วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561

“สุดารัตน์” เยือนโรงเรียนต้นแบบลำปาง แนะชุมชนมีส่วนร่วมพัฒนาหลักสูตร


“คุณหญิงสุดารัตน์” ดูโรงเรียนต้นแบบ ที่จ.ลำปาง ระบุ กระทรวงศึกษาต้องกระจายอำนาจ ให้โรงเรียนกำหนดหลักสูตรของตัวเอง ดึงชุมชนมีส่วนร่วม พัฒนาเด็ก ให้เป็นพลเมืองของโลก คว้าโอกาสจากทรัพย์สินของโลกยุคใหม่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00. ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนบ้านสามขา .แม่ทะ .ลำปาง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เดินทางมาเยี่ยมชม และพบปะนักเรียน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโรงเรียนต้นแบบ ที่ได้นำทรัพย์สินของชุมชนอย่างเห็ด ชนิดต่างๆที่มีอยู่ในพื้นที่ มาต่อยอดและพัฒนา ให้เป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชน โดยโรงเรียนได้ส่งเสริม พัฒนาองค์ความรู้ และเปิดเป็นหลักสูตรพิเศษ เข้าไว้ในการศึกษา 

หลังเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนคุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว ถ้าเด็กและเยาวชนสามารถปรับตัวได้ทัน จะกลายเป็นโอกาสที่สำคัญ ดังนั้นการพัฒนาการศึกษาอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จะต้องพัฒนาคนให้เป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงศึกษาต้องกระจายอำนาจ กระจายโอกาสลงมาสู่พื้นที่ โดยเฉพาะการเรียนการสอนจะต้องสอดคล้องกับ การทำมาหากินและความต้องการ ของประชาชนในพื้นที่ เช่นการพัฒนาและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวหรือเห็ด ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างชุมชนและโรงเรียน ดังนั้นการกระจายโอกาสและให้อำนาจกับโรงเรียนสามารถกำหนดหลักสูตรของตนเองได้ ก็จะตอบสนอง ความต้องการของคนในพื้นที่ และสร้างรายได้ จากการต่อยอดผลิตภัณฑ์

กระทรวงศึกษาจะต้องให้โรงเรียนออกแบบหลักสูตรของตนเอง สร้างให้เด็กเป็นพลเมืองของโลกยุคใหม่ อาศัยเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำมาหากิน โดยเฉพาะการค้าขายผ่านโลกออนไลน์ โรงเรียนจะต้องให้ทักษะที่สามารถนำไปต่อยอดอาชีพได้ ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ โรงเรียนแต่ละพื้นที่จะต้องมีหลักสูตรที่แตกต่างกัน เช่นหลักสูตรที่จังหวัดลำปางและหลักสูตรที่จังหวัดภูเก็ตไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ที่จังหวัดภูเก็ตอาจจะเน้นเรื่องการบริการภาคท่องเที่ยว เป็นหลัก ภาคการเกษตรเป็นรอง 

ขณะที่จังหวัดลำปางอาจจะเน้นเรื่องเซรามิค เป็นหลัก และผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร เพื่อต่อยอดทรัพย์สินที่มีอยู่ในชุมชน มาเป็นอาชีพและเป็นรายได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นการพัฒนาคนจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพรรคเพื่อไทย และจะต้องขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ จะต้องสอนเด็กไทยให้เป็นพลเมืองของโลกหรือ Global Citizen เพื่อไปคว้าโอกาส จากทรัพย์สินของโลกยุคใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ 














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น