วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560

"ยิ่งลักษณ์" แจงเหตุระเบิดไม่เกี่ยว "ทักษิณ"


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนาย เดินทางมาสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดที่ 13 ในคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยมีอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมว.ประจำสำนักนายกฯ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย นางสาวขัตติยา สวัสดิผล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย  และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 20 เดินทางมาให้กำลังใจ โดยมีการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย


นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงเวลา 09.00น.โดยมีประชาชนมารอให้กำลังใจและร่วมกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดล่วงหน้า โดยมอบช่อดอกไม้ให้กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะมีอายุครบรอบ 50 ปี ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้

นางสาวยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีพบภาพ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักและบัตรประจำตัวของผู้ต้องหาในคดีไปป์บอมบ์ รพ.พระมงกุฎฯ ว่า "ต้องเรียนว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แน่นอนว่าก็ต้องมีคนรู้จัก มีคนรักหรือคนชอบเป็นธรรมดา แต่ไม่ได้หมายความว่ามีรูปท่านแล้ว ท่านจะสนับสนุนการใช้กำลังหรือการใช้ความรุนแรง ก็อยากขอความกรุณาอย่าเพิ่งเชื่อมโยง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหน้าที่สืบสวน และพิสูจน์พยานหลักฐานให้สิ้นสุดก่อน ทั้งนี้ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยสนับสนุนการใช้กำลังหรือความรุนแรง และพรรคเพื่อไทยก็ประณามผู้ที่ใช้ความรุนแรง และเราไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้"

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงเพจยิ่งลักษณ์บนเฟซบุ๊ก ว่ายอดกดไลค์ 6 ล้านไลค์ ใครๆก็ทำได้นั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า "ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณแฟนเพจยิ่งลักษณ์ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่เข้ามาติดตามข่าวสาร อย่างไรก็ตาม ว่างๆ ก็อยากให้เข้าไปดูเพจยิ่งลักษณ์ก็แล้วกันว่าตลอดเวลาที่เราเปิดเพจมาตลอด 7 ปี เป็นความรัก ความผูกพันที่มีต่อแฟนเพจและประชาชน ก็ลองไปเปิดดู ก็จะเห็นว่าทุกคนเข้ามาพูดกันด้วยความรักความผูกพัน ว่างๆก็อยากให้ไปเปิดดู"

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการจับกุมคนที่รับจ้างปั่นยอดไลค์ ซึ่งก็อาจจะมีการเชื่อมโยงไปได้ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "อย่างมองแฟนเพจยิ่งลักษณ์แบบนั้นเลย ใครได้ยินเขาจะเสียใจแย่"

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่รัฐบาลใช้มาตรา 44 เดินหน้าโครงการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "ตรงนี้เรายังไม่เห็นรายละเอียดว่าอย่างไร แต่ก็อยากให้เร่งรัดในเรื่องของการลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เพราะตรงนี้จะเป็นสิ่งจำเป็นในการที่จะกระตุ้นให้เศรษฐกิจของเราดีขึ้น เพราะขณะนี้พี่น้องประชาชนต้องการในเรื่องของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การใช้มาตรา 44 นั้นอยากให้มีกระบวนการในการจัดการ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบ และเพื่อความโปร่งใส"

ผู้สื่อข่าวถามถึงคำถาม 4 ข้อของ พล.อ.ประยุทธ์ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "เชื่อว่าประชาชนคงใช้สิทธิตอบคำถาม แต่ส่วนตัวมองว่าคำถาม 4 ข้อค่อนข้างจะชี้นำบ้าง แต่อยากให้ประชาชนได้ให้ข้อมูลอย่างเต็มที่เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งถ้ากลไกของรัฐธรรมนูญทำงานได้สมบูรณ์ ก็จะได้รัฐบาลที่ดีและมีธรรมาภิบาล การแก้ไขปัญหาต่างๆคงไม่สามารถหยุดทุกอย่างแล้วมาแก้อย่างเดียวโดยที่ประเทศชาติเดินไม่ได้ เราต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปรับปรุง และขอให้กลไกนั้นเดินตามไปปกติ ทั้งนี้ ส่วนจะตอบคำถาม 4 ข้อด้วยตัวเองหรือไม่นั้น อยากให้ประชาชนเป็นผู้ตอบคำถามดีกว่า ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะเป็นการชี้นำ และขอพิจารณาอีกครั้งว่าจะตอบคำถาม 4 ข้อผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเหมือนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ หรือไม่ แต่เห็นผู้มีอำนาจไม่อยากให้ แต่ละแฟนเฟจพูดเรื่องการเมืองไม่ใช่หรือ?"

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการเปิดพื้นที่ให้นักการเมืองทำกิจกรรมว่า "การให้ทุกคนมีส่วนร่วมทั้งสื่อมวลชนและนักการเมืองนั้น ควรเปิดพื้นที่กว้างให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกับการแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะเปิดให้พรรคการเมืองดำเนินการได้แล้วหรือไม่ คงอยู่ที่คสช.จะพิจารณา แต่ก็อยากเปิดโอกาสให้นักการเมืองได้แสดงความคิดเห็นได้โดยตรง"

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการเซ็ตซีโร่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กตต.) จะกระทบกับการเลือกตั้งหรือไม่ว่า "คิดว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องของผลกระทบต่างๆ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ารัฐบาลจะรักษาโรดแม็ปตามที่ได้สัญญาไว้"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น