วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

"ชวลิต" เผย ผลโพลชี้คอรัปชั่นพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี ทุจริตเพิ่มขึ้น 48%


#TV24 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า "ตามที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดย ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเปิดเผยผลสำรวจดัชนีคอรัปชั่นไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2560 พบว่า ความรุนแรงของปัญหาการทุจริต คอรัปชั่น เพิ่มขึ้นถึง 37% สูงสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา และคาดว่าสถานการณ์การทุจริตคอรัปชั่นในปี 2561 จะเพิ่มขึ้นถึง 48%"

นายชวลิต กล่าวว่า "ขณะนี้ใกล้จะสิ้นปี 2561 ประชาชนกำลังรอผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยต่อเนื่องว่าจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ หรือไม่? แต่ดูสถานการณ์การทุจริต คอรัปชั่นในปัจจุบันแล้ว มีข้อสังเกต ดังนี้

1. ข่าวการทุจริตคอรัปชั่นในปัจจุบัน ยังออกหน้าสื่อเป็นระยะๆ แทบจะทุกสัปดาห์ ทั้งๆ ที่ในยุคที่อ้างว่าเข้ามาปราบโกง ข่าวการทุจริตควรเงียบ ไม่ควรเกิดขึ้นเด็ดขาด ทั้งยังมีข่าวว่าจะปลดล็อกนายก อบจ.ที่ถูกพักงานรอบสองในเร็วๆ นี้อีกด้วย

2. การตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นในเรื่องเดิมควรมีความก้าวหน้า แต่กลับตรงกันข้ามยกตัวอย่าง การตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT 200 ถึงขนาดใช้ตรรกะวิบัติ ว่าตรวจสอบยากผู้ใช้มีความเชื่อเหมือนพระเครื่อง ทำให้ประชาชนสิ้นหวังกับการตรวจสอบ

ดังนั้น จึงขอฝากข้อสังเกตถึงสิ่งที่น่าเป็นห่วงในสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ดังนี้

(1.) ควรใช้งบประมาณแผ่นดินให้คุ้มค่า เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะที่มาของงบประมาณแผ่นดินมาจากภาษีอากรของประชาชนส่วนหนึ่ง และเป็นเงินกู้อีกส่วนหนึ่ง หากมีการรั่วไหลไปตามการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยดังกล่าว นับเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ เพราะเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียทั้งโอกาส และที่สำคัญ เกิดหนี้มหาศาลให้ลูกหลานต้องได้ใช้

(2.) ควรปรับแก้การตั้งงบประมาณที่ไม่ตรงกับสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ที่เดือดร้อนเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง แต่รัฐบาลกลับไปให้ความสำคัญกับปัญหาความมั่นคง ทั้งๆ ที่รอบบ้านเราสงบ เพราะหากแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ความทุกข์ยากจะตกแก่ประชาชน ตัวเลขที่ประชาชนจะมาขอจดทะเบียนคนจนจะเพิ่มขึ้นจนรับไม่ไหว

(3.) หัวใจของปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ก็คือปัญหาการเมือง การปกครอง ที่รัฐบาลนี้เปลี่ยนจุดยืน จากการเข้ามาเป็นคนกลางกลายมาเป็นผู้เล่นเสียเองคงไม่มีกีฬาที่ไหนในโลกที่ตัวผู้เล่นจะเป็นทั้งกรรมการ, เป็นทั้งผู้เล่น และเป็นผู้ออกกติกาเอง รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ความเชื่อมั่นประเทศไม่เหลือ หากปล่อยให้บ้านเมืองเดินไปเช่นนี้

ทางออกที่ขอแนะนำ คือ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ขอเชื้อเชิญบุคคลในรัฐบาลที่อยากทำงานการเมืองต่อควรมาทำงานการเมืองกันอย่างแฟร์ๆ ด้วยการมาลงเป็นผู้เล่นให้ประชาชนตัดสินใจ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น