ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวีดิโอ ความยาว 2.26 นาที อธิบายว่า "นโยบายจำนำข้าวไม่ใช่เรื่องเสียหาย" ผ่าน Facebook : Kittiratt Na-Ranong พร้อมอธิบายว่า ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผมขอยืนยันว่า "โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล นอกจากไม่ได้สร้างความเสียหายแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อชาวนาและเศรษฐกิจไทยอีกด้วย" (ปล. ต้องขอเรียนว่าวิดิโอนี้ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีครึ่ง ท่านจะเข้าใจได้ดีที่เดียวครับ)
ประโยชน์นโยบายจำนำข้าว
ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผมขอยืนยันว่า "โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล นอกจากไม่ได้สร้างความเสียหายแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อชาวนาและเศรษฐกิจไทยอีกด้วย"(ปล. ต้องขอเรียนว่าวิดิโอนี้ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีครึ่ง ท่านจะเข้าใจได้ดีที่เดียวครับ)
Posted by Kittiratt Na-Ranong (กิตติรัตน์ ณ ระนอง) on 13 ตุลาคม 2015
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เนื้อหาภายในคลิปดังกล่าว ระบุว่า
"โครงการจำนำข้าวไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหาย ไม่สามารถคิดกำไร ขาดทุนหรือคิดเป็นตัวเลขจำนวนเงินอย่างเดียว โครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลมีนโยบายทำขึ้น เป็นโครงการสาธารณะให้ประโยชน์โดยตรงแก่ชาวนาและประชาชนอย่างถึงที่สุด เป็นสัญญาประชาคมและเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม จึงไม่สามารถนำมาคิดกำไรขาดทุนเป็นตัวเลขจำนวนเงินเพียงอย่างเดียวอย่างที่หลายฝ่ายพยายามกล่าวหาและสร้างตัวเลขโจมตี เพราะเงินที่ใช้ในโครงการก็จะคืนกลับไปสู่ประชาชนและจะเพิ่มพูนมูลค่ายิ่งขึ้นในกระเป๋าของประชาชนทั้งหมด เงินของรัฐบาลที่ใช้รับจำนำข้าว จึงได้ส่งตรงถึงมือชาวนาอย่างแท้จริง งบประมาณ 878,209 ล้านบาท ทุกบาททุกสตางค์ไปสู่มือของชาวนาอย่างครบถ้วนแล้ว เมื่อชาวนามีรายได้มากขึ้นก็สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเอง ยกระดับราคาข้าวให้สูงขึ้น ชาวนามากกว่า 15 ล้านคนหรือ 23 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั้งประเทศ มีรายได้เพิ่มขึ้นเทียบเท่าค่าแรงขั้นต่ำ มีความเป็นอยู่ดีขึ้น หนี้สินลดลง มีเงินออมมากขึ้น ชาวนามีเงินจับจ่ายใช้สอย มีเงินปลดหนี้ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น รัฐได้ภาษีมูลค่าเพิ่มหลังจากชาวนาใช้จ่าย มีการลงทุนต่อเนื่อง คนจนลดลง 1.8 ล้านคน ประเทศชาติพัฒนา ลูกหลานชาวนามีอนาคต มีทุนศึกษาเล่าเรียน มีโอกาสเอื้อมถึงการศึกษาขั้นสูงที่วาดหวังไว้ ระบบเศรษฐกิจทั้งหมดจึงขยายตัวเพิ่มขึ้น 7 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.8 ของ GDP ต่อปี ต่างจากปี 2557 ที่ไม่มีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่ง GDP เติบโตในอัตราต่ำและมีแนวโน้มจะถดถอยในปี 2558 ข้อกล่าวหาว่าโครงการรับจำนำข้าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ จึงไม่เป็นจริง การยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวต่างหาก ที่ทำให้ประเทศชาติและประชาชนไทยเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและเสียโอกาสในอนาคต"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น