วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

"ทวี" เสนอสภาฯแก้กฎหมาย เพิ่ม "กากอ้อย" ผลพลอยได้เกษตรกร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาล ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม โดย พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปรายตอนหนึ่งว่า ตนไม่ได้เป็นกรรมาธิการ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และโดยเฉพาะประสบการณ์ส่วนตัวของตนเมื่อปี 2542 ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ มีนักบัญชีมือหนึ่งของโลก คือ นายไมเคิล วันสเลย์ ได้ไปตรวจโรงงานน้ำตาล และถูกสังหารเสียชีวิตเป็นข่าวใหญ่โต 

“ผมจึงอยากจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนความเห็นของกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่ให้เพิ่มมาตรา 2/1 เรื่องผลพลอยได้จากอ้อย เนื่องจากใน พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล พ.ศ.2527 เรามีเรื่องผลพลอยได้อยู่แล้ว แต่บอกว่าเป็นกากน้ำตาล โดยเราต้องการจะให้เพิ่มกากอ้อยเข้าไป เพราะสามารถช่วยชุมชนได้” 


“อยากดูน้ำจิตน้ำใจของคนในสภา วันนี้โรงงานน้ำตาลอาจจะมีคนที่เป็นนักลงทุน นักอุตสาหกรรม แต่มีไม่ถึง 60 โรงงาน ขณะที่ประชาชนที่เป็นเกษตรกร และเกี่ยวข้องกับการปลูกอ้อย ไร่อ้อย มีทั่วประเทศมากกว่า 11 ล้านไร่ และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือสิ่งที่เราไม่ได้พูด ผมอยากจะมาเติมก็คือ เกษตรกรที่อยู่ใกล้โรงงานน้ำตาล เขาต้องได้รับมลพิษ ได้รับผบกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากกากอ้อย แต่กากอ้อยนำไปส่งโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ หรือไปทำเป็นโรงงานอุตสาหกรรมก็ดี”


“ความจริงผมยังเห็นว่า เรื่องกากอ้อยน่าจะเป็นสิทธิของชุมชน เขาจะได้กำหนดได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่ามีคนรวยกลุ่มหนึ่ง และรับผลพลอยได้ทุกอย่าง เรายังอยากเห็นเรื่องเศรษฐกิจชุมชน แต่เรากลับเห็นคนที่อยู่ในชนบทเป็นคนไร้ค่า ยังมองเป็นเรื่องเศรษฐกิจมหภาคเกินไป ท่านลองไปดูเลย บริษัทที่เป็นโรงงานอ้อยในตลาดหลักทรัพย์ร่ำรวยอันดับต้นๆ ท่านั้น แต่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน” 


พ.ต.อ.ทวี สรุปว่า ร่าง พรบ อ้อยและน้ำตาล (ฉบับที่…) พ.ศ.…ที่รัฐบาลเสนอมานั้น ไม่ตัดนิยาม คำว่า “ผลพลอยได้” ที่มีบัญญัติ ในพรบ อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527 ที่หมายถึง “กากน้ำตาล” ออกไป กรรมาธิการเสียงข้างน้อย จึงมีเพิ่มมาตรา 2/1 ให้มีนิยาม “ผลพลอยได้” หมายความว่า กากอ้อย กากน้ำตาล ในร่าง พรบฯ ตรงนี้จะเป็นเรื่องที่ทำให้กฎหมายฉบับนี้มีความยุติธรรม ที่นำ กากอ้อย ที่มีมูลค่ามากในอุตสาหกรรมไฟฟ้า การเป็นวัตถุดิบในผลิตเยื่อกระดาษฯ จะได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่อาจจะมีอยู่ประมาณ 3-4 แสนครัวเรือน ก็เป็นหลายล้านคน แทนที่จะช่วยคนรวยหรือนายทุนที่อยู่ใกล้ๆ กับรัฐบาลเพียงไม่ถึง 60 คน เรื่องนี้จึงมีความสำคัญ


“ผมขอวิงวอนนะครับ สภาเราเป็นสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่เป็นสภาของรัฐบาล เรื่องนี้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า จิตใจของคนเป็นรัฐบาลแคบไป มองเห็นประชาชนไม่มีค่า ผมจึงสนับสนุนกรรมาธิการเสียงข้างน้อยที่ให้มีผลพลอยได้ให้เติมกากน้ำตาล เพิ่มการอ้อยไปด้วย” ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น