,111 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 129,595 ครัวเรือน แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่

ล่าสุด ผมได้รับรายงาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ว่า จังหวัดอ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย และอำเภอเมืองอ่างทอง รวม 24 ตำบล 102 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,238 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

สิ่งที่ผมกังวล และเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นภาคเกษตรกรรม ทั้งข้าว พืชไร่ พืชผัก โค กระบือ สุกร แพะแกะ สัตว์ปีก ฯลฯ ซึ่งผลผลิตข้าว ประเมินว่ามีโอกาสเสียหายมาก เนื่องจากข้าวจำนวนมากปลูกในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากนาข้าวส่วนใหญ่อยู่ในที่ลุ่ม ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมขัง มาตรการที่ภาครัฐควรช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบควรครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ ประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs จึงต้องมีการติดตามผลกระทบอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป

สำหรับประชาชนชาวอ่างทองในพื้นที่เสี่ยง ขอให้ติดตามประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น