วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

"จาตุรนต์" ห่วงกฎหมายยุบพรรค ซ้ำเติมความขัดแย้งในสังคม

นายจาตุรนต์ ฉายแสง โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


พรรคการเมืองใดจะคงอยู่ต่อไปได้หรือไม่ ควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเขาไม่ยุบพรรคกันง่ายๆอย่างประเทศไทย เขาจะยุบพรรคการเมืองก็ต่อเมื่อพรรคการเมืองนั้นล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม คนของพรรคไปทำผิดกฎหมายอะไรก็ลงโทษคนที่ทำผิดไปตามกฎหมาย พรรคการเมืองจะอยู่ได้หรือไม่ ประชาชนเท่านั้นเป็นผู้ตัดสิน

สำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะหลังการรัฐประหารปี 2549 เป็นต้นมาระบบกฎหมายว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายพรรคที่อยู่ตรงข้ามกับพวกเผด็จการและชนชั้นนำที่สมคบร่วมมือกับเผด็จการ การยุบพรรคการเมืองจึงเป็นไปอย่างไม่มีเหตุผลมีผล ไม่ทำผิดอะไรเลยก็ยุบพรรคได้ ผิดเล็กผิดน้อยก็กลายเป็นล้มล้างการปกครอง การลงโทษไม่เป็นสัดส่วนกับการกระทำผิด คนๆเดียวทำผิดกฎหมายก็ทำลายล้างทั้งองค์กร บางครั้งแทนที่จะลงโทษผู้กระทำผิดกลับใช้เป็นเหตุในการล้มรัฐบาลเปลี่ยนรัฐบาลก็ทำกันมาแล้ว

ระบบกฎหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมืองของไทยจึงเป็นเครื่องมือของพวกเผด็จการและอำนาจนิยมที่ใช้หักล้างเจตนารมณ์ของประชาชนเพื่อให้ฝ่ายที่ไม่มีความยึดโยงกับประชาชนเข้าสู่อำนาจหรืออยู่ในอำนาจได้ทั้งๆที่ประชาชนไม่ได้เห็นชอบด้วย ระบบแบบนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นธรรม มีแต่ทำให้ประเทศล้าหลังอ่อนแอและเต็มไปด้วยเงื่อนไขแห่งความขัดแย้ง

พรรคอนาคตใหม่เพิ่งถูกตัดสินไปว่าไม่ได้ล้มล้างการปกครอง ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบบการปกครอง การที่หัวหน้าพรรคให้พรรคกู้เงินเป็นการกระทำอย่างเปิดเผยตรวจสอบได้ ไม่พบว่าเงินนี้มาจากการทุจริตคดโกง ไม่พบว่าเงินถูกใช้ไปในการทุจริตในการเลือกตั้ง ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดห้ามพรรคการเมืองกู้เงินอย่างชัดเจน หากจะถือว่าการให้กู้เงินนี้จะนำไปสู่การครอบงำพรรคก็สามารถระงับยับยั้งได้ การยุบพรรคอนาคตใหม่ซึ่งหากเกิดขึ้นย่อมจะตามมาด้วยการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งและสิทธิอื่นของกรรมการบริหารพรรคจึงไม่เป็นเหตุเป็นผลและไม่ได้สัดส่วนกับเหตุที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้การยุบพรรคการเมืองในขณะที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำจนต้องประสบปัญหาในการประชุมสภาอยู่เป็นนิจอีกทั้งเป็นเวลาที่ใกล้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ย่อมมีผลต่อการเปลี่ยนดุลกำลังในสภาจนแตกต่างไปจากเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกในการเลือกตั้งที่ผ่านมา

การยุบพรรคการเมืองด้วยหลักเหตุผลที่อ่อนแอแต่กลับมีผลทางการเมืองมหาศาลเช่นนี้จึงจะเป็นผลเสียต่อหายต่อความเป็นประชาธิปไตยของบ้านเมืองซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว ปิดช่องทางและโอกาสในการแก้ปัญหาประเทศโดยรัฐสภาและจะยิ่งซ้ำเติมปัญหาความขัดแย้งแตกแยกในสังคมไทยให้หนักหนาสาหัสยิ่งขึ้นด้วย

ระบบกฎหมายว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองของประเทศไทยนี้ควรยกเลิกและแก้ไขเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ ไม่ควรให้ยุบพรรคกันง่ายๆ ไม่ควรให้ยุบพรรคเพื่อความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง พรรคการเมืองใดจะคงอยู่ต่อไปได้หรือไม่ ควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น