วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

“เพื่อไทย” แนะรัฐ ทบทวนตั้ง “นิพนธ์” กรรมการนโยบายฯข้าว ต้องเป็นกลาง


#TV24 วันนี้ (7 กรกฎาคม 2558) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ให้กำกับ ควบคุม ดูแล บริหารจัดการข้าวให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ ดังนี้

1.ให้มีการตรวจสอบว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพและข้าวคุณภาพต่ำจำนวน 5.8 ล้านตัน ว่ามีอยู่ ณ ที่ใด และโกดัง โรงสี เซอร์เวย์เยอร์ ในฐานะผู้มีส่วนได้เสียในอันที่จะต้องรับผิดตามสัญญาที่จัดเก็บข้าวในสต็อกของรัฐบาล ให้เป็นที่ยุติก่อนนำข้าวออกระบาย และหากประสงค์ให้มีการระบายข้าว ขอให้ใช้วิธีการระบายข้าวเป็นการทั่วไป มิใช่ใช้วิธีการพิเศษ ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสียหายที่เป็นผลต่างราคาข้าวกับราคาขายที่ผู้มีส่วนได้เสียดังกล่าวต้องรับผิดชอบต่อรัฐ ทั้งนี้เพื่อให้การระบายข้าวและการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้มีส่วนได้เสียดังกล่าว เป็นไปเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดของทางราชการอีกทั้งให้มีการแสดงผลการตรวจสอบข้าวจากหน่วยงานและคณะบุคคลที่รับผิดชอบต่อข้าพเจ้าและสาธารณะตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของส่วนราชการ พ.ศ. 2540

2. ให้มีการเร่งรัด ระบายข้าวที่เหลืออยู่ในสต็อกของรัฐบาลจำนวนประมาณ 15 ล้านตันเศษ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการเก็บรักษาข้าวในสต็อกของรัฐบาลให้เกิดประสิทธิผลและราคาที่จำหน่ายด้วย รวมถึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของทางราชการด้วย

3. ให้ทบทวนการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว นายนิพนธ์ พัวพงศกร เพื่อให้เกิดความเป็นกลางทางการเมือง และเพื่อให้การบริหารจัดการข้าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของทางราชการ



“เพื่อไทย” แนะรัฐ ทบทวนตั้ง “นิพนธ์” ย้ำ กรรมการนโยบายฯข้าว ต้องมีความเป็นกลาง#TV24 วันนี้ (7 กรกฎาคม 2558) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษารองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ให้กำกับ ควบคุม ดูแล บริหารจัดการข้าวให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ ดังนี้1.ให้มีการตรวจสอบว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพและข้าวคุณภาพต่ำจำนวน 5.8 ล้านตัน ว่ามีอยู่ ณ ที่ใด และโกดัง โรงสี เซอร์เวย์เยอร์ ในฐานะผู้มีส่วนได้เสียในอันที่จะต้องรับผิดตามสัญญาที่จัดเก็บข้าวในสต็อกของรัฐบาล ให้เป็นที่ยุติก่อนนำข้าวออกระบาย และหากประสงค์ให้มีการระบายข้าว ขอให้ใช้วิธีการระบายข้าวเป็นการทั่วไป มิใช่ใช้วิธีการพิเศษ ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสียหายที่เป็นผลต่างราคาข้าวกับราคาขายที่ผู้มีส่วนได้เสียดังกล่าวต้องรับผิดชอบต่อรัฐ ทั้งนี้เพื่อให้การระบายข้าวและการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้มีส่วนได้เสียดังกล่าว เป็นไปเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดของทางราชการอีกทั้งให้มีการแสดงผลการตรวจสอบข้าวจากหน่วยงานและคณะบุคคลที่รับผิดชอบต่อข้าพเจ้าและสาธารณะตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของส่วนราชการ พ.ศ. 25402. ให้มีการเร่งรัด ระบายข้าวที่เหลืออยู่ในสต็อกของรัฐบาลจำนวนประมาณ 15 ล้านตันเศษ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการเก็บรักษาข้าวในสต็อกของรัฐบาลให้เกิดประสิทธิผลและราคาที่จำหน่ายด้วย รวมถึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของทางราชการด้วย3. ให้ทบทวนการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว นายนิพนธ์ พัวพงศกร เพื่อให้เกิดความเป็นกลางทางการเมือง และเพื่อให้การบริหารจัดการข้าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของทางราชการ
Posted by TV24 สถานีประชาชน on 6 กรกฎาคม 2015


ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า “ผมมาในฐานะตัวแทนพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยรู้สึกห่วงใยกับข่าวที่บอกว่าจะมีการระบายข้าวเสื่อมสภาพ กับข้าวด้อยคุณภาพจำนวน 5.8 ล้านตัน โดยบอกว่าจะเอาข้าว 5.8 ล้านตันไปเร่งระบายเพื่อเอาไปทำเอทานอล วันนี้เราก็เลยมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว 3 ข้อด้วยกัน ข้อแรก ก่อนที่ท่านจะระบายข้าวที่อ้างว่าเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ ข้าวคุณภาพต่ำ 5.8 ล้านตัน ใครเป็นคนบอกท่าน แล้วได้มีการตรวจสอบหรือยัง 5.8 ล้านตัน ที่ว่าเสื่อมคุณภาพด้อยคุณภาพมันอยู่ที่ใด โกดังเก็บข้าว โรงสี เซอร์เวย์เยอร์ ที่เขาเกี่ยวเนื่องกับการให้สัญญาว่าจะรับผิดชอบข้าวของรัฐบาล เขามีหนังสือรับผิดหรือยัง และเขารับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าเสียหายต่อการทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพไปแล้วหรือยัง ดังนั้น เมื่อท่านยังไม่สรุปเลยว่ามูลค่าความเสียหายที่มันเกิดขึ้น โกดัง โรงสี เซอร์เวย์เยอร์ เขารับผิดชอบหรือยัง ท่านก็ยังไม่ควรไปเร่งระบายข้าว รวมความถึงว่าถ้ามันมีจริงต้องเปิดเผยกับประชาชนว่าที่ว่าข้าวเน่า ข้าวด้อยคุณภาพ เสื่อมคุณภาพอยู่ที่ไหน ภาคเหนือจำนวนเท่าไหร่ ภาคอีสาน ภาคกลาง หรือพื้นที่ใดที่พบว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพ หรือข้าวด้อยคุณภาพ และที่สำคัญ เราไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว เร่งรีบในการด่วนสรุปว่ามันทำอย่างอื่นไม่ได้ มันต้องเอาไปทำเอทานอลได้อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วมันสามารถไปทำอุตสาหกรรมแป้ง อุตสาหกรรมอาหาร เอาไปทำเส้นก๋วยเตี๋ยว หรือแม้แต่อาหารสัตว์ ก็ยังได้ราคาที่ดีกว่า การเอาไปทำเอทานอล”

“เพราะฉะนั้นวันนี้เรามายื่นหนังสือเพื่อที่ให้ท่านได้ทบทวนว่าการเอาไปทำเอทานอลนั้น มันทำให้ผลประโยชน์ที่จะเข้าสู่รัฐน้อยลงไปมาก และที่สำคัญถ้ามันเน่าจริงๆ ต้องเร่งระบายจริงๆ เราขอเรียกร้องว่าให้ทำการระบายโดยวิธีการปกติทั่วไป เราไม่อยากเห็นการระบายแบบมีธงกันไว้ หรือการระบายข้าวแบบพิเศษ ซึ่งประชาชนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าอาจจะมีการฮั้ว หรือมีการตั้งธงกันไว้ ทำไมถึงรีบร้อนด่วนสรุป ประการต่อมา เรื่องที่ตอนนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนปลูกข้าวแล้ว แต่ว่าไม่มีน้ำทำนา ฆ่าตัวตาย หรือแย่งกันทำนาเป็นสงครามน้ำ แย่งน้ำกัน แน่นอนข้าวในฤดูการผลิตใหม่จะไม่มีเข้ามา หรือเข้ามาน้อย แต่ว่าข้าวที่รัฐบาลมีอยู่ในสต๊อกจำนวน 15 ล้านตัน คำถามของเราก็คือว่า ทำไมท่านไม่รีบขาย หรือศักยภาพของทีมขายของท่าน หรือกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการขายไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีศักยภาพพอ ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องให้เร่งระบายข้าว จำนวน 15 ล้านตันนี้ออกไปให้โดยเร็วที่สุด ประการที่สาม คุณนิพนธ์ พัวพงศกร ที่มีการตั้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ก็รู้อยู่ว่าบุคคลคนนี้มีทัศนคติ มีความเชื่อต่อกลุ่มการเมืองตรงกันข้ามอย่างไร งานวิจัยหลายงานตั้งแต่สมัยอยู่ TDRI หรือการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อตลอดมา ก็ได้รู้ว่า คุณนิพนธ์ มีจุดยืน มีความคิดอย่างไร ดังนั้น เราก็เรียกร้องให้มีการทบทวนเรื่องของการแต่งตั้งดังกล่าว เพราะว่าท่านได้บุคคลที่น่าจะไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง แล้วก็ได้บุคคลที่มีทัศนคติอันเป็นลบต่อรัฐบาลชุดที่ผ่านมา นั้นก็เป็น 3 เรื่องที่เรานำมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว” นายอนุสรณ์ กล่าว














1 ความคิดเห็น: