นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ระบุว่า รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากที่ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ดูแลเศรษฐกิจ กล้าบอกว่าทำงาน 10 เดือนมีผลงานมากว่ารัฐบาลที่ผ่านมา 5 ปี ไม่ทราบว่าท่านเอามาตรฐานใดเป็นเครื่องชี้วัดเพราะหากท่านจะได้เปิดหูเปิดตารับฟังความเดือดร้อนของประชาชนที่ลำบากกันอย่างแสนสาหัสในขณะนี้ ท่านคงไม่กล้าพูดแบบนี้อย่างแน่นอน อีกทั้งหากท่านวัดตามจีดีพี ก็ปรากฏว่าจีดีพี ในสิบเดือนที่ผ่านมาน่าจะอยู่ประมาณ 2% กว่าเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมาก ขนาดธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟยังแสดงความเป็นห่วงที่เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก และหากวัดจากการส่งออก การส่งออกที่แท้จริงทั้ง 10 เดือนที่ผ่านมาก็ติดลบมาโดยตลอด การลงทุนจากต่างประเทศก็ลดลงกว่าภาวะปกติมาก ปี 58 ลดลง 90% ปีนี้ก็ยังไม่ดีนัก และการลงทุนของนักลงทุนในประเทศก็ลดลงมากถึงขนาดที่ท่านเองยังต้องออกมาประชดเอกชนที่ไม่ยอมลงทุน รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ก็ลดลงมาก แถมการว่างงานก็เริ่มมากขึ้น แล้วอะไรที่บอกว่าผลงานเศรษฐกิจดี ถ้าท่านเข้าใจผิดท่านก็อาจจะรายงานพลเอกประยุทธแบบผิดๆ เพราะพลเอกประยุทธ เป็นทหารมาทั้งชีวิต ซึ่งอาจจะไม่เข้าใจเศรษฐกิจมากนัก ถึงแม้จะอ่านเอกสารทุกหน้า แต่ถ้าผู้ที่รับผิดชอบเศรษฐกิจให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ท่านก็อาจจะเข้าใจผิด และอารมณ์เสียได้ ซึ่งในสมัย ม.ร.ว ปรีดียาธร เทวกุล ยังกล้ายอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจไม่ดี และสมัยนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย หาก ดร. สมคิด มั่นใจว่าผลงานเศรษฐกิจของท่านดีจริง ก็อยากขอให้นำข้อมูลออกมาชี้แจงให้ประชาชนทราบพร้อมกันกับข้อมูลของตน ประชาชนจะได้ตัดสินใจถูกว่าข้อมูลใครถูกต้องมากกว่ากัน และอยากถามว่าที่สภาพัฒน์บอกจะโตปีละ 5% ไปอีก 5 ปีข้างหน้าจะโตจากภาคส่วนไหน เพราะยังไม่เห็น ซึ่งหากไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริหารงานของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลและส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นต่อ รธน. ฉบับนี้อย่างแน่นอน
วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
"พิชัย" ห่วงปัญหาเศรษฐกิจ แนะรัฐฟังเสียงประชาชน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ระบุว่า รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากที่ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ดูแลเศรษฐกิจ กล้าบอกว่าทำงาน 10 เดือนมีผลงานมากว่ารัฐบาลที่ผ่านมา 5 ปี ไม่ทราบว่าท่านเอามาตรฐานใดเป็นเครื่องชี้วัดเพราะหากท่านจะได้เปิดหูเปิดตารับฟังความเดือดร้อนของประชาชนที่ลำบากกันอย่างแสนสาหัสในขณะนี้ ท่านคงไม่กล้าพูดแบบนี้อย่างแน่นอน อีกทั้งหากท่านวัดตามจีดีพี ก็ปรากฏว่าจีดีพี ในสิบเดือนที่ผ่านมาน่าจะอยู่ประมาณ 2% กว่าเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมาก ขนาดธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟยังแสดงความเป็นห่วงที่เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก และหากวัดจากการส่งออก การส่งออกที่แท้จริงทั้ง 10 เดือนที่ผ่านมาก็ติดลบมาโดยตลอด การลงทุนจากต่างประเทศก็ลดลงกว่าภาวะปกติมาก ปี 58 ลดลง 90% ปีนี้ก็ยังไม่ดีนัก และการลงทุนของนักลงทุนในประเทศก็ลดลงมากถึงขนาดที่ท่านเองยังต้องออกมาประชดเอกชนที่ไม่ยอมลงทุน รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ก็ลดลงมาก แถมการว่างงานก็เริ่มมากขึ้น แล้วอะไรที่บอกว่าผลงานเศรษฐกิจดี ถ้าท่านเข้าใจผิดท่านก็อาจจะรายงานพลเอกประยุทธแบบผิดๆ เพราะพลเอกประยุทธ เป็นทหารมาทั้งชีวิต ซึ่งอาจจะไม่เข้าใจเศรษฐกิจมากนัก ถึงแม้จะอ่านเอกสารทุกหน้า แต่ถ้าผู้ที่รับผิดชอบเศรษฐกิจให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ท่านก็อาจจะเข้าใจผิด และอารมณ์เสียได้ ซึ่งในสมัย ม.ร.ว ปรีดียาธร เทวกุล ยังกล้ายอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจไม่ดี และสมัยนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย หาก ดร. สมคิด มั่นใจว่าผลงานเศรษฐกิจของท่านดีจริง ก็อยากขอให้นำข้อมูลออกมาชี้แจงให้ประชาชนทราบพร้อมกันกับข้อมูลของตน ประชาชนจะได้ตัดสินใจถูกว่าข้อมูลใครถูกต้องมากกว่ากัน และอยากถามว่าที่สภาพัฒน์บอกจะโตปีละ 5% ไปอีก 5 ปีข้างหน้าจะโตจากภาคส่วนไหน เพราะยังไม่เห็น ซึ่งหากไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริหารงานของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลและส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นต่อ รธน. ฉบับนี้อย่างแน่นอน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น