วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

"อนุสรณ์" ติงรัฐต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้อำนาจฟุ่มเฟือย


ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ว่า นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า การต่อเวลาพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) และคงเคอร์ฟิวเอาไว้ เป็นการกระชับอำนาจ ใช้อำนาจฟุ่มเฟือย ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ การแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 มีความผิดพลาด หลงทางหลายแนวทาง หลายเรื่องไม่ควรทำกลับทำ เรื่องควรทำกลับไม่ทำ ทุกวันนี้เลยเถียงว่าจะปรับเคอร์ฟิวอย่างไร? จะขยับเข้าหรือขยับออกไป ประชาชนมากกว่า 50 จังหวัด อยู่ในพื้นที่ปลอดเชื้อ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในภาครวมส่วนกลางประเทศ บางวันมีผู้ติดเชื้อ 2-3 ราย บางวันไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่รัฐบาลเอาสถิตินี้ มาขังคนไทย

รัฐบาลพยายามทำเพื่อหลบหลังโควิด เพื่อปกปิดการบริหารงานที่ล้มเหลว ลงทุนเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจอย่างเต็มที่ ได้กระชับอำนาจ รวมทั้งมาตรการที่ออกมาสับสน เช่น โรงเรียนเปิดไม่ได้ แต่ห้างเปิดได้ ทั้งที่การไปห้างคนมากกว่า และการให้ประชาชนแสกนข้อมูลก่อนเข้าห้าง เป็นการล้วงล้วงข้อมูลประชาชน เป็นการละเมิดสิทธิประชาชนโดยการเข้าถึงข้อมูลประชาชนหรือไม่ การยืด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และคงประกาศเคอร์ฟิว รัฐบาลต้องเข้าใจว่า เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก

"วันนี้เราไม่รู้ว่า การคลายล็อกมีกี่เฟส นักวิชาการออกมาบอกว่า วิกฤติโควิดสร้างความเสียหายหนักกว่าวิกฤติช่วงต้มยำกุ้ง วันนี้รัฐบาลเผชิญมรสุม 1.มรสุมวิกฤติโควิด 2.มรสุมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ3.วิกฤติการเมืองทั้งในและนอกพรรครัฐบาล รัฐบาลต้องสร้างสมดุลสุขภาพ เสรีภาพ และเศรษฐกิจให้ได้ ไม่ใช่เอาทุกปัญหามากลบ หลบหลังโควิด แล้วอธิบายว่า ที่แก้ไม่ได้เพราะโควิด ปัญหาการควบคุมแพร่ระบาดไวรัสโควิด ที่สำเร็จ ไม่ได้สำเร็จเพราะพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือเคอร์ฟิว แต่มาจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชน หากประชาชนกระชับอำนาจฟุ่มเฟือยที่สุด อาจเกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับ จนรัฐบาลไม่อาจรับมือได้" โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น