วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

"เพื่อไทย" เตือนกระทรวงการคลังอย่าส่งสัญญาณสับสน จะหมดความน่าเชื่อถือ


นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังออกมาตอบโต้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาเตือนด้วยความหวังดีและเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจช่วงปลายปีจะถดถอย ประชาชนจะลำบากมาก โดยอยากให้กระทรวงการคลังกลับไปดูคำสัมภาษณ์ของ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ให้ข่าวในวันที่ 22 กันยายน 2559 และนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ให้ข่าวในวันที่ 17 ตุลาคม 2559 และล่าสุดเมื่อวานนี้ (25 ตุลาคม 2559) นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค. กระทรวงการคลัง ก็ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจปลายปีนี้จะถดถอยเช่นเดียวกัน ซึ่งหากถามประชาชนส่วนใหญ่ก็เชื่อได้ว่าจะได้คำตอบถึงความลำบากทางเศรษฐกิจอย่างมาก โดยหากพิจารณาตามความเป็นจริง เกษตรกรเดือดร้อนกันมาก เพราะราคาข้าวตกต่ำมากสุดในรอบหลายปี และราคาสินค้าเกษตรอื่นๆก็ย่ำแย่ รายได้เกษตรกรไม่ได้เพิ่มขึ้นเหมือนที่กระทรวงการคลังบอก โดยเฉพาะชาวนาได้รับความเดือดร้อนกันมาก นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงอย่างมาก หลังจากมีการจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญ และยังไม่ฟื้น ซึ่งสามารถเช็คอัตราการเข้าพักของโรงแรมต่างๆได้ การใช้จ่ายภาครัฐแม้จะอัดฉีดเข้าไปมากหลายแสนล้าน แต่ไม่รู้ไปตกอยู่ในมือใคร เพราะไม่ได้เข้าไปถึงประชาชนส่วนใหญ่ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกเลยว่าดีขึ้น การลงทุนจากต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำมาก ครึ่งปีแรกหายไปเกือบ 100% เหลือแค่หมื่นล้านบาท ครึ่งปีหลังก็ยังไม่ฟื้น การลงทุนของนักลงทุนในประเทศก็เหลือน้อย หนีไปลงทุนในต่างประเทศกันหมด แม้จะมีการขอส่งเสริมการลงทุนบ้าง แต่การลงทุนจริงกลับมีน้อยหรือแทบไม่มีเลย ดังนั้น จึงอยากให้กระทรวงการคลังได้ปรึกษากันในหน่วยงานของตัวเองกันก่อนที่จะมาแถลงแก้ตัว และช่วยไปชี้แจงโฆษกหลายๆคน ที่คงจะมีความรู้ทางเศรษฐกิจไม่มากนัก เพราะหากกระทรวงการคลังเองยังสับสน ความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนจะยิ่งหดหาย เศรษฐกิจจะยิ่งทรุดหนักกว่าเดิม เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ และที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าใครที่เป็นคนพูดความจริง ซึ่งพรรคเพื่อไทยอยากเห็นเศรษฐกิจที่ดีเหมือนสมัยที่พรรคไทยรักไทยและพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น