นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานติดตามการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รอคำตอบจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช.ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ ว่า เชื่อว่านายมีชัยกับผู้มีอำนาจ คงมีการพูดคุยกันมาแล้ว แต่ตามข่าวที่ออกมามองว่าเป็นเพราะนายมีชัยต้องการให้สาธารณชนรับรู้ว่าเข้ามา เพราะนายกฯ ขอร้อง ที่ผ่านมานายมีชัย มีส่วนในการร่างรัฐธรรมนูญหลายฉบับ อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วนายมีชัยจะตอบรับหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่สาระสำคัญคือเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประชาธิปไตย และเป็นที่ยอมรับของประชาชนหรือไม่ มีวาระซ่อนเร้นเพื่อประโยชน์ของบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ นายสามารถ กล่าวด้วยว่า เราไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยที่จะให้นายมีชัยมาทำหน้าที่ประธาน กรธ. ถ้าเข้ามาแล้วเกิดความคลุมเครือในการทำงาน ว่ายึดหลักการ หรือหลักของผู้มีอำนาจ สังคมที่จับตามองจะเห็นเอง ในส่วนของพรรคเพื่อไทย จะติดตามใกล้ชิด และจะวิจารณ์เสียงดัง ๆ หากเห็นว่ามีเรื่องใดที่ไม่ชอบมากล ประธาน กรธ. มีภาระหนักที่ต้องทำงานพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจว่ายึดมั่นในหลักของกฎหมาย คิดถึงอนาคตของลูกหลาน และต้องการแก้วิกฤติของบ้านเมืองอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมาเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดวิกฤติมาแล้วในอดีต
นายสามารถ ยังกล่าวถึงการพิจารณาคัดเลือกสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)ที่มีข่าวว่ามีสมาชิกพรรคการเมืองใหญ่ รวมถึงพรรคเพื่อไทย แสดงเจตนาต้องการเข้ามาร่วมเป็น สปท.ว่า พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนและแนวทางการทำงานที่ชัดเจน และประกาศไปแล้วว่าจะไม่เข้าร่วม ส่วนสมาชิกคนใดต้องการจะไปเราไม่ได้ห้าม เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ควรลาออกจากการเป็นสมาชิกของพรรค เพื่อให้เกิดความสบายใจซึ่งกันและกัน ในเมื่อมีจุดยืนการทำงานต่างกัน เมื่อไปแล้วต้องรับผิดชอบอนาคตทางการเมืองของตัวเอง ไม่ใช่ลาออกไปแล้ววันหนึ่งเมื่อเกิดการเลือกตั้งแล้วเห็นกระแสของพรรคเป็นที่ยอมรับ แล้วจะเปลี่ยนกลับมายืนจุดเดียวกับพรรคเพื่อร่วมงานกันอีก อย่างนั้นคงไม่ใช่ เพราะสมาชิกที่เขาทำงานมีหลักการแน่วแน่คงไม่สบายใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น