วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การค้าชายแดนทรุด นักเที่ยวหาย 80% พ่อค้า-แม่ค้า วิตก "ช่องจอม" ร้าง


จัดระเบียบพ่อค้า-แม่ค้าและเด็กๆชาวกัมพูชา ที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมร-ไทย กังวลกลัวตลาดชายแดนปิดตัว หวั่นเขมรปิดร้านหนีเหตุไม่มีคน หลังถูกจัดระเบียบ ชาวบ้านเขมรคนจนไม่มีเงินทำพาสปอร์ตและบอเดอร์พาสข้ามแดน แถมชายแดนเก็บภาษีสูงขึ้น ทำให้สินค้าในตลาดแพง นักท่องเที่ยวไทยหนีหายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขกลัวเป็นตลาดร้าง

สุรินทร์-วานนี้(8 สิงหาคม 2558) ที่ห้องประชุมอาคารโอท็อป อบจ.สุรินทร์ ตรงข้ามตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พ.อ.เอกภาพ สุหร่าย รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตม.กาบเชิง,ตำรวจ สภ.กาบเชิง,สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,จัดหางานจังหวัดสุรินทร์,อบจ.สุรินทร์,ตัวแทนจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ,อบต.ด่าน.และตัวแทนจากอำเภอกาบเชิง ได้เรียกบรรดาพ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการชาวกัมพูชาภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอมและตลาดใกล้เคียงเข้ามาประชุมหารือเพื่อแก้ไขและชี้แจงทำความเข้าใจถึงการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา รวมทั้งเด็กๆชาวกัมพูชาที่ติดตามพ่อแม่ข้ามแดนมาค้าขายที่ตลาดชายแดนช่องจอมและตลาดใกล้เคียงในฝั่งไทย พร้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่มีพาสปอร์ตและบอเดอร์พาสที่เข้ามาค้าขาย และผู้ที่ไม่มี ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร  โดยมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งชาวไทยและกัมพูชามาร่วมรับฟังกว่า 50 คน

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงให้ชาวกัมพูชาทราบว่า สำหรับเด็กๆชาวกัมพูชาที่มาเรียนหนังสือในโรงเรียนฝั่งไทยและไม่มีเอกสารทั้งพาสปอร์ตและบอเดอร์พาส เจ้าหน้าที่จะให้เวลาอีก 15 วัน เพื่อให้พ่อแม่ชาวกัมพูชาเตรียมสถานที่เรียนหนังสือแห่งใหม่ในฝั่งกัมพูชาให้เด็กๆเหล่านี้ หากยังไม่ปฏิบัติตามก็จะจับกุมทันที และจะไม่สามารถมาเปิดสถานที่เรียนหนังสือในตลาดเองได้ ส่วนเด็กๆที่มีพาสปอร์ตและบอเดอร์พาสที่เข้ามาถูกต้องตามกฏหมาย ตั้งแต่ 4 ขวบขึ้นไป สามารถนำไปฝากเลี้ยงกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.ด่าน หรือโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่ได้

ขณะที่ อบจ.สุรินทร์ ได้จัดทำทะเบียนผู้ประกอบการค้า และบัตรประจำตัวผู้ค้า ภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอมจำนวน 670 กว่าราย  และแยกเป็นเด็กประมาณ 170 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำบัตรดังกล่าวให้แล้วเสร็จทั้งหมดรวมทั้งเด็กๆด้วย  ซึ่งทั้งหมดจะต้องมีเอกสารผ่านแดนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้หากชาวกัมพูชาที่เข้ามาอย่างถูกต้องและต้องการลงทะเบียนทำบัตรผู้ประกอบการค้าก็สามารถมาลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะได้ง่ายแก่การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่  ส่วนผู้ค้าชาวกัมพูชาที่เข้ามาอย่างถูกต้องและค้าขายอยู่ที่ตลาดอื่นใกล้เคียงที่ไม่ใช่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมและยังไม่มีบัตรผู้ค้า ก็สามารถมาลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ที่ อบต.ด่านได้ ซึ่ง อบต.ด่านขออาสารับหน้าที่รวบรวมข้อมูลให้ อบจ.สุรินทร์เพื่อช่วยเหลือทำบัตรผู้ค้าให้ต่อไป หากใครไม่มีบัตรผู้ค้าก็จะไม่สามารถค้าขายในตลาดฝั่งไทยได้ ถึงแม้จะมีพาสปอร์ตหรือบอเดอร์พาสก็ตาม  อย่างไรก็ตามรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ จนท.จะได้จัดทำเป็นภาษากัมพูชาเพื่อประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจตรงกันอีกครั้ง

พ.อ.เอกภาพ สุหร่าย รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า  วันนี้เป็นการดำเนินงานจัดระเบียบเรื่องเด็กชาวกัมพูชา มี สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพ หลังจาก นายนิรันดร์  กัลยาณมิตร ผวจ.สุรินทร์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือเพื่อแก้ไขและติดตามงานจัดระเบียบสังคมต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา โดยเฉพาะวันนี้มาติดตามเรื่องการแก้ไขปัญหาเด็กชาวกัมพูชา ที่พบว่าในพื้นที่ตลาดช่องจอมมีมีเด็กชาวกัมพูชาประมาณ 100 กว่าคน   ซึ่งเด็กกัมพูชากลุ่มนี้จะต้องอยู่อย่างไร มีคนดูแลอย่างไร เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายของไทย และเพื่อให้ชาวกัมพูชาได้รับรู้ปฏิบัติตามขั้นตอนกฏหมายของไทยและจะได้มีในเมืองไทยได้อย่างมีความสุข  ซึ่งที่ผ่านมา ตม.กาบเชิง ก็ได้มีการตรวจตราอยู่แล้ว เวลาเด็กๆเข้ามาตามพ่อแม่ก็จะมีหลักฐานและเข้ามาอย่างถูกต้อง มีทั้งพาสปอร์ตและบอร์เดอร์พาสรูปถ่ายต่างๆ หลังจากได้มีการชี้แจงให้ชาวกัมพูชาทราบ และมาครั้งนี้ก็พบว่าก็ได้ผลและมีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายน่าจะเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ส่วนกรณีพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาก็ได้มีการชี้แจงไปแล้วหลายครั้งเช่นกัน  และต้องมีพาสปอร์ต และบอเดอร์พาสเข้ามาอย่างถูกต้องเช่นกัน เมื่อเข้ามาอย่างถูกต้องแล้ว ภายในตลาดก็ต้องมีบัตรผู้ค้าติดตัวกับทุกคน จะได้แยกแยะถูกว่าใครเข้ามาไม่ถูกต้อง  ซึ่งจะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ  เราจะไม่จับคนไทยและคนกัมพูชาที่ทำถูกกฎหมาย แต่เราจะจับกุมชาวไทยและกัมพูชาที่ทำผิดกฎหมาย เราอยากให้คนไทยและกัมพูชาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข  ซึ่งจะได้มีการสรุประเบียบต่างๆให้สั้นเข้าใจง่าย และจะแปลเป็นภาษากัมพูชาให้ชาวกัมพูชาเข้าใจถึงระเบียบง่ายกว่าที่จะเป็นภาษาราชการต่างๆ เพื่อให้มีการค้าขายได้ตามปรกติ  ไม่มีการแกล้งกัน ใครมาแกล้ง มายัดข้อหา ทำผิดมาเรียกรับเงิน พวกตนจะเข้ามาดำเนินการทันที ขอให้แจ้งผู้ดูแลตลาดและทางอำเภอกาบเชิงได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ถึงแม้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่เข้ามาค้าขายในตลาดการค้าชายแดน ต่างก็รู้สึกกังวลไม่แพ้กัน เพราะต่างคนต่างกลัวว่าตลาดจะถูกปิดตัวลง เพราะหลังมีการจัดระเบียบ ชาวกัมพูชาซึ่งเป็นชาวบ้านที่ไม่มีเงินทำพาสปอร์ตและบอเดอร์พาสซึ่งฝั่งกัมพูชามีราคาสูง ไม่สามารถข้ามแดนมาเที่ยวซื้อสินค้าในฝั่งไทยได้ตามปรกติเหมือนเดิม ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ต่างต้องการให้ เจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องช่วยหารือกันช่วยหาทางออกเปิดโอกาสให้ช่วยผ่อนปรนชาวกัมพูชาเหล่านี้ ที่ไม่มีพาสปอร์ตและบอเดอร์พาส สามารถจัดทำบัตรผ่อนปรนให้สามารถข้ามแดนเข้ามาซื้อสินค้าได้เฉพาะในตลาดการค้าช่องจอมได้เหมือนเดิมที่ชาวกัมพูชาเคยซื้อบัตรข้ามแดนใบละ 10 บาทต่อคนข้ามมาได้  เพราะปัจจุบันตลาดการค้าชายแดนช่องจอมพบว่าเงียบเหงาไปกว่า 80 %  พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาไม่กล้าสั่งสินค้าเข้ามาขายเพราะนักท่องเที่ยวเริ่มลดลง ประกอบกับมีการเก็บภาษีที่สูงขึ้นจากเดิมกว่า 3 เท่าตัว จึงทำให้ต้องขายสินค้าราคาแพงขึ้นตาม ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่เข้ามาซื้อสินค้า และเงียบหายไปไม่แพ้กันอีกด้วย บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทยจึงต่างรู้สึกกังวลว่าตลาดจะถูกปิดตัวลงเพราะพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาอาจปิดร้านกลับประเทศไปเพราะตลาดไม่มีผู้ซื้อ
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น