วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2561

"ชวลิต" สับ 4 ปี คสช. ข่าวทุจริตครึกโครม-ไร้ปฏิรูป-ไม่ปรองดอง


นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นกรณีครบ 4 ปี คสช.และแม่น้ำห้าสาย และกรณี สนช. ล้มการสรรหา กสทช. โดยระบุว่า หนีไม่พ้นข้อครหาว่าต้องการคุมสื่อเบ็ดเสร็จ 


นายชวลิต วิชยสุทธิ์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า จะขอยกตัวอย่างสำคัญ ๆ ที่ คสช. และแม่น้ำห้าสายดำเนินการในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
       
1. การล้มร่าง รธน.ฉบับที่นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ เป็นประธาน กรธ.
       
2. เลื่อนโรดแมพการเลือกตั้งซ้ำซาก ทั้งที่รับปากกับประชาชนและชาวโลก ต่างกรรมต่างวาระ
       
3. สนช.ล้มการสรรหา กกต.
       
4. พรป. พรรคการเมือง ประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้แล้ว แต่มีคำสั่ง คสช.อยู่เหนือ พรป. ทำให้พรรคการเมืองไม่อาจดำเนินการตามกฎหมายที่รัฐบาลและแม่น้ำห้าสายออกมาเอง
     
5. คสช.และแม่น้ำห้าสายโฆษณาชวนเชื่อตลอดมาว่าจะปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมือง แต่การที่รัฐบาลใช้พลังดูดพรรคการเมือง นักการเมือง โดยตั้งให้เป็นที่ปรึกษา และผู้ช่วยรัฐมนตรี สอดคล้องกับข่าวการตั้งพรรคการเมืองโดยรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลจะเป็นทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค โดยอาศัยทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ประชุมหารือ ทั้งถูกวิพากษ์ว่ามีการหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น เป็นการปฏิรูปการเมืองอย่างไร?

6. โดยเฉพาะการตรวจสอบที่เป็นสองมาตรฐาน ขอยกตัวอย่างเพียงเรื่องเดียว คือ การตรวจสอบการทุจริตในการขุดลอกคู คลองทั่วประเทศของ อผศ. ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมาก มีข่าวการทุจริตครึกโครมในการจ้างช่วง 3 - 4 ช่วง เหตุใด ครม. ยกเลิกสิทธิพิเศษที่ให้กับ อผศ. ในการขุดลอกคู คลอง ทั้งไม่เคยตอบข้อร้องเรียนต่อผู้ร้องให้ทราบความคืบหน้าแต่ประการใด
       
7. ประการสำคัญที่สุด คือ การสร้างความปรองดองในบ้านเมือง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ แทนที่รัฐบาลจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วยการวางตนเป็นกลาง เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง แล้วดำเนินการสร้างความปรองดองซึ่งมีหลายภาคส่วนเคยศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองไว้ นอกจากไม่ให้ความสำคัญกับการสร้างปรองดองอย่างแท้จริง ยังไปตีท้ายครัวของพรรคการเมืองอื่น ด้วยการที่ตนเองและคณะไปตีกอล์ฟได้ แต่พอสมาชิกพรรคการเมืองจะไปบ้างในสถานที่เดียวกัน ก็ปรามว่าระวังจะผิดกฎหมาย พฤติการณ์ที่ไม่มีน้ำใจอย่างนี้หรือจะเอื้อต่อการเชิญชวนให้พรรคการเมืองไปร่วมเสวนาด้วย เพราะท่านไม่ได้วางตนเป็นกลาง ไม่ได้วางตนเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่จะบริหารจัดการเลือกตั้งให้เป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชนและชาวโลก
       
นายชวลิต กล่าวในที่สุดว่า ที่ยกตัวอย่างมานั้น เป็นเพียงบางส่วน ซึ่งตนก็จนใจไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมยังทนนั่งอยู่ในอำนาจอยู่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น