ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต (หมวดเจี๊ยบ) อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้คนไทยตกงานเพิ่มหรือไง ถึงจะเปิดตลาดนำเข้าเครื่องในหมูสหรัฐ แย่งตลาดพ่อค้าไทย แถมยังจะอนุโลมให้เครื่องในหมูสหรัฐที่อาจปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงเข้ามาขายในไทยได้ ทั้ง ๆ ที่ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพคนไทย แถมยังเอาผลประโยชน์ใส่พานให้สหรัฐ เพื่อขอให้สหรัฐยอมขายอาวุธให้ โดยพานักธุรกิจไทยบินไปสร้างอาชีพให้คนสหัฐ 8,000 ตำแหน่ง ทั้งยัง เอาเม็ดเงินไทยไปลงทุนในแผ่นดินสหรัฐ เกือบ2 แสนล้านบาท แต่ปล่อยให้คนไทยตกงานกันถ้วนหน้า ที่สำคัญยังจะยอมไปทะเลาะกับเกาหลีเหนือให้สหรัฐอีกด้วย เพียงเพื่อให้สหรัฐยอมขายอาวุธให้ไทย แบบนี้เรียกว่าดำเนินนโยบายขายชาติหรือไม่ สงสัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คงอยากซื้ออาวุธจนอวัยวะสั่นไปทั้งตัวแล้วกระมัง นอกจากนี้ เรื่องกำหนดการวันเลือกตั้ง ทำไม พล.อ. ประยุทธ์ ถึงทำเหมือนไม่เห็นหัวคนไทย เอาโร้ดแม็ปไปป่าวประกาศไกลถึงสหรัฐ แต่เวลาคนไทยทวงถามว่าเมื่อไหร่ท่านจะคืนอำนาจให้ประชาชน ท่านกลับทำเป็นลีลา ไม่สนใจจะตอบ ทั้งยังด่าตะเพิดไล่คนตั้งคำถามเหมือนเป็นหมูเป็นหมา ราวกับเขาไปขอข้าวท่านกินอย่างนั้นแหละ
พล.อ. ประยุทธ์ ทราบหรือไม่คะ ว่าเครื่องในหมูของสหรัฐนั้น อาจปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งอาจตกค้างอยู่ในอวัยวะภายในของหมูได้ เพราะการเลี้ยงหมูสหรัฐนั้นมีการใช้สารเร่งเนื้อแดง ซึ่งเป็นสารต้องห้ามตามมาตรฐานของประเทศไทย ในขณะที่ หมูของคนไทย ไม่ได้ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยง แม้สหรัฐจะอ้างว่า ไทยไม่มีผลการยืนยันทางวิทยาศาสตร์เรื่องผลกระทบทางลบต่อสุขภาพของสารเร่งเนื้อแดง แต่สหรัฐย่อมพูดอย่างนั้นได้ เพราะคนสหรัฐไม่ได้กินเครื่องในหมูที่จะส่งมาขายให้คนไทยอยู่แล้ว เหตุใด รัฐบาลจึงไม่ห่วงสุขภาพคนไทยและทำไมไม่ฟังเสียงเรียกร้องของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติที่เป็นคนไทยด้วยกันบ้าง เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ จึงปล่อยให้สหรัฐเอาเปรียบผู้เลี้ยงสุกรชาวไทยในเรื่องนี้ แล้วอย่างนี้คนไทยจะได้ประโยชน์ตรงไหนจากการเยือนสหรัฐของรัฐบาลคะ เสียดายค่าเครื่องบินที่จ่ายให้พวกท่านจังค่ะ
แต่กรณีนี้สะท้อนถึงความฉลาดของรัฐบาลสหรัฐ ที่นำเรื่องนำเข้าเครื่องในหมูดังกล่าวมาต่อรองกับ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตอนนี้ คงจะอยากซื้ออาวุธจากสหรัฐจนอวัยวะสั่นไปทั้งตัวแล้ว เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมายอมรับเองว่า ที่ผ่านมารัฐบาล ของ นายบารัค โอบาม่า ไม่ยอมขายอาวุธให้รัฐบาลของท่านตั้งนาน คงเพราะมีที่มาจากการรัฐประหาร นอกจากนี้ ความอยากซื้ออาวุธจากสหรัฐจนตัวสั่น ยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พาคณะนักธุรกิจไทยบินไปยื่นข้อเสนอลงทุนในแผ่นดินสหรัฐอีกเกือบ 2 แสนล้าน ซึ่งจะช่วยสร้างงานให้คนอเมริกันถึง 8,000 อัตรา ในขณะที่ลูกหลานคนไทยนับแสนรายมีปัญหาเรียนจบแล้วไม่มีงานทำ
ที่สำคัญ รัฐบาลยังจะยอมให้สหรัฐใช้ประเทศไทยเป็นเครื่องมือทะเลาะกับเกาหลีเหนืออีกด้วย โดย BBC ระบุว่าสหรัฐจะให้ไทยเป็นแกนนำคว่ำบาตรเกาหลีเหนือในภูมิภาคซึ่งเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงปลอดภัยของคนไทยทั้งชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ควรเอาผลประโยชน์ต่าง ๆ ของชาติไปแลกกับการซื้ออาวุธล็อตใหม่จากสหรัฐ เพียงเพื่อให้นายหน้าค้าอาวุธมีรายได้จากค่าคอมมิชชั่นในการขายอาวุธ โดยที่คนไทยต้องทำงานหนักเพื่อเอาภาษีไปจ่ายค่าอาวุธนับหมื่นนับแสนล้านบาท
ขอถาม พล.อ.ประยุทธ์ หน่อยนะคะว่า แบบนี้เข้าข่ายเป็นการดำเนินนโยบายขายชาติหรือไม่คะ และเหตุใดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จึงอยากซื้ออาวุธถึงขนาดนั้นล่ะคะ อันที่จริงท่านควรหัดฟังเสียงคัดค้านของประชาชนบ้างนะคะ คนไทยจำนวนมากเสียดายตังค์ค่าซื้ออาวุธ และอยากให้รัฐบาลเอางบประมาณมาใช้ในการลงทุนพัฒนาประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ซึ่งจะมีความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและสอดคล้องกับความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศชาติและประชาชนในเวลานี้ มากกว่าการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เยอะเลยค่ะ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น