วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561

"อนุสรณ์" แนะ "ประยุทธ์" ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงโรงไฟฟ้าขยะ ไม่เลือกปฎิบัติ-ไม่สองมาตรฐาน


#TV24 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี โครงการจัดตั้งศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจรเพื่อแปรรูปผลิตพลังงานหรือโรงไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 7,852 แห่ง ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาล จำนวน 178,000 ล้านบาท ว่า "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้ความสำคัญกับการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน ยกให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ประชาชนตั้งความคาดหวังว่าการปราบโกงต้องไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามตรวจสอบเต็มที่ แต่พวกพ้องตนเองกลับปล่อยปละละเลย หรือให้ลดราวาศอกกันบ้างหรือไม่? โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การตรวจสอบในสภาไม่สามารถทำได้ การทำหน้าที่ตรวจจับทุจริตของสื่อมวลชนมีข้อจำกัด รัฐบาลต้องแสดงท่าทีที่โปร่งใส เปิดเผยกระบวนการในการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น"

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า "โดยเฉพาะเรื่องที่สุ่มเสี่ยงว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลในระดับแกนนำรัฐบาลและ คสช. เพราะถ้าเป็นช่วงการเมืองปกติเรื่องนี้คงถูกเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ งบประมาณแผ่นดินต้องถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด นายกรัฐมนตรีควรตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการโครงการกำจัดขยะของกระทรวงมหาดไทยว่า มีการดำเนินการที่ส่อไปในทางว่ามีการทุจริตในขั้นตอนใดหรือไม่? โดยเฉพาะการตรวจสอบว่าลูกชายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาศัยอำนาจและบารมีของบิดาเข้าไปทำธุรกิจโครงการกำจัดขยะจริงหรือไม่? เพื่อส่งสัญญาณในการเอาจริงเอาจังของรัฐบาลไปยังหน่วยงานและกระบวนการตรวจสอบทุจริตอื่นๆ หรืออย่างน้อยในโอกาสการไปจัดประชุม ครม.สัญจรภาคใต้ ควรได้สอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในกรณีลูกชาย มท.1 มีนัดหมายพบ ผวจ.ภูเก็ตในเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรหรือไม่? อย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงท่าทีสนับสนุนที่ประกาศให้การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ ที่ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่สองมาตรฐานหรือไม่?"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น