วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561

คิดถึงจำนำข้าว ! “ชวลิต” สงสารชาวนาลพบุรี ถูกนายกฯปัดพยุงราคาข้าว


#TV24 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดลพบุรี ได้สอบถามชาวนาที่มารอต้อนรับว่า อยากให้ช่วยอะไรหรือไม่ ชาวนาจึงร้องขอให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาข้าว แต่กลับถูกปัดการให้ความช่วยเหลือ ด้วยถ้อยคำว่า "จะพยุงได้อย่างไร เพราะขณะนี้รัฐบาลยังใช้หนี้ 5 แสนล้านให้กับโครงการรับจำนำข้าว" อยู่
          
นายชวลิต กล่าวว่า “รู้สึกสงสารชาวนาลพบุรีคนนั้นอย่างจับใจ เพราะถ้าชาวนาไม่เดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจริงๆ ก็คงไม่กล้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บริหารประเทศที่อาสาเข้ามาบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน จึงขอให้กำลังใจชาวนาให้อดทน รอการเมืองปกติ และขอเรียนว่า คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของเพื่อไทย ได้เตรียมแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรไว้แล้วระดับหนึ่ง ขอให้การเมืองเปิดและประชาชนให้โอกาสในการเลือกตั้ง

นายชวลิต กล่าวว่า “สำหรับโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นประเด็นวิพากษ์มาจนถึงปัจจุบันนั้น ในภาพรวมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของอพื่อไทย คงจะได้ชี้แจงประชาชนต่อไปในโอกาสที่เหมาะสม แต่ในความเห็นส่วนตัว ซึ่งเคยให้ความเห็นมาแล้วหลายครั้งว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายสาธารณะที่รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แถลงนโยบายต่อสภาฯ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ด้อยโอกาสที่ถูกเอาเปรียบมาช้านาน เมื่อเป็นนโยบายสาธารณะจะคิดกำไร ขาดทุน ได้อย่างไร? แม้แต่ประเทศที่เจริญแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เป็นต้น ต่างก็มีนโยบายอุดหนุนเกษตรกรของตนทั้งนั้น แต่หากจะคิดกำไร ขาดทุน จากนโยบายสาธารณะ แล้วนโยบายสาธารณะของรัฐบาลนี้ก็มีมากมายในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ใช้เงินไปมากมายมหาศาล ได้คิดกำไร ขาดทุน บ้างหรือเปล่า? เช่น โครงการประชารัฐ 4 ปี ใช้เงินไปเท่าไหร่? ไม่ได้คิดกำไร ขาดทุนแน่นอน แล้วทำไมมาจ้องเอาแต่โครงการรับจำนำข้าว นี่เพียงตัวอย่างโครงการประชารัฐเพียงโครงการเดียว
           
“เรื่องนี้ต้องไว้ถกกันตอนหาเสียง ตนมั่นใจว่า ยิ่งตีโครงการรับจำนำข้าว ยิ่งตี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งได้รับความเห็นใจจากชาวนาและประชาชนผู้รักความเป็นธรรม เพราะเมื่อเปรียบเทียบชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาครั้งมีโครงการรับจำนำข้าว กับปัจจุบันภายใต้การบริหารของรัฐบาลนี้ ข้อเท็จจริงชาวนายืนยันได้ว่า ครั้งมีโครงการรับจำนำข้าว ชาวนาเริ่มลืมตาอ้าปากได้ กล่าวคือ เริ่มผ่อนหนี้เตรียมไถ่ที่นาคืน ซื้อรถไถนา ซื้อรถจักรยานยนต์ ซื้อรถปิคอัพ ฯลฯ แต่เมื่อโครงการฯ ถูกยกเลิก ชาวนาต้องขายหมด ทั้งรถจักรยานยนต์ รถปิคอัพ แม้แต่รถไถนาคู่ชีพยังต้องเอาไปจำนำยังโรงตึ๊ง เพื่อเอาเงินมาเป็นค่าเทอมลูก ส่วนบริษัทขายรถจักรยานยนต์ รถปิคอัพ ต่างเงียบเหงาแทบจะปิดกิจการ เพราะชาวนาและเกษตรกรทั่วไปไม่มีกำลังซื้อ” นายชวลิต กล่าว
         
นายชวลิต กล่าวในที่สุดว่า “โดยข้อเท็จจริง ในขณะนั้นโครงการรับจำนำข้าวยังไม่ปิดโครงการฯ ซึ่งในทางปฏิบัติก็จะมีการตรวจสอบว่ามีข้อบกพร่องในขั้นตอนใด หรือไม่เพื่อปรับปรุงโครงการฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่โครงการฯ ถูกทำไม่ให้จบ ด้วยการจัดม็อบมาล้อม ธกส. ไม่ให้จ่ายเงินแก่ชาวนา จึงขอความเห็นใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขออย่าได้ซ้ำเติมกัน ท่านจำใจจากบ้านไปเพราะคดีการเมือง ถ้าไม่ใช่การเมือง ไม่ใช่นโยบายสาธารณะ ท่านถูกส่งกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปนานแล้ว”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น