วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2562

"ชัชชาติ" แนะรัฐบาลใหม่ แก้ราคาสินค้าเกษตร-ส่งเสริมการท่องเที่ยว


‘ชัชชาติ’ ลงพื้นที่สิงห์บุรี แนะรัฐบาลใหม่ต้องเร่งแก้ราคาพืชผลการเกษตรและต้นทุนการผลิตกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และสร้างเนื้อหาให้จังหวัดเมืองรองเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว สร้างรายได้เสริม

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุรสาล ผาสุข ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสิงห์บุรี เดินพบประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าตามห้างร้านและในตลาดสดปลา เทศบาลเมืองสิงห์บุรี มีประชาชนทักทายต้อนรับ และขอถ่ายรูป พ่อค้าร้านกุนเชียงนำกุนเชียงมาฝากเนื่องจากติดตามและชื่นชอบนายชัชชาติมานาน ระหว่างทางนายชัชชาติ แวะซื้อข้าวหลาม ใช้เขาทุบกระบอกข้าวหลาม และโชว์พลังแกะข้าวหลาม


นายชัชชาติ กล่าวว่า สิงห์บุรีเป็นเมืองที่มีเกษตรกรเยอะ ปลูกข้าวประมาณ 80% ของพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นข้าวเจ้า และข้าวหอมปทุมบ้างเล็กน้อย แต่ช่วงที่ผ่านมาราคาพืชผลการเกษตรตกลงทั้งอ้อยทั้งข้าว พอเกษตรกรมีรายได้น้อย ก็มีผลต่อกำลังซื้อทั้งจังหวัด ตนไปถามพ่อค้าแม่ค้าในตลาดก็บอกว่ากำลังซื้อน้อยลง และเห็นมีการปล่อยเงินกู้ คิดว่าพี่น้องประชาชนก็กำลังลำบากเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งแรกที่รัฐบาลชุดใหม่มา ระยะสั้นต้องเร่งแก้ราคาพืชผลการเกษตร และต้นทุนการผลิต เชื่อว่าจะทำให้มีกำลังซื้อมาหมุนเวียนในตลาดมากขึ้น แต่ความจริงแล้วในจังหวัดสิงห์บุรีก็มีอย่างอื่นที่ไม่ใช่เกษตรกรรม เช่น อุตสาหกรรมที่คิดเป็น 7,000 ล้านบาทของ GDP เกษตรกรรมแค่ 2,000 ล้านบาทต่อไป ดังนั้นการนำผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูปเพิ่มขึ้นก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในอนาคตของจังหวัด เพราะมีทั้งปลา และพืชอื่นๆ ที่จะทำให้เศรษฐกิจของสิงห์บุรีดีขึ้น อีกทั้งตนเห็นว่าจังหวัดมีระบบชลประทานที่ดี ถ้าหากเสริมให้เกษตรปลูกพืชทางเลือกที่มีมูลค่าเสริม เป็นการเพิ่มโอกาสในช่วงที่ราคาสินค้าในตลาดโลก ส่วนเรื่องอ้อย หลังจากมีการตั้งกองทุนอ้อยน้ำตาลน้ำให้การช่วยเหลืออ้อยเปลี่ยนไปต้องไปดูตรงนี้ก่อน จากตอนนี้ตันละ 600-700 บาท เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยคือทำให้ได้ 1,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวพรรคจะช่วยเรื่องต้นทุนการผลิต 36,000 - 75,000 บาทต่อครัวเรือน ข้าวหอมเจ้า 5% ราคาเป้าหมายตันละ 10,000 บาท ข้าวหอมปทุม ตันละ 12,000 บาท


นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะจังหวัดสิงห์บุรีเองมีวัดถึง 184 แห่ง และมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แต่นักท่องเที่ยวยังมาน้อยมาก สิงห์บุรีเป็นเมืองที่น่าอยู่น่าจะมีโฮมสเตย์ให้เยอะขึ้นประกอบกับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และต้องหาเนื้อหาในจังหวัดให้น่าสนใจ ควบคู่ไปกับอาหารขึ้นชื่อ การโปรโมทการท่องเที่ยวต้องปรับใหม่ ไม่ใช่แค่จัดงาน ต้องเน้นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ถนนต้องทำให้เข้าถึง และจัดที่พักอาศัยที่ได้มาตรฐานใกล้แหล่งท่องเที่ยว ทำเรื่องราวให้ชัดเจน อาจจะค้างหนึ่งคืนแล้วกลับเพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ต้องทำเป็นเป้าหมายเมืองรองของการท่องเที่ยวไว้เลย สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของพรรคเพื่อไทยที่ตั้งเป้าจะเอานักท่องเที่ยว 50 ล้านคน สร้างรายได้ 3 ล้านล้านบาทโดยไม่ใช่แค่เที่ยวเมืองใหญ่ แต่ต้องเที่ยวเมืองรอง อย่าง สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท ต้องหาเนื้อหาและพัฒนาเนื้อหาให้ได้





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น