วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561

"วัฒนา" โต้เดือดดีเอสไอ คดีกรุงไทยอย่าสองมาตรฐาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ดีเอสไอว่างัย

สืบเนื่องจากที่นายพานทองแท้หรือโอ๊คได้เผยแพร่ภาพเช็คที่สั่งจ่ายเงินให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จำนวน 250,000 บาท และพลเรือโทพะจุณณ์ ตามประทีป (ยศขณะนั้น) จำนวน 100,000 บาท ต่อมาพลโทพิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิทของพลเอกเปรมออกมายอมรับว่าเช็คจำนวน 250,000 บาท ที่โอ๊คกล่าวถึงนั้น เป็นเช็คที่นายวิชัยจ่ายเพื่อการกุศล พลเอกเปรมจึงได้สลักหลังเช็คนำเข้าบัญชีมูลนิธิโดยไม่ได้นำไปใช้เพื่อการส่วนตัว

ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้คือนายวิชัย กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารในเครือกฤษดามหานครซึ่งถูกศาลพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิดกรณีเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ได้สั่งจ่ายเช็คให้กับพลเอกเปรมและพลเรือโทพะจุณณ์ โดยเช็คทั้งสองฉบับสั่งจ่ายจากบัญชีเดียวกันกับที่จ่ายให้กับโอ๊คเพื่อลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน แต่ในที่สุดไม่ได้ทำโอ๊คจึงได้คืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายวิชัยไป ประเด็นของโอ๊คคือเหตุใดดีเอสไอจึงดำเนินคดีกับโอ๊คเพียงคนเดียว แต่ละเว้นที่จะดำเนินคดีกับพลเอกเปรมและพลเรือโทพะจุณณ์ทั้งที่ได้รับเช็คจากนายวิชัยเหมือนกัน

ส่วนที่พลโทพิศณุแถลงว่าเป็นการบริจาคเพื่อการกุศลนั้น หาได้เป็นข้อยกเว้นความผิดอาญาฐานฟอกเงินไม่ เพราะการนำเช็คเข้าบัญชีคือการรับโอนหรือเปลี่ยนสภาพครบองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงินแล้ว ดังเช่นที่สหกรณ์คลองจั่นได้บริจาคเงินให้กับวัดพระธรรมกาย ที่ทั้งผู้บริจาคและผู้รับบริจาคต่างถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงินเช่นกัน ข้อยกเว้นที่จะทำให้ผู้รับเช็คไม่ตกเป็นผู้กระทำความผิดคือไม่ทราบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งเป็นข้อต่อสู้ของโอ๊คต่อดีเอสไอ 

ท้ายสุดอธิบดีดีเอสไอออกมาแถลงว่าการสั่งจ่ายเช็ครายที่มีมูลหนี้ต่อกันจริงๆ เช่น ชำระเป็นค่าที่ดิน ดีเอสไอก็ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหานั้น ช่วยตอบผมหน่อยว่าการบริจาคเงิน 250,000 บาท หรือการจ่ายเช็คให้พลเรือโทพะจุณณ์ 100,000 บาท มีมูลหนี้ต่อกันอย่างไร โดยเฉพาะการบริจาคที่กฎหมายถือเป็นการให้ซึ่งจะสมบูรณ์ได้ด้วยการส่งมอบตาม ปพพ. มาตรา 523 ก่อนการบริจาคจึงไม่อาจมีมูลหนี้ใดๆ ต่อกันได้เลย แก้ตัวให้ดีนะครับทั้งสังคมกำลังจับตา อย่าสองมาตรฐานจนเคยตัว

วัฒนา เมืองสุข

3 เมษายน 2561

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น