วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561

"สุทิน" ชี้ ทักษิณแพ้ในกติกาป่าเถื่อน แต่ชนะในกฏเกณฑ์ที่โลกยอมรับ


#TV24 ดร.สุทิน คลังแสง อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนแสดงความเห็นว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แพ้สงครามตลอดนั้น

ผมมีความเห็นที่อยากเสนอให้คิดดังนี้

1. ดร.ทักษิณ ทำสงครามในนามพรรคไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งมาตลอด ไม่เคยแพ้ ได้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเป็นครั้งแรกและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาตลอด

2. ดร.ทักษิณ เป็นนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งคนแรก คนเดียวที่อยู่ในวาระครบ 4 ปี และยังชนะการเลือกตั้งในครั้งต่อมาด้วยสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์รัฐสภาไทยด้วย 377 ที่นั่ง แสดงถึงการยอมรับจากประชาชนในฝีมือบริหารอย่างชัดเจน
   
3. ดร.ทักษิณ แม้ถูกทำลายด้วยอำนาจเผด็จการด้วยรัฐประหาร 2 ครั้ง ยุบพรรค 2 หน ตัดสิทธิแกนนำพรรค 100 คนเศษ ยัดข้อหา ยึดทรัพย์ และกีดกันให้ออกจากการเมือง ออกนอกประเทศ แต่พรรคของเขา คนของเขาไม่เคยแพ้เลือกตั้ง แต่กลับสร้างประวัติศาสตร์มีนายกรัฐมนตรี 4 คน จากพรรคของเขาในช่วงเวลาแค่ 10 ปีเศษ
   
4. ดร.ทักษิณ นอกจากชนะสงครามการเมืองอย่างงดงามแล้ว ยังชนะสงครามเศรษฐกิจ สงครามความยากจน ด้วยปรากฏการณ์น่าสนใจ อาทิ  ปลดหนี้ให้ประเทศจากไอเอ็มเอฟ ก่อนกำหนดเศรษฐกิจขยายตัวในระดับสูงสุด เมื่อเทียบในบริบทที่แตกต่าง ฐานะการคลังของประเทศมั่นคง เงินสำรอง เงินคงคลังของประเทศอยู่ในระดับนานาชาติเชื่อถือ เชื่อมั่น จัดงบประมาณสมดุลติดต่อกัน 2 ปี ซึ่งไม่มีรัฐบาลอื่นใดทำมาก่อน เกิดสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ ประชาชนซื้อง่ายขายคล่อง คุณภาพชีวิตประชาชนสูงขึ้นจากสวัสดิการรัฐ และสังคมปลอดยาเสพติด

5. ดร.ทักษิณ ชนะสงครามเป็นที่น่าภูมิใจ คือการยอมรับจากประชาชนในประเทศผ่านการเลือกตั้งที่ไร้การกังขาจากนานาชาติ และได้รับความชื่นชมจากสังคมโลกโดยหลายประเทศได้กล่าวถึงนโยบายสำคัญและพูดถึงความสำเร็จในหลายนโยบายอาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค แม้แต่ผู้นำไทยบางคนยังแอบอ้างบนเวทีโลก

6. ดร.ทักษิณ ชนะสงครามในมิติที่บางคน บางกลุ่ม บางพรรควิเคราห์ไม่ถูก คือแม้ ดร.ทักษิณ จะถูกกลั่นแกล้งให้พ้นจากการเมือง ออกนอกประเทศแต่ดร.ทักษิณ ยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง ทางความคิดต่อคนทุกระดับ โดยเฉพาะชั้นผู้นำฝ่ายตรงข้าม ส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิด ทิศทางของหลายกลุ่ม หลายฝ่าย ในลักษณะก้าวไม่ข้าม หรือเกิดอาการปากกล้า ขาสั่นอยู่เนืองๆ

7. ดร.ทักษิณ ชนะสงครามโดยทำลายคู่ต่อสู้และฝ่ายตรงข้ามอย่างเลือดเย็นและไม่รู้สึก โดยสร้างให้คนเหล่านั้นเกิดภาวะ โทสะ โมหะ ริษยา โลภ โกรธ  หลง แล้วแสดงออกในอาการเสียการสมดุลทางความคิดและกระทำการนอกครรลอง นอกหลักนิติรัฐ นิติธรรม รัฐบุรุษต้องกลายเป็นโมฆะบุรุษ นักการเมืองเจ้าหลักการกลายเป็นไร้หลักการ นักกฎหมายชั้นครูกลายเป็นนักกฎหมายที่ลูกศิษย์สลดใจ นักวิชาการชั้นแนวหน้ากลายเป็นผู้ทรยศต่อหลักวิชา ทำให้นายทหารที่องอาจชาติชายกลายเป็นนักรบกระจอก ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ ทำให้นักเคลื่อนไหวไม่น้อยเดินถนนผิดสาย กลับบ้านไม่ได้ไร้ญาติ ขาดมิตร และนักการเมืองในอดีต ปัจจุบัน หลายคนถูกตีตราว่าผู้ทรยศ มีปรากฏการเดียวที่คนเข้าใจว่า ดร.ทักษิณ แพ้คือ ดร.ทักษิณ ถูกโค่นจากอำนาจ ดร.ทักษิณ เข้าประเทศไม่ได้ ดร.ทักษิณ เป็นนักโทษหนีคดี แต่หากจะพิจารณาโดยสติจะเข้าใจได้ว่า นั้นคือการแพ้ที่ชนะยิ่งกว่าแพ้ในกติกาป่าเถื่อนแต่ ดร.ทักษิณ ชนะในกฎเกณฑ์ที่โลกยอมรับและต้อนฝ่ายตรงข้ามบนเวทีโลกจนนักการฑูตหลายคนกลายเป็นตัวตลก และประการสำคัญที่ยืนยันว่า ดร.ทักษิณ ชนะสงครามคือการสำรวจความเห็นของคนไทยทั้งสำนักไทยและต่างชาติ ดร.ทักษิณ คือนายกรัฐมนตรีที่คนไทยนิยมที่สุดนับแต่มีมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น