วันนี้ (27 สิงหาคม 2558) ทนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มายื่นคำร้องโต้แย้งคัดค้านบัญชีพยานบุคคลและเอกสาร ที่อัยการสูงสุดได้ขอเพิ่มเติมพยานบุคคลจำนวน 23 ปาก และพยานเอกสารอีกจำนวนเกือบ 7 หมื่นแผ่น ที่เป็นพยาน บุคคล และพยานเอกสาร นอกสำนวน ของ คณะกรรมการ ป.ป.ช มาอ้างในชั้นตรวจพยานหลักฐานของศาล
ในชั้นไต่สวนข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เราเคยร้องขอให้ไต่สวนพยานหลายปาก ซึ่งล้วนแต่เป็นพยานที่สำคัญ และเกี่ยวข้อง เกี่ยวเนื่อง ในกลไกการบริหารของโครงการรับจำนำข้าวทั้งสิ้น ซึ่งพยานแต่ละปากจะแสดงให้เห็นได้ว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ได้กระทำผิดตามที่กล่าวหาอย่างไร แต่ ป.ป.ช. ไม่ไต่สวนพยานดังกล่าว ได้รีบเร่ง รวบรัด มีความเห็นชี้มูลถอดถอน และชี้มูลความผิดทางอาญา
และภายหลังเมื่ออัยการสูงสุด ได้รับสำนวน และอัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ข้อไม่สมบูรณ์ 4 ประเด็น เพื่อให้มีการสอบเพิ่มเติม แล้ว ก็ยังมี ป.ป.ช. บางท่านออกมาด่าอัยการสูงสุดว่า “เห็นใจ อสส. ง่อนแง่น ยันหลักฐาน “ปู” โกงข้าวมีครบ ไม่ไหวจะฟ้องเอง...”
แต่ก็ยังไม่ทันได้ไต่สวนข้อเท็จจริง ในข้อที่ชี้ไม่สมบูรณ์ ทั้ง 4 ประเด็น ต่อมาอัยการสูงสุด ก็รีบเร่ง รวบรัด มีคำสั่งฟ้องคดีก่อนที่ สนช. จะลงมติถอดถอนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด เห็นว่า “ก่อนฟ้องคดีนี้ ช” พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนข้อเท็จจริงสมบูรณ์ และเพียงพอจนมีความเห็นสั่งฟ้องแล้ว ก็ไม่ควรเพิ่มเติมพยานบุคคล จำนวน 23 ปาก และพยานเอกสารอีกจำนวน 7 หมื่นแผ่น ที่ไม่ได้ไต่สวนไว้ในชั้น ป.ป.ช. และชั้นอัยการสูงสุด
ตนจึงตั้งข้อสังเกต 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก ว่า ณ วันที่ สนช. ลงมติถอดถอน อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ซึ่งตามกฎหมายต้องยึดรายงานสำนวน ป.ป.ช.เป็นหลักนั้น รายงานสำนวนถอดถอนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. สมบูรณ์จนเป็นเหตุให้ถอดถอนจริงหรือไม่
ประเด็นที่สอง ณ วันที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่ง ฟ้อง ซึ่งตามกฎหมายต้องยึดรายงานสำนวน ป.ป.ช.เป็นหลักนั้น รายงานสำนวนชี้มูลความผิด ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. สมบูรณ์จนเป็นเหตุให้ มีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่
#TV24 นรวิชญ์ ชี้ ปปช.เคยตัดการขอไต่สวนพยานจำนำข้าวเพิ่ม ระบุ หากไต่สวนจะพบว่านายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ได้กระทำผิดแต่อย่างใด pic.twitter.com/CtJoCAHfgS
— Warintra Tuppetch (@Warintra_TV24) 27 สิงหาคม 2015
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น