วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

"ชัยสิทธิ์" จ่อฟ้องกลับคนใส่ร้าย ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องเหตุระเบิดศาล


#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนทวดจีบ จ.ปทุมธานี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงข่าวหลังถูกใส่ร่ายว่าเชื่อมโยงกับผู้ต้องหากับการปาระเบิดที่ศาลอาญารัชดา ว่า "เรื่องดังกล่าวเป็นความเมตตาธรรมของตนเอง เพราะตนเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ใครมาหาเพราะความเดือดร้อนใจตนก็ดูแลไปตามอัตภาพ บางคนมาขอเงิน ขอกินข้าว ตนก็ให้ไป ก็ไม่มีอะไร ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว นานจนตนลืมไปแล้ว สวนเจตนาที่ต้องการโยงผมไปเกี่ยวข้องเพื่อต้องการสาวให้ถึงใครหรือไม่นั้น ก็ขอว่าอย่าลากตนเข้าไป ทั้งนี้ตนคิดว่าเรื่องการข่าว การสอบสวน ตำรวจก็ทำงานดีอยู่แล้ว เพราะทราบล่วงหน้าว่าจะมีการก่อเหตุ ซึ่งควรจะมุ่งไปในประเด็นนั้นมากกว่ามุ่งประเด็นมาที่ตน เพียงแค่เห็นเบอร์โทรศัพท์ เลยกลายเป็นประเด็นใหญ่ แสดงว่ามีเจตนาจะลากตนเข้าไปเกี่ยวใช่หรือไม่ ขอร้องว่าอย่าลากตนเข้าไป ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง"

"ผมลูกผู้ชายตัวจริง เป็นทหารมา รับใช้ประเทศชาติมาก็เยอะ โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่ถามนำผู้ต้องหาอยู่ตลอดเพื่ออะไร ก็เตรียมพบทนายได้เพราะทำให้ผมเสียหายผมจะฟ้องร้องทั้งหมด เพราะเขาถามนำตลอด และตนก็ชักจะไม่ไว้วางใจ และผู้ต้องหาอาจจะโดนกล่อม โดนหลอก ซึ่งผมก็จะต้องคิดว่าจะถูกใส่ร้ายอย่างไร แต่ก็เชื่อในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขอให้เหลือเอาไว้บ้างความยุติธรรม"พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า การเชื่อมโยงทางการข่าวต้องการกำจัดตระกูลชินวัตรหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งว่ามีการตั้งธงกันไว้หรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่ทราบได้ แต่พฤติกรรมก็มีแนวโน้มอาจจะเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามตนมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยว่าคงจะมีที่ยืนให้คนในตระกูลชินวัตรสักคน ไม่ใช่เป็นตระกูลชินวัตรแล้วล่อหมดทุกคน และล่อโดยไม่มีเหตุและผล พยายามลากเข้าไปซึ่งไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ตนบริสุทธิ์ใจ และไม่คิดว่าจะถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องแบบนี้ และตนก็รักประเทศชาติเหมือนกับทุก ๆ คน ประเทศชาติไปได้ดีตนก็ชอบใจ มีระเบิดเกิดขึ้นตนก็ไม่สบาย ตนเกลียดเรื่องการวางระเบิดเช่นกัน

พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ใช้ได้ ทำงานไปตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และตนก็จะพยายามเอาใจช่วย เพราะเป็นคนไทยย่อมรักประเทศชาติ และ รักน้องด้วย อย่างไรก็ตาม การที่จะสร้างความปรองดองให้กับคนในชาติก็มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ยังมีเด็ก ๆ ที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องบ้าจี้ หรือคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่
     
“บก.สส.มีหน่วยข่าวอย่างดี ซึ่งผมเชื่อมั่นใจหน่วยข่าวของ ศรภ. และหน่วยข่าวกรองทางทหาร ก็ขอให้เช็กข่าวกันให้ดี และเช็กกันให้ละเอียด ไม่ใช่เจอฝ่ายข่าวที่นั่งเทียน หรือมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อคนในตระกูลชินวัตร อยากให้เอาความจริงมาพูดกัน อย่าโมเม อย่าลากหรือดึงเข้าไป ซึ่งผมจะไม่หนีไปไหน มีคนอยากให้ผมหนีแต่ผมไม่ไป อยากจะรู้เหมือนกันว่าเมืองไทยผมจะอยู่ไม่ได้ ผมก็เป็นคนไทยเหมือนกันรักในหลวง รักทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศไทย ซึ่งขอยืนยันว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. อยู่อย่างสงบ เจียมตัว ซึ่งอาจจะถูกเพ่งเล็งบ้าง ขออย่าดึงผมเข้าไปเลยไม่มีประโยชน์อะไรความจริงก็คือความจริง สิ่งที่ผมไม่สบายใจ และอยากฝากถึง คสช. ก็คือ ผบ.พล. 1 รอ. บอกว่าจะออกหมายจับผมก็เอาเลย ก็ให้ออกหมายจับมาว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ผมก็อยากจะรู้แค่สมุดโทรศัพท์มีชื่อผม และศาลจะออกหมายจับก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าประเทศจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาขอข้อมูลแต่อย่างไร ซึ่งผมก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล และไม่หนีไปไหน” พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว
     
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบการแถลงข่าว พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้ชูกำปั้นพร้อมกับตะโกนว่าพร้อมสู้ และร้องเพลง "รอยยิ้มของนักสู้" ซึ่งเป็นเพลงที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ มักร้องประจำเวลาออกงาน










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น