วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

"วัฒนา" ห่วงเศรษฐกิจดิ่ง-ติงรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ


นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

"จะดันทุรังไปใหน"

กรมสรรพากรรายงานการจัดเก็บภาษีของเดือนตุลาคม 2559 ว่าจัดเก็บได้ 113,608 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ 2,784 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.45 ต่ำกว่าเดือนตุลาคม 2558 จำนวน 1,104 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 ส่วนการแจกเงินแก่ผู้มีรายได้น้อยตามมติ ครม. จำนวน 5.4 ล้านรายๆ ละ 1,500-3,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งกำหนดจะเริ่มแจก 1-30 ธันวาคม 2559 เพิ่งเริ่มแจกได้เมื่อวันที่ 9 โดยอ้างว่าการลงทะเบียนคนจนมีความซ้ำซ้อนและข้อมูลคลาดเคลื่อน จึงคาดการณ์เศรษฐกิจของไทยได้ว่ามีแต่จะแย่ลง เพราะแค่เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ทุกอย่างก็แย่กว่าที่คาดแล้ว ที่หนักกว่านั้นคือการแจกเงินแก่ผู้มีรายได้น้อยที่ต้องถูกเลื่อนกำหนด ที่นอกจากจะส่งผลกระทบต่อแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงการไร้ประสิทธิภาพและขาดความเป็นมืออาชีพของรัฐบาล ซึ่งเป็นรัฐบาลที่วางยุทธศาสตร์ชาติให้คนไทยต้องเดินตามไปอีก 20 ปี

รัฐบาลนี้ใช้เงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนสูงมาก จนธนาคารโลกต้องออกมาเตือนว่ามีความเสี่ยงสูง แต่เศรษฐกิจกลับแย่ลงเพราะประชาชนและนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในนโยบายและรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ นอกจากนี้ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินของโลกไม่ว่าจะเป็นแนวนโยบายของสหรัฐอเมริกา ผลการลงประชามติของอิตาลี การเลือกตั้งของฝรั่งเศส การออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรและอีกหลายประเทศที่มีแนวโน้มจะออกตาม เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น รวมถึงรูปแบบการค้าโลกที่หันมาเน้นนโยบายชาตินิยมอันจะทำให้เกิดการกีดกันทางการค้ามากขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจของไทยทั้งสิ้น จึงเหลือวิธีเดียวที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลยังไม่เคยทำ คือกำหนดวันเวลาเลือกตั้งให้ชัดเจนและประกาศว่ากลุ่มคนที่ยึดอำนาจจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับการบริหารประเทศอีก นักลงทุนจะเกิดความมั่นใจจากนั้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับคืนมา เข้าใจหรือยังว่าประเทศไม่ใช่กองทัพประชาชนไม่ใช่พลทหาร อำนาจตามมาตรา 44 ไม่สามารถสร้างความมั่นใจทำให้เกิดการบริโภคหรือเกิดการลงทุนได้ อย่าดันทุรังจนประเทศไม่เหลืออะไรเลย อันตรายครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น