วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

"หมวดเจี๊ยบ" แนะ "ประยุทธ์" หยุดก้าวก่ายประธานสภาฯ "เนติวิทย์"


ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงลืมว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี เหตุใดจึงไปวุ่นวายก้าวก่ายกับการเลือกตั้งประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเรื่องของการใช้สิทธิ และเสรีภาพในการแสดงออกของน้องๆนิสิต เพื่อเลือกตัวแทนภายในสถาบันการศึกษาของพวกเขา ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ และไม่ใช่เรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเข้าไปแทรกแซง ที่สำคัญ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดจาชี้นำให้เลือกประธานสภาฯคนใหม่ แทนน้องเนติวิทย์นั้น ก็เป็นการแสดงตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะอาจถูกมองว่าเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมล้มการเลือกตั้ง และค่านิยมการไม่เคารพกติกาให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นความคิดที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย อันที่จริง พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่ในฐานะที่จะกล่าวโจมตีน้องเนติวิทย์ได้เลย เพราะน้องเนติวิทย์ มีเส้นทางเข้าสู่ตำแหน่งที่สง่างามกว่า พล.อ.ประยุทธ์ มากนัก เพราะอย่างน้อย น้องเนติวิทย์ก็มีความกล้าหาญที่จะพิสูจน์ตัวเองในสนามเลือกตั้งตามกติกา และได้รับการยอมรับจากเสียงส่วนใหญ่ในประชาคมนิสิตจุฬาฯ แม้ว่าตำแหน่งจะไม่ใหญ่โตเท่านายกรัฐมนตรี แต่ก็พูดได้อย่างเต็มปากว่า มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้ยึดอำนาจใครมา ไม่เห็นจะน่าอับอายตรงไหน พล.อ.ประยุทธ์ต่างหากที่ได้ตำแหน่งมาจากการยึดอำนาจรัฐประหาร ไม่ได้เกิดจากการยินยอมพร้อมใจของประชาชน ซึ่งหากมองจากแง่มุมของความเป็นประชาธิปไตย ต้องถือว่า น้องเนติวิทย์มีศักดิ์ศรีเหนือชั้นกว่า พล.อ.ประยุทธ์มากนัก

นอกจากนี้ คำพูดต่างๆของ พล.อ.ประยุทธ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานสภานิสิตจุฬาฯ ยังสะท้อนให้เห็นนิสัยลึกๆของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่นิยมระบอบประชาธิปไตย แต่คงจะนิยมเผด็จการ จึงชอบพูดจาชี้นำให้ประชาชนเลือกผู้แทนแบบโน้นแบบนี้ โดยใช้ค่านิยมของตัวเองตัดสิน ทั้งๆที่ควรปล่อยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องมาคิดแทน แต่ทุกวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์กลับพยายามผูกขาดความคิดของประชาชนในทุกระดับชั้น ล่าสุดก็ลามปามเข้ามาในสถานศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงและอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากผู้มีอำนาจประสบความสำเร็จในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองเสรีภาพสื่อฯ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว คือ กฎหมายควบคุมการเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนและประชาชน ซึ่งจะทำให้รัฐมีช่องทางและมีเครื่องมือในการครอบงำความคิดของประชาชนคนไทยได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น