วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"ลดาวัลลิ์" ชี้ "ประยุทธ์" เสี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชน

"ลดาวัลลิ์" ชี้ "ประยุทธ์" เสี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชน โอนอำนาจ คสช. ให้ กอ.รมน. เรียกบุคคลเข้ารายงานตัว ปรับทัศนคติ ที่เป็นคำสั่งหัวหน้าคสช.


นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า  ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้ข่าว ปฏิเสธว่า กอ.รมน. ไม่ได้เรียกบุคคลมาปรับทัศนคติ เหมือนกับคสช.นั้นไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบพบว่า หัวหน้าคสช.ได้ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 51/2560  เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นมา โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 คำสั่งฉบับนี้กำหนดให้มีคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และให้มีคณะกรรมการในระดับจังหวัด มีอำนาจหน้าที่ประการหนึ่งคือ  "เชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลใด มาให้ข้อมูล หรือจัดส่งข้อมูลพร้อมหลักฐานประกอบ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการของคณะกรรมการ" ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 มีวัตถุประสงค์เพื่อมิให้บุคคล  ก่อให้เกิดความไม่สงบ หรือ  กระทบความมั่นคงของรัฐ

นางลดาวัลลิ์กล่าวว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาในยุคคสช.นั้น มีนักการเมือง นักศึกษา ประชาชน นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สื่อสารมวลชนฯลฯ ถูกเรียกตัวให้ไปพบเจ้าหน้าที่รัฐ และ ควบคุมตัวไว้ รวมทั้งการพูดจาหว่านล้อม ข่มขู่ ให้หยุดการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ที่เรียกกันว่า”ปรับทัศนคติ” คำสั่งที่ให้อำนาจ กอ.รมน.ก็ไม่แตกต่างกัน  การระบุไว้ในคำสั่งที่อ้างเรื่องความไม่สงบ หรือความมั่นคงของรัฐ ก็เป็นข้ออ้างที่ใช้มานานแล้วในยุค คสช.ที่ถือเอาว่าตัวเองคือประเทศชาติหรือรัฐบาล ทั้งๆที่ ในความเป็นจริงไม่ใช่  อีกทั้งการแสดงออกทางการพูดการกระทำของบุคคลที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐบาล เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน หรือสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน  ข้ออ้างนี้ย่อมครอบคลุมไปถึงส.ส.ด้วย หากกอ.รมน.เห็นว่าการพูดและการแสดงออกนั้นก่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ทั้งๆที่ ส.ส.ทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบรัฐบาล

นางลดาวัลลิ์กล่าวอีกว่า คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 51/2560  ที่สามารถเรียกบุคคลมาพบและให้ข้อมูลนั้น กระบวนการออกคำสั่งเกิดขึ้นในยุคคสช. ไม่ได้ผ่านกระบวนการตรากฎหมาย ตามหลักประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น ยังถือเป็นมรดก คสช.ที่กระทบสิทธิเสรีภาพประชาชน ซึ่งพรรคฝ่ายค้าน และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย จะต้องผลักดันให้มีการยกเลิกโดยเร็วต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น