วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563

พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มุ่งเป้าประยุทธ์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีรายชื่อทั้งหมด ดังนี้

1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
2. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
3. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
4. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
5. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
6. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ ยุทธศาสตร์ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือ การมุ่งประเด็นไปที่ผู้รับผิดชอบหลักของรัฐบาล คือ นายกรัฐมนตรี

เพราะในวันนี้พลเอกประยุทธ์เป็นผู้กุมความรับผิดชอบทั้งการเป็น หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หัวหอกทางความมั่นคง และทางการเมือง เอาไว้หมด การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้หัวใจหลักจึงอยู่ที่นายกรัฐมนตรีเป็นสำคัญ ทั้งนี้ก็จะมีประเด็นความรับผิดชอบเฉพาะบุคคลที่จะมุ่งประเด็นไปที่รัฐมนตรีคนอื่นๆที่มีหลักฐานความผิดพลาด ความไร้ประสิทธิภาพ รวมทั้งคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสม ร่วมอยู่ด้วย

วันนี้ประเทศเราอยู่ท่ามกลางวิกฤติรอบด้านบางเรื่องเป็นผลจากปัจจัยภายนอก บางเรื่องเป็นผลจากปัจจัยภายในรัฐบาลเอง ซึ่งสิ่งที่พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่รับรู้และเห็นประจักษ์ได้ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ ไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาฝุ่นละออง มาจนถึง ไวรัสโคโรน่า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาวิกฤตที่กระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง ทั้งนี้ไม่เพียงแต่รัฐบาลจะไม่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาแล้ว ทว่ายังกระทำสิ่งที่ผิดพลาดซ้ำเติมปัญหาในทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

สิ่งที่สังคมไทยเรากำลังเผชิญในวันนี้คือความเสี่ยงของประเทศที่ตกอยู่ภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลที่ไม่มีศักยภาพ ประชาชนส่วนใหญ่ขาดความเชื่อมั่น

การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะมีผลของการโหวตออกมาอย่างไรนั้น ไม่สำคัญเท่ากับการรับรู้และความคิดเห็นของประชาชน ที่ตัดสินรัฐมนตรีแต่ละคน แม้ว่าเราจะทราบกันดีว่า เสียงสนับสนุนของพรรคร่วมฝ่ายค้านมีน้อยกว่า แต่เป้าหมายของเราคือการนำข้อเท็จจริง และผลงานเชิงประจักษ์ที่แสดงความล้มเหลวของรัฐบาล มาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ

ฝ่ายค้านเราพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในทุกเงื่อนไข โดยแบ่งการทำงานทั้งในสภา และนอกสภาเพื่อสื่อสารให้พี่น้องประชาชาชนได้รับข้อมูล ข้อเท็จริง ในทุกช่องทางอย่างเต็มที่ภายใต้ข้อจำกัดมากมายที่เราต้องเผชิญ

ทั้งนี้เพราะฝ่ายค้านมีหน้าที่ชี้ให้ประชาชนเห็นปัญหาความล้มเหลว ในการบริหารงาน และความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล
ส่วนประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจมีหน้าที่ต้องเปิดรับข้อมูลข้อเท็จริงจากการตรวจสอบ เพื่อแสดงความคิดเห็นให้รัฐบาลได้รับทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของตนว่าจะยอมเสี่ยงให้ประเทศเราต้องตกอยู่ภายใต้รัฐบาลที่ล้มเหลวในการบริหารงานชุดนี้หรือไม่

แม้ว่าเราจะทราบกันดีว่า เสียงสนับสนุนของพรรคฝ่ายค้านในสภาฯมีน้อยกว่าพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป้าหมายของเราคือการนำข้อเท็จจริง และผลงานเชิงประจักษ์ที่ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล มาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ

การตัดสินใจของประชาชนจะมีความสำคัญและเป็นคำตอบสุดท้ายว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์จะบริหารประเทศไปต่อได้อย่างไร

ที้งนี้สิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุด คือ อนาคตของประเทศ เราอยู่ในภาวะวิกฤติหลายด้าน เราต้องการผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการนำพาเราก้าวผ่านความยากลำบากเหล่านี้ แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่มีอยู่เลย ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่คำตอบของประเทศ

พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรยอมรับความล้มเหลวและความไร้ประสิทธิภาพทั้งปวงที่เกิดขึ้น แสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้ประเทศก้าวพ้นจากวิกฤติไปให้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น