วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

“ขัตติยา” เตือนรัฐหยุดรังแก “พานทองแท้” สอนสำนึกกลั่นแกล้งให้รับโทษ-ไม่ยุติธรรม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "เดียร์-ขัตติยา สวัสดิผล" อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

เมื่อคืนเห็นข่าวเอกสารหลุด พาดหัวว่า “เอกสารว่อน!! บิ๊กดีเอสไอสั่งแจ้งข้อหาโอ๊ค พานทองแท้ คดีกรุงไทย ปมเหตุเด้งรองอธิบดี”

เนื้อความของข่าวเป็นการเผยแพร่เอกสารร้องเรียนของ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เพื่อร้องทุกข์คำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่สั่งย้าย พ.ต.ท.สมบูรณ์ฯ ไปเป็นผู้ตรวจการพิเศษ โดยระบุถึงสาเหตุในการสั่งย้ายว่า เพราะมีความขัดแย้งกับ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และที่ปรึกษากรมสอบสวนคดีพิเศษท่านหนึ่ง ที่สั่งการให้ พ.ต.ท.สมบูรณ์ฯ แจ้งข้อกล่าวหาฐานร่วมกันฟอกเงินและรับของโจรกับกลุ่มพยานในคดีพิเศษที่ 36/2550 ซึ่งมีนายพานทองแท้ ชินวัตร รวมอยู่ด้วย สืบเนื่องมาจากการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้แก่กลุ่มกฤษดามหานคร ซึ่งที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนของดีเอสไอก็ได้สอบสวนผู้ที่มีชื่อรับเช็คจากการปล่อยกู้ไปกว่า 200 ราย รวมถึงมีการเรียกนายพานทองแท้ ชินวัตร มาสอบสวนด้วยแล้ว

ในเอกสารร้องเรียนระบุอีกว่า พ.ต.ท.สมบูรณ์ ได้รายงานผลการสอบสวนเกี่ยวกับคดีนี้ แต่มีพันตำรวจเอกท่านหนึ่งมาพูดขอร้อง พ.ต.ท.สมบูรณ์ ถึง 2 ครั้ง ให้แจ้งข้อกล่าวหานายพานทองแท้ฯ ซึ่งทุกครั้ง พ.ต.ท.สมบูรณ์ฯ ก็จะอธิบายว่า คณะพนักงานสอบสวนเห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ทั้งยังมีพลตำรวจโทอีกท่านหนึ่ง ได้พูดขอให้พ.ต.ท.สมบูรณ์ฯ แจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินแก่นายพานทองแท้ฯ พร้อมบอกว่า ให้แจ้งข้อกล่าวหาไปก่อน แล้วให้นายพานทองแท้ เอาพยานหลักฐานต่างๆ ไปแก้ข้อกล่าวหาเอง และให้แจ้งข้อกล่าวหารับของโจรแก่นายพานทองแท้ ไปด้วย ซึ่งพ.ต.ท.สมบูรณ์ก็ได้แจ้งว่า คดีรับของโจรนั้นขาดอายุความไปแล้ว พ.ต.ท.สมบูรณ์ฯ ได้ระบุในเอกสารร้องเรียนว่า คำตอบเหล่านี้ของพ.ต.ท.สมบูรณ์ฯ อาจสร้างความไม่พอใจให้แก่พันตำรวจเอกท่านหนึ่ง อันเป็นเหตุให้มีคำสั่งย้ายตนพ้นจากตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอ

เมื่อเดียร์เห็นเอกสารดังกล่าว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะทำงานด้านกฎหมายของนายพานทองแท้ ชินวัตร จึงเกิดความไม่สบายใจค่ะ เพราะมีชื่อของนายพานทองแท้ ชินวัตร เข้าไปเกี่ยวข้องกับรายละเอียดในเอกสาร และเหมือนจะมีผู้ต้องการให้นายพานทองแท้ ชินวัตร ตกเป็นผู้ต้องหาในฐานฟอกเงินและรับของโจรให้ได้ คำถามที่เกิดขึ้นคือ

1. เอกสารที่หลุดออกมานั้น เป็นเอกสารร้องเรียนของ พ.ต.ท.สมบูรณ์ จริงหรือไม่?

2. หากเป็นเอกสารจริง ใครคือผู้สั่งการให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายพานทองแท้ ชินวัตร ฐานฟอกเงินกับรับของโจร โดยไม่สนใจว่าจะมีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแทรกแซงคดี เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม อันเป็นการกระทำเพื่อกลั่นแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ และการที่หัวหน้าส่วนราชการกดดันผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำในสิ่งที่ผิด เพื่อสนองความต้องการของตนเองหรือผู้อยู่เบื้องหลังเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือไม่?

3. หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นคะ?

บุคคลที่เข้ามากินเงินเดือนที่มาจากภาษีของราษฎร แต่กลับใช้อำนาจบาตรใหญ่ สั่งการให้ข้าราชการทำในสิ่งที่ผิดๆ เพื่อตามใจตนเองนั้น ไม่ทราบว่าสามัญสำนึกอยู่ที่ตรงไหน และยิ่งเป็นหน่วยงานด้านยุติธรรมด้วยแล้ว ความสำนึกยิ่งต้องมีมากขึ้น หรือนี่มันคือตัวอย่างของคำว่า "Obstruction of justice"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น