#TV24 ผู้สื่อข่าวรายว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมใหญ่ครั้งที่ 1 ของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ว่า "จะขอมติพรรคเพื่อรับรองข้อบังคับพรรค ส่วนการเลือกกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงหัวหน้าพรรคนั้น จะสรุปวันที่ 28 ตุลาคมนี้อีกครั้ง โดยขณะนี้ยังมีหลายชื่อที่ได้รับการเสนอมา ทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวมถึงบุคคลอื่น ซึ่งทุกคนก็มีสิทธิเสนอชื่อมาได้จนถึงวันตัดสิน"
พร้อมทั้งยืนยันว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ไม่ได้ผูกขาดว่าต้องเป็นคนในตระกูล "ชินวัตร" แต่ทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรค ซึ่งสมาชิกพรรคทุกคนมีสิทธิเป็นหัวหน้าพรรคได้ รวมถึงการที่พรรคจะเสนอชื่อ 3 รายชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนด
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า "พรรคมั่นใจว่าจะเสนอชื่อได้ทั้ง 3 รายชื่อแน่นอน แต่ยังไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่? จึงยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาหารือเรื่อง 3 รายชื่อดังกล่าว เพราะเป็นช่วงที่จะทำให้พรรคถูกต้องสมบูรณ์ และสามารถทำหน้าที่ส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้ก่อน"
ส่วนกระแสข่าวว่า นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองหัวหน้าพรรค ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้าพรรคด้วยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า "ส่วนตัวเป็นพี่น้องกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ยังไม่ได้มีการอาสาตัวเข้ามาอย่างชัดเจน ซึ่งจากวันนี้ไปจะอยู่ในกระบวนการ หากต้องการเสนอตนเอง หรือไม่ว่าใครในพรรคเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ สำหรับข่าวที่ระบุว่านายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ และนายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ อดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาจะมาสมัครเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้อ่านพบในหนังสือพิมพ์เมื่อเช้านี้ หากมาจริงก็ยินดีต้อนรับ ถ้ามีการพูดคุยกันแล้วอุดมการณ์ตรงกัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พบกัน ขณะที่ข่าวที่ว่านายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีต ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ได้รับเลือกให้ไปเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ซึ่งเป็นพรรคสำรองของพรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรม ยืนยันว่า เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของนายสมพงษ์ และพรรคเพื่อธรรมก็ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องดี เพราะถือเป็นอีกพรรคการเมืองที่ตั้งมานานแล้ว พร้อมๆ กับพรรคใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไป"
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังได้เรียกร้องให้กระบวนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เป็นกระบวนการเลือกตั้งที่เสรีเป็นธรรม การที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคมาแข่งกันนั้นไม่มีปัญหา แต่ขอให้เป็นการเข้ามาอยู่ในกระบวนการที่แข่งขันกันอย่างเป็นธรรม ให้โอกาสทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน และรัฐบาลอย่าใช้ความได้เปรียบของตัวเอง เพราะขณะนี้มีการกล่าวกันว่าบางพรรคใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ทำการพรรค ซึ่งต้องชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดเจนด้วย
"รัฐบาลเองอย่าใช้ความได้เปรียบของตนเอง โดยเวลานี้ทุกคนต้องหาสถานที่ของตนเอง บางส่วนก็มีการกล่าวหาว่าพรรคบางพรรคใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ทำการพรรค ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วต้องชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง อย่าให้รู้สึกว่าทำเนียบรัฐบาลกลายเป็นพื้นที่นำมาใช้ประโยชน์เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์พรรคใดพรรคหนึ่ง" นายภูมิธรรม กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น