วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

“ณัฐวุฒิ” เมินสุเทพร่ำไห้ แพ้แล้วล้มกระดานต้นเหตุวิกฤติ


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. กลับลำมาตั้งพรรคทั้งที่เคยประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว ว่า “ผมเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไร เพราะคำลวงย่อมไร้ผลสำหรับคนไม่เชื่อ แต่คนที่เคยเชื่อจำนวนหนึ่งคงเจ็บปวดบ้าง เพราะรู้สึกเหมือนลุงกำนันที่เคยเดินเป่านกหวีดตามหลังกันมากลายเป็นคนแปลกหน้า พูดกลับไปกลับมา แล้วจะใช้น้ำตาล้างสมองคนคงสำเร็จไม่ทุกราย”

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้อยากให้สังคมไทยสรุปบทเรียนว่า ในความขัดแย้ง 10 กว่าปี ถึงที่สุดทุกฝ่ายก็ต้องมาพบกันในสนามเลือกตั้ง กลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคการเมืองใหม่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินประธาน คมช. ตั้งพรรคมาตุภูมิ กลุ่ม กปปส. ตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย รัฐบาล คสช. ถูกพูดถึงว่ากำลังตั้งพรรคพลังประชารัฐ แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งบอยคอตมา 2 ครั้งก็ยังร้องโหยหวนหาการเลือกตั้ง ถ้าวิธีการนอกระบบไปต่อได้จริงไม่มีทางที่คนเหล่านี้จะถอยกลับมา ส่วนพรรคเพื่อไทยและ นปช. ไม่เคยปฏิเสธสิ่งนี้ ข้อเรียกร้องทุกครั้งในการต่อสู้คือเลือกตั้ง แม้กติกาและกลไกอำนาจจ้องเล่นงานก็พร้อมลงสนาม จากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องไม่เปิดช่องให้ทำลายระบบ จะรักใครเลือกใครเอาที่สบายใจ แต่อย่าเกลียดหลักการพื้นฐานที่ให้อำนาจอธิปไตยของประชาชนกำหนดอนาคตของประเทศ”

นายณัฐวุฒิ กล่าวในที่สุดว่า “คนบางกลุ่มพอเห็นว่าแพ้แน่ก็อ้างโน่นอ้างนี่แล้วล้มกระดาน พอกติกาได้เปรียบและฝ่ายตรงข้ามบอบช้ำก็เปิดตัวลงแข่ง ผมคิดว่าประชาชนคนธรรมดาใจถึงกว่ามาก แพ้ชนะไม่รู้ แต่ขอสู้ในระบบที่ทุกคนมี 1 เสียงเท่าเทียมกัน เพราะการรักษาหลักการที่ถูกต้องคือชัยชนะที่แท้จริงของประเทศ ถ้าไม่ตกผลึกร่วมกันในเรื่องนี้ ก็ไม่เห็นช่องทางที่จะออกจากวิกฤติได้”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น