วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"เพื่อไทย" แถลงการณ์ ยืนยัน รัฐบาลต้องหาตัวผู้กระทำผิดปม "ราชภักดิ์" มาลงโทษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย ได้เผยแพร่ แถลงการณ์ เรื่อง โครงการอุทยานราชภักดิ์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย
เรื่อง โครงการอุทยานราชภักดิ์

ตามที่พรรคเพื่อไทยได้มีแถลงการณ์ ฉบับลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 และ 19 พฤศจิกายน 2558 เรียกร้องให้รัฐบาลแถลงรายละเอียดและมาตรการดำเนินการต่างๆ กรณี มีการทุจริตในโครงการอุทยาน  ราชภักดิ์ รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาในระดับต่างๆ นั้น

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ผู้บัญชาการทหารบกได้แถลงผลการตรวจสอบการดำเนินโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการทุจริต ทั้งในส่วนขององค์กรและบุคลากร พร้อมทั้งกล่าวในทำนองว่าไม่มีความต้องการที่จะให้องค์กรอื่นเข้ามาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นภายในกองทัพบกนั้น

พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การแถลงของผู้บัญชาการทหารบกไม่เกินความคาดหมายในการออกมาปกป้ององค์กรและบุคลากรของกองทัพบก และเป็นที่เข้าใจดีจากถ้อยแถลงและตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า มิใช่การตรวจสอบกรณีการทุจริต การตรวจสอบเป็นไปเพียงเพื่อการที่จะเข้าไปดำเนินการต่อในฐานะที่อุทยานราชภักดิ์เป็นของกองทัพบก โดยให้ถือว่าเป็นเรื่องของอดีตผู้บัญชาการทหารบกที่ต้องตอบคำถามข้อสงสัยกรณีที่มี  การเรียกรับผลประโยชน์ในโครงการดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ถ้อยแถลง (ตอบคำถาม) ของผู้บัญชาการทหารบก มีข้อที่ต้องพิจารณาและขอเรียกร้องดังต่อไปนี้

1. ข้อที่ว่ามีการกระทำผิด มีการทุจริต เรียกร้องผลประโยชน์หรือไม่ ผู้รับผิดชอบโครงการและเป็นผู้นำกองทัพบกในขณะนั้น ได้ออกมายอมรับต่อสาธารณะว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จริง สอดคล้องกับคำรับของผู้รับจ้าง ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางไปต่างประเทศ โดยผู้รับผิดชอบได้แถลงว่า ได้นำเงินที่เกิดจากการเรียกรับผลประโยชน์ไปบริจาคให้มูลนิธิฯ (ซึ่งจดทะเบียนในภายหลัง) จึงเท่ากับเป็นการยอมรับว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น การรับเงินบริจาคที่ได้มาจากการกระทำผิด  นอกจากจะไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของ  มูลนิธิฯ โดยทั่วไปแล้ว ยังเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดทางอาญาอีกด้วย  กรณีเทียบได้กับคดีของอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ที่นำเงินที่ได้จากการให้สินบนไปบริจาค โดยนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และถูกศาลพิพากษาจำคุกในที่สุด

การจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ มีข้อสงสัยจากสังคมในหลายประเด็น อาทิ การที่นายทหารของกองทัพบกซึ่งถูกแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ปัจจุบันหลบหนีออกนอกประเทศ ถูกพาดพิงว่า  เรียกรับเงินจากผู้รับจ้าง ความเป็นไปเป็นมาของพ่อค้าพระว่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการและสามารถเรียกร้องผลประโยชน์กันได้อย่างไร เสื้อที่ใช้ในโครงการซึ่งปรากฏว่ามีการบวกราคา ข้อเท็จจริงที่ว่ามีการบริจาคต้นไม้ให้แก่โครงการ ปรากฏว่ามีการนำไปขายต่อเพื่อบริจาคในราคาที่สูงมาก ทั้งนี้ยังมีประเด็นว่าการจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจนการคัดเลือกโรงหล่อทั้ง 7 แห่ง ได้ดำเนินการตามระเบียบอย่างไรหรือไม่ ข้อเท็จจริงทั้งหลายเหล่านี้เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย แต่ก็มิได้เข้าไปตรวจสอบ แสดงว่าการตรวจสอบเป็นเพียงการดูรายละเอียดตามบัญชีบริจาคที่เข้ากองทุนฯ และรายจ่ายตามบัญชีเท่านั้น มิได้มีการตรวจสอบการทุจริตแต่อย่างใด และแม้จะมี  การตรวจสอบการทุจริต แต่ก็เป็นเพียงเรื่องภายในของหน่วยงานเท่านั้น หาได้ยุติสิ้นสุดแต่อย่างใดไม่

2. ถ้อยแถลงของผู้บัญชาการทหารบกในลักษณะที่กล่าวมา แม้จะไม่ตอบข้อสงสัยของสังคม แต่ก็  น่าเห็นใจ เพราะท่านเพิ่งจะเข้ามารับผิดชอบและไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องดังกล่าวมาก่อน ผู้รับผิดชอบแท้จริง  คือ อดีตผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและนายกรัฐมนตรี ซึ่งรับรู้และสนับสนุนโครงการอุทยานฯ มาตั้งแต่ต้น ที่จะต้องออกมารับผิดชอบ และดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่ด้วย  ความโปร่งใส ไม่เห็นแก่ผู้ใด

แต่รัฐบาลนี้กลับขัดขวางและจำกัดเสรีภาพของประชาชน เช่น การออกหมายเรียก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  เตมียาเวส การออกหมายเรียกคณาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ฟ้าให้ทีวี การตัดไฟเพื่อขัดขวางการสัมมนาของนักศึกษาในเรื่องการทุจริตโครงการนี้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การแถลงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ท้าทายให้พรรคเพื่อไทยไปหาหลักฐานการทุจริตมามอบให้ การกระทำทั้งหลายที่กล่าวมานอกจากจะเป็นการปกป้องผู้กระทำผิดแล้วยังเป็นการข่มขู่ คุกคาม ขัดขวางและปิดกั้นการตรวจสอบ

3. เมื่อมีพฤติการณ์ว่ามีการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น โดยเฉพาะการแสวงหาประโยชน์ จากโครงการ  ย่อมเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. , ส.ต.ง. , ส.ต.ช. , กรมสอบสวนคดีพิเศษ , ป.ป.ง. ที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบได้  แม้ไม่มีผู้ใดร้องขอ เพราะได้ปรากฏเหตุอันมีข้อสงสัยว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้ว กองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐไม่มีเอกสิทธิใดๆ เป็นพิเศษ ย่อมจะต้องถูกตรวจสอบได้เช่นเดียวกับหน่วยงานของรัฐอื่นๆ  จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่กล่าวมาเข้ามาตรวจสอบโดยเร่งด่วนที่สุด แม้จะมีการตั้งมูลนิธิฯ เพื่อมารับบริจาคและรับผิดชอบโครงการ แต่มูลนิธิฯ ดังกล่าว ดำเนินการโดยบุคลากรของกองทัพบก ใช้สถานที่ของกองทัพบก ในชั้นแรกมีการบริจาคเงินเข้าบัญชีสวัสดิการกองทัพบก ย่อมเป็นราชการของกองทัพบก ผู้บริจาคให้โครงการล้วนแล้วเป็นหน่วยงานของรัฐเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นการบริจาคให้โครงการฯ ก็จะต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการรับเงินหรือรับทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ทางราชการ พ.ศ.2526 โดยอยู่ภายใต้การตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเช่นเดียวกัน

4. พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่า โครงการอุทยานราชภักดิ์ มีความสำคัญยิ่งต่อความรู้สึกของประชาชน  ทั้งประเทศ เป็นโครงการที่เห็นชอบอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรี เมื่อมีการทุจริตเกิดขึ้นและเกี่ยวพันถึงบุคลากร  ในกองทัพ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ รัฐบาลจึงมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยพลัน จึงขอเรียกร้องมายังนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเปิดเผย โปร่งใส และประกาศให้สาธารณชนทราบต่อไป

พรรคเพื่อไทย
24  พฤศจิกายน 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น