วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

“วิม” อัดรัฐใช้งบเกินดุล หวั่นหนี้สินภาคครัวเรือนพุ่ง


นายวิม รุ่งวัฒนจินดา ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ว่าในภาพรวมเวลานี้เราคงต้องยอมรับความจริงกันแล้วว่าเศรษฐกิจประเทศไทยตกต่ำและย่ำแย่ลงมาก อย่าหวังกับตัวเลขที่ภาครัฐเอามาโชว์ว่าโตเท่านั้นเท่านี้กันอีกเลย เพราะสภาพความเป็นจริงมันสวนทางกัน เวลานี้คำพูดที่ติดปากพ่อค้าแม่ค้าคือขายไม่ดีไม่มีคนซื้อ ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่ารอปิดกิจการ 

ทั้งนี้สาเหตุสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเดินมาถึงจุดนี้ มาจากความไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลของนักลงทุนและตลาดผู้บริโภคโดยจะเห็นได้จากตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่า 5-10% ของจีดีพี ขณะที่ประเทศไทยขยายตัวต่ำไม่ถึง 3% ของจีดีพี การทุจริตคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากโครงการลงทุนของภาครัฐมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแบ่งผลประโยชน์แทบทุกโครงการทำให้บริษัทข้ามชาติและนักลงทุนชะลอการเข้ามาลงทุน แม้จะมีตัวเลขการจดทะเบียนบริษัทจัดตั้งใหม่เกิดขึ้นก็ตาม ในขณะที่ภาครัฐไม่มีมาตราการกระตุ้นใดๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว แม้ว่าการใช้เงินงบประมาณรายจ่ายตลอด 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาล คสช. ใช้งบเกินดุลไปมากกว่า 1.8 ล้านล้านบาทก็ตาม แต่งบฯ ดังกล่าวไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อการแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนเลย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ทำให้เกษตรกรกว่า 70% ของประเทศอยู่ในภาวะยากจนลง ขณะที่เงินภาษีของประชาชนรัฐบาลกลับนำไปใช้กับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และโครงการขนาดใหญ่ที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ นอกจากนี้การจัดซื้ออาวุธให้กับกองทัพมากกว่าปกติ ทำให้นักวิชาการหลายคนเริ่มมองเห็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการเปลี่ยนสนามการค้าให้เป็นสนามรบอีกครั้งหรือไม่?

อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในเวลานี้ คือหนี้สินภาคครัวเรือนที่ขยับสูงขึ้นถึง 95% ของรายได้ ทำให้เกือบทั้งหมดของรายได้ต้องนำไปชำระหนี้ เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยต้องเดินเข้าสู่กับดักของหนี้นอกระบบ กลายเป็นทาสของนายทุนที่ปล่อยเงินกู้แบบรายวัน ขณะเดียวกันการออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลับกลายเป็นกำแพงปิดกั้นการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างสถาบันการเงินไปอย่างสิ้นเชิง เพราะแบงก์จัดกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นบุคคลที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ จึงไม่สามารถปล่อยกู้ให้กับประชาชนกลุ่มนี้ได้


นายวิม กล่าวว่า อยากฝากถึงรัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในระดับฐานรากเป็นการด่วน อย่ามัวแต่เล่นเกมส์การเมืองโดยเฉพาะปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน และควรชะลอการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ไว้ก่อนเนื่องจากเวลานี้ เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำมาก โครงการขนาดใหญ่อาจไม่จำเป็นเท่ากับความเดือดร้อนของประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น