ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
คุณพ่อผมส่งรูปพวกนี้มาให้ผมทางไลน์ แล้วเขียนข้อความสั้นๆว่า
“เห็นแล้วน้ำตาจะไหล...” ครับ
“กองทุนหมู่บ้าน” คือโครงการหนึ่งที่คุณพ่อผมภูมิใจ และตั้งใจทำเพื่อพี่น้องประชาชน
เงิน 7 หมื่นกว่าล้านบาท ทุกบาททุกสตางค์ไม่มีการรั่วไหล ถูกส่งตรงไปถึงทุกหมู่บ้าน ที่มีความพร้อมในการรับผิดชอบเงินทั้งก้อนให้งอกเงยออกมาเป็นวิสาหกิจชุมชน สินค้า OTOP และเงินทุนประกอบอาชีพของคนในชุมชน เพื่อสนับสนุนนโยบาย “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส”
คุณพ่อผมมุ่งมั่นที่จะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน โดยตั้งเป้าจะทำให้คนไทย “หายเจ็บ(ไข้ได้ป่วย) และหายจน” ภายในระยะเวลา 8 ปี จึงได้คิดนโยบายต่างๆขึ้นมามากมาย แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะโดนกระทำรัฐประหารเสียก่อน
จากการรัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง กับอีก 1 รัฐบาลที่จัดตั้งในค่ายทหาร เคยมีความพยายามที่จะเลิกล้มนโยบายต่างๆที่คุณพ่อผมทำไว้ มีการยั่วยุให้ประชาชนเบี้ยวหนี้กองทุนบ้าง หาว่าเอาเงินไปซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยบ้าง แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจะล้มเลิกได้ เพราะเป็นที่ชื่นชอบของพี่น้องประชาชน ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจึงจำเป็นต้องทำต่อ
ปัจจุบันโครงการกองทุนหมู่บ้าน ถูกย้อมแมวสวมเขา จนหน้าตากลายเป็นร้านค้า ”ประชารัฐกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” โดยตั้งชื่อให้สอดคล้องกับพรรคการเมืองที่ถูกกล่าวขวัญว่า เป็นนอมินีของทหาร และถูกจัดตั้งขึ้นมาจากในทำเนียบรัฐบาล
ส่วนวิธีในการทำงาน ก็ถูกปรับเปลี่ยนไปเหมือนกับมหรสพหาเสียงของนักการเมืองสมัยเก่า ที่ยังไม่มี กกต. คอยตรวจสอบ ใช้ทั้งนักร้อง หางเครื่อง โคโยตี้นุ่งน้อยห่มน้อย เพื่อดึงดูดชาวบ้านให้มางาน “ประชารัฐ” อะไรนี่ โดยไม่มีร่องรอยของโครงการกองทุนหมู่บ้านในอดีตหลงเหลืออยู่
นี่คือที่มาของคำว่า “เห็นแล้วน้ำตาจะไหล” ซึ่งประชาชนอย่างพวกเราก็คงทำอะไรมากไม่ได้ คงต้องปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้ จนถึงวันที่ทหารจะกล้าเปิดโอกาสครับ
เปิดโอกาสให้ประชาชน “หย่อนบัตร” เมื่อไหร่ คงจะได้รู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เขาชื่นชอบหรือรังเกียจกิจกรรมการเมืองที่รัฐบาลนี้กำลังทำอยู่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น