ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
การปลดพิธีกรช่อง 9 จากผู้ดำเนินรายการดีเบต กับวุฒิภาวะทางอารมณ์ของผู้สั่งการ...
เมื่อผลโหวตของคนรุ่นใหม่ในรายการช่อง 9 ออกมาว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คสช.ทำไว้ (บางข้อสูงถึง 99%) ส่งผลให้พิธีกรถูกปลดออกจากรายการแทบจะในทันทีนั้น ทำให้เราได้เห็นข้อเท็จจริงในหลายประเด็นด้วยกันครับ
ไม่ว่าจะเป็น ผลลัพท์ที่เราได้เห็นกันสดๆในรายการ ที่ออกมาตรงกันข้ามกับผลโพลล์เชลียร์จากบางสำนักอย่างสิ้นเชิง พิธีกรทีวีที่เป็นกลางกลับโดนรังแก แต่พิธีกรที่ค้าความขัดแย้งกลับได้ดี เป็นต้น
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตต่อสังคมคือ การปลดพิธีกรช่อง 9 ในครั้งนี้ น่าจะสะท้อน “วุฒิภาวะทางอารมณ์ของผู้สั่งการ” ที่ตอบสนองต่อ “สิ่งที่ตนไม่อยากได้ยิน” อย่างชัดเจน
ที่มาของคำสั่งปลดพิธีกรในครั้งนี้ หลายคนสงสัยว่าจะมาจากคนเดียวกับที่มีพฤติกรรมดังต่อไปนี้หรือไม่?
- คนที่ชอบพูดอยู่คนเดียว โดยไม่สนใจว่าจะมีคนฟังหรือไม่
- คนที่ชอบกระทำเรื่องต่างๆโดยไม่สนใจว่าจะมีคนคัดค้านหรือไม่
- คนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยจะได้ เมื่อมีคนเห็นต่าง
- คนที่ตะคอก ตวาด และด่ากราดทุกครั้งที่โดนถามด้วยคำถามที่ขัดหู
- คนที่บางครั้งมีอาการฉุนเฉียวรุนแรง จนบางครั้งถึงขั้นจะเอาโพเดี้ยมทุ่มใส่คนถาม
ซึ่งถ้าเป็นคนๆเดียวกัน สิ่งที่หลายๆคนสงสัยกันว่า เหตุใดแคนดิเดตนายกฯบางคน จึงไม่กล้าออกเวทีดีเบตกับคนอื่น อาจมีเหตุผลเดียวกันคือมาจาก “วุฒิภาวะทางอารมณ์”
ตรงจุดนี้คือ ข้อแตกต่างระหว่าง “คอมแมนเดอร์ทางการทหาร” ที่มีหน้าที่สั่งการให้ลูกน้องทำตามคำสั่ง กับ “ลีดเดอร์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย” ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ แล้วนำมาปฏิบัติ
สำหรับผู้ที่ติดนิสัยการ “บังคับบัญชา” มาจนเคยชิน ทำให้ไม่สามารถปรับตัวมาเป็น “ผู้นำทางความคิด” ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เห็นพ้องกับตัวเองได้ ไม่ควรมาเสนอตัวเป็นผู้นำทางประชาธิปไตยเลยครับ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาแน่นอน
ถึงตรงนี้อาจมีข้อสงสัยต่อไปว่า เกลียดเวทีดีเบต ไม่ยอมแสดงเหตุผล แล้วจะทำอย่างไรให้ประชาชนเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี อันนี้น่าสนใจ ขอต่อในโพสต์หน้าละกันนะครับ
โพสต์หน้าห้ามพลาด มาดูกันว่าการ #ขี้ตู่คะแนนเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน “เขา” จะกระทำได้ด้วยวิธีการใดครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น