วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ฝ่ายค้านเผย ประชาชนให้รัฐติดลบ ชี้แจงงบฯ '64


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต16 คลองสามวา กล่าวถึงการอภิปรายงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมาว่า ถ้าประชาชนสังเกตุการลงมติเมื่อคืนวันศุกร์ จะเห็นว่าเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการทำงานของพรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะการอภิปรายเตือนสติ ทักท้วง ไม่ให้นายกรัฐมนตรี นำพาประเทศเข้าสู่กลียุคได้ เพราะการชี้แจงของครม.ตลอด 3 วันไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้เลย เป็นการจัดทำงบประมาณแบบ "ไม่ตรงปก" เนื้อในมีลักษณะคล้ายกับแผนงบ 63 แต่อวดสรรพคุณว่าเป็นยาผีบอก ดีแน่ทั้งๆที่ปีหน้าปัจจัยลบบานตะเกียง ที่สำคัญสภาพปัญหาขณะนี้และปีหน้าไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ทำงบ 64 แบบนี้มีโอกาสสูงที่จะนำพาประเทศไปสู่กลียุค ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและความเป็นความตายของประเทศ
       
“การชี้แจงของคณะรัฐมนตรีในแต่ละประเด็นยิ่งทำให้เห็นว่าเป็นการรักษากระทรวงของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้นไม่ได้สร้างความมั่นใจใดๆให้กับประชาชนนอกจากผลประโยชน์ของแต่ละพรรคที่มีรัฐมนตรีเท่านั้น เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกันเพื่อประคองรัฐนาวาที่เจอพายุทอนาโด"
      
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านทนฟังชี้แจงมา 3 วัน ก็ยิ่งไม่เห็นอนาคตของประเทศหลังสถานการณ์โควิดจึงนำไปสู่การลงมติ "ไม่เห็นชอบ" เป็นครั้งแรก ซึ่งวาระแรกส่วนใหญ่สมาชิกรัฐสภาที่ไม่เห็นด้วยหรืออยู่ในฝ่ายค้านก็จะลงมติด้วยการโหวต "งดออกเสียง" แต่ครั้งนี้ ถือว่ารัฐบาลชี้แจงได้ไม่เอาอ่าวจริงๆ และที่รับไม่ได้ มาแย่งแอร์ แย่งอากาศฝ่ายค้านหายใจ เห็นจะเป็นซีกรัฐบาลอภิปรายด่าพลเอกประยุทธ์ เละเทะเป็นวรรคเป็นเวรนึกว่าจะใจถึงประชาชนจะพึ่งได้สุดท้ายก็โหวต "เห็นด้วย" หน้าตาเฉย
      
นายจิรายุ กล่าวอีกว่าตนขอขอบคุณแทน ส.ส.ซีกฝ่ายค้านทุกคนที่หลังจากอภิปรายมีการสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก และในโซเชี่ยล ต่างให้คะแนนพรรคร่วมฝ่ายค้านในการทำหน้าที่อภิปรายเพื่อตักเตือนรัฐบาลที่ลุอำนาจ โดยให้ข้อมูลและยับยั้งอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการจัดทำงบประมาณแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ถึงA+ และให้คะแนนรัฐบาล ติดF ชนิดต้องไล่ออกสถานเดียว
    
โดยเฉพาะประเด็นทำงบฯที่ไม่สอดรับกับปัญหาสถานการณ์โควิดที่ประเทศจะได้รับสึนามิทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แต่ยังใช้เงินไปในการซื้ออาวุธ และทำถนน อีกทั้งยังจัดสรรงบประมาณ แบบเอื้อพรรคของพวก ในลักษณะประคองรัฐนาวาในพรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติจะเป็นอย่างไรหลังสถานการณ์โควิด 
     
นอกจากนี้การกู้เงินจำนวนมากที่มากกว่านายกรวมกัน 28 คน ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ไม่มีแผนหรือนโยบายที่ชัดเจนว่าจะหาเงินเข้าประเทศได้อย่างไรและจะใช้หนี้กว่า 100 ปีได้แบบไหน เห็นมีแต่แจกๆๆๆเงิน และไม่เห็นมีอะไรที่ประชาชนฟังแล้วจะมั่นใจได้ว่าปีหน้าหรือปีต่อๆ ไปประเทศไทยจะไม่ล้มละลายเพราะสุดท้ายอาจต้องเกิดภาวะดุลข้าราชการเหมือนในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศไม่มีเงินเดือนจะจ่าย ต้องให้ข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก นายจิรายุกล่าว//

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น